หมากผู้หมากเมีย เป็นไม้ประดับที่นิยมปลูกกันมาช้านานแล้ว มีสีสันสวยงามสะดุดตา เป็นไม้ประดับในเขตร้อน ปลูกเลี้ยงง่าย สามารถปลูกในกระถางเป็นไม้ประดับ และปลูกเป็นแปลงเพื่อตัดใบขาย เพื่อนำไปจัดตกแต่งสวน และสถานที่ต่างๆ
ประเทศไทยมีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและการขยายพันธุ์ ตลอดจนมีการพัฒนาพันธุ์ของหมากผู้หมากเมีย ทำให้ได้ต้นใหม่ที่งดงาม สีสันของใบสวยงามหลากหลาย กลายเป็นจุดเด่นของหมากผู้หมากเมีย เช่น สีม่วง น้ำตาล เขียวอ่อน แดง และชมพู เป็นต้น
คุณอำนวย สาวน้อย เป็นอีกหนึ่งเกษตรกรที่มีความรู้เรื่องหมากผู้หมากเมีย เพราะพื้นที่ในย่านบางกรวย จ.นนทบุรี อาจเรียกได้ว่าเป็นแหล่งผลิตไม้ดอกไม้ประดับเลยก็ว่าได้
คุณอำนวยเล่าให้ฟังว่า เริ่มแรกเดิมทีในพื้นบริเวณในแถบนี้มีอาชีพทำสวนชมพู่เล็กๆ สืบทอดต่อกันมาจากรุ่นพ่อแม่ จนกระทั่งประสบภัยพิบัติเรื่องน้ำเค็ม บวกกับปัญหาแมลงวันทองระบาดหนัก จนแบกรับต้นทุนไม่ไหว ในที่สุดก็ต้องเลิกไป
“ในช่วงระหว่างที่ทำสวนไม้ผล ผมซื้อหมากผู้หมากเมียมาปลูกประดับไว้ที่ริมรั้วบ้าน แลดูสีสันสวยงาม น่าสนใจ จึงศึกษาข้อมูลเบื้องต้นจากตำราบ้าง นอกจากนั้นก็ใช้ประสบการณ์เรียนรู้ด้วยตัวเอง”
เขาจึงทดลองปลูก หาซื้อแม่พันธุ์ทับทิมสยามจากญาติพี่น้องมาปลูกเพื่อขยายพันธุ์เพิ่ม เพราะได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีเกินคาด จนปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกรวม 4 ไร่ แม่พันธุ์กว่า 20,000 ต้น เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง
เทคนิคการปลูกเลี้ยงหมากผู้หมากเมีย
สายพันธุ์หมากผู้หมากเมีย
หมากผู้หมากเมียมีพันธุ์อยู่มากมาย พันธุ์ที่เลือกปลูกมี 2 พันธุ์ คือ
1.พันธุ์เพชรชมพู จุดเด่นอยู่ที่ใบเป็นรูปหอก ปลายใบแหลม โคนใบสอบเข้าหาก้านใบ ใบอ่อนจะมีสีเขียวปนขาว และสีชมพูอ่อน เมื่อใบแก่จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว สีม่วง หรือแดงเข้ม ใบเป็นมัน จะแตกใบรวมกันตรงส่วนยอดของลำต้นสลับเป็นวงกลม ก้านใบ หรือกาบใบสีแดงเข้ม พื้นใบมีสีเขียวอมเทา ขอบใบแต้มด้วยสีครีม และสีชมพูเข้ม ลากเป็นเส้น เส้นกลางใบมีสีเขียวอ่อน กาบใบมีสีเขียวขลิบด้วยสีชมพูเข้ม
2.พันธุ์ทัมทิมสยาม เป็นไม้เอกของสวน มีลักษณะเด่น คือ ลำต้น กาบใบ และผิวใบ จะมีสีทับทิม ความงามของใบสีแดงอมชมพู ทำให้เป็นที่ต้องตาต้องใจของทุกคนที่พบเห็น จึงเป็นพันธุ์ที่ตลาดต้องการมาก
คุณอำนวยให้ข้อมูลว่า เหตุผลที่เลือกพันธุ์เพชรชมพู กับทับทิมสยาม เพราะเป็นไม้ที่ปลูกเลี้ยงง่าย ตายยากมาก เมื่อเทียบกับไม้ดอกไม้ประดับตัวอื่น และขั้นตอนการขยายพันธุ์ก็ง่าย ไม่ซับซ้อน โดยวิธีตอนกิ่ง และพยายามคัดเลือกพันธุ์ที่ตลาดมีความต้องการสูงมาปลูก
จุดเด่นของหมากผู้หมากเมียอยู่ที่เรื่องสี รูปใบ และทรงพุ่ม อย่าง พันธุ์ทับทิมสยาม เด่นทั้งสี และฟอร์มต้น เมื่อเปรียบเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ ทับทิมสยามจึงเหมาะที่สุดสำหรับนำมาปลูกใส่กระถางเพื่อประดับตกแต่งสถานที่ อาคาร บ้านเรือน วัด แม้แต่พิธีกรรมต่างๆ
ลักษณะทั่วไปของต้นหมากผู้หมากเมีย
ลักษณะทั่วไปของต้นหมากผู้หมากเมีย ลำต้นตั้งตรง ไม่มีกิ่งก้านสาขามากนัก เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ขยายพันธุ์ด้วยการตอน การปักชำลำต้น การปักชำยอด การปักชำเหง้า และการแยกลำต้น เจริญเติบโตได้ดีในดินเกือบทุกประเภท ชอบดินร่วนซุย แสงแดดปานกลางถึงรำไร ในธรรมชาติมักขึ้นใกล้แหล่งน้ำที่มีความชุ่มชื้น หรือใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีแสงแดดรำไร
หมากผู้หมากเมียที่เรียกว่า สวย ทรงพุ่มโปร่ง และเพรียว แตกกิ่งและแขนงออกรอบๆ ต้น รูปทรงสมส่วน สีสัน ลวดลายบนใบชัดเจน นี่คือเสน่ห์ของหมากผู้หมากเมียที่เห็นได้ชัด
หมากผู้หมากเมีย เป็น ต้นไม้มงคล นาม โบราณเชื่อว่า บ้านใดปลูกไว้ประจำบ้าน จะทำให้เกิดความอยู่เย็นเป็นสุข
การขยายพันธุ์หมากผู้หมากเมีย
การขยายพันธุ์ ได้ทั้งวิธีตอน วิธีชำ ส่วนการเพาะเมล็ดนั้นจะใช้กับการผสมพันธุ์ใหม่ๆ เท่านั้น
การตอนกิ่ง ทำแผลแบบกรีดกิ่งโดยใช้ใบมีดกรีดรอยแผลตามความยาวของกิ่ง ยาว 1-1.5 นิ้ว ลึกถึงเนื้อไม้ 3-5 รอยรอบกิ่ง จากนั้นใช้ขุยมะพร้าวหุ้มกิ่งตอน มัดด้วยเชือกให้แน่น วิธีนี้ง่ายและรวดเร็ว
เจ้าของสวนบอกว่า การตอนกิ่งจะใช้ได้ดีกับพันธุ์ทับทิมสยาม เพราะออกรากง่ายกว่ามาก เทื่อเทียบกับพันธุ์เพชรชมพู
“พันธุ์ทับทิมสยาม เวลาขยายพันธุ์ผมใช้วิธีตอน หรือจะตัดยอดไปปักเลยก็ได้ กว่ารากจะออกใช้เวลาประมาณ 1 เดือนกว่า สามารถตัดไปปลูกลงกระถางตามไซส์ที่ต้องการได้เลย”
การปักชำลำต้น โดยตัดลำต้นเป็นท่อนยาวมี 1-3 ข้อ ทารอยแผลด้วยปูนแดง หรือสารป้องกันกำจัดเชื้อรา และจุ่มฮอร์โมนเร่งรากด้วยจะดีมาก ทั้ง 2 รอย (บนและล่าง) ผึ่งให้รอยแผลแห้ง นำไปปักชำในวัสดุเพาะชำโดยวางกิ่งชำในแนวนอนหรือในแนวตั้ง วางในบริเวณที่ร่ม รดน้ำพอชื้น ท่อนพันธุ์จะงอกเป็นต้นใหม่
วัสดุเพาะ สวนใช้ขี้เถ้าแกลบ เพราะราคาถูก และหาได้ง่ายในท้องถิ่น ที่สำคัญจากการทดลองพบว่าออกรากเร็วกว่าการใช้ขุยมะพร้าวล้วน ด้วยคุณสมบัติของขี้เถ้าแกลบช่วยเพิ่มแร่ธาตุ ดินอุ้มน้ำได้ดี ไม่มีปัญหาน้ำท่วมขัง ทำให้หมากผู้หมากเมียแตกรากเร็ว
คุณอำนวยแนะนำว่า วิธีปักชำลำต้นนี้หากใช้กับพันธุ์ทับทิมสยาม และเพาะลงบนขุยมะพร้าว เปอร์เซ็นต์ได้ผลมีน้อย แต่ถ้านำมาใช้กับพันธุ์เพชรชมพูจะได้ผลดีเกินคาด ต้นแตกรากเร็ว และเยอะมาก ในเวลาไม่นาน
เมื่ออายุครบ 1 เดือน รากจะงอกเต็มที่ พร้อมแยกออกจากตะกร้า ปลูกเลี้ยงในที่ร่มรำไรภายในโรงเรือน พร้อมที่จะนำไปปลูก
“เลือกกิ่งพันธุ์จากแม่พันธุ์ที่มีอายุ 2 ปีขึ้นไป ตัดเป็นท่อนนำมาวางหรือปักชำในวัสดุเพาะ ทิ้งไว้ 1 เดือน จากนั้นจึงค่อยๆ แยกใส่กระถาง ก็สามารถขายได้แล้ว” คุณอำนวยพูดสรุปวิธีการอย่างคร่าวๆ ให้ทีมงานฟังอีกครั้ง
การปลูกหมากผู้หมากเมียในแปลง
โดยทั่วไปเกษตรกรจะปลูกหมากผู้หมากเมียในร่องสวน เพราะดินมีความชื้น แต่ในพื้นที่นั้นจะต้องมีร่มเงา หรือมีการพรางแสงช่วยบ้าง หมากผู้หมากเมียจึงจะงาม จะมีบางพันธุ์เท่านั้นที่สามารถอยู่กลางแจ้งได้ แต่ก็ต้องให้น้ำมาก ใบจึงจะไม่ไหม้
คุณอำนวยเผยปัจจัยที่ต้องคำนึงในการปลูกหมากผู้หมากเมียแบบแปลง คือ
- พื้นที่มีความเหมาะสม ใกล้แหล่งน้ำ
- สภาพดินมีความสมบูรณ์
- ความสะดวกในการดูแลรักษา และ
- ดินระบายน้ำได้ดี ให้ยกแปลงต่ำ ถ้าดินระบายน้ำไม่ดี ต้องยกแปลงให้สูง
วิธีการทำแปลงปลูก ให้ขุด พรวน พลิกหน้าดินให้ทั่วทั้งแปลง แล้วตากดินให้แห้ง อย่างน้อย 1 อาทิตย์ นำปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ใบไม้ผุๆ มาใส่ และคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วจึงทำร่อง หรือขุดหลุมปลูกตามระยะที่ต้องการ โดยทั่วไปจะใช้ระยะระหว่างต้น 30 ซม. ระยะระหว่างแถว 20-30 ซม.ก็ได้ ปลูกแบบร่องสวนจะปลูกได้ประมาณ 20,000 ต้น/ไร่
การปลูกก็ทำเหมือนปลูกต้นไม้ทั่วไป คือ นำต้นกล้าลงมาปลูกในหลุมที่เตรียมไว้ กลบดินให้แน่นพอสมควร รดน้ำให้ชุ่ม หลังจากปลูกเสร็จควรหาวัสดุคลุมดิน เช่น ฟางแห้ง หรือหญ้าแห้ง คลุมหน้าดินรอบๆ ต้นกล้า เพื่อรักษาความชุ่มชื้น และอุณหภูมิในแปลงปลูก
ส่วนการปลูกลงในกระถางให้ทำเช่นเดียวกับการปลูกไม้ประดับทั่วไป โดยมีข้อสำคัญ คือ ดินที่จะปลูกนั้นจะต้องอุดมสมบูรณ์ และระบายน้ำได้ดี ส่วนที่ตั้งของกระถางนั้นต้องไม่ให้โดนแดดจัด เพราะจะทำให้ใบไหม้ สีใบจะตก กร้าน ไม่สดสวย หากเลือกที่ตั้งวางได้ควรให้หมากผู้หมากเมียได้รับแสงแดดในตอนเช้า จะดูสวยงามกว่าที่ได้รับแสงตอนบ่าย และควรหมุนกระถางทุกเดือน เพื่อให้ได้รับแสงแดดทั่วต้น ทำให้ลำต้นไม่เอียง
การจะเลี้ยงหมากผู้หมากเมียให้ฟอร์มมีคุณภาพสวยดั่งใจ สภาพของโรงเรือนมีผลต่อความสมบูรณ์ของต้นด้วย เนื่องจากหมากผู้หมากเมียเป็นไม้ประดับที่เซนซิทีฟสูง
แสงแดดมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสี และฟอร์มต้น ถ้าได้รับความเข้มของแสงมากจะทำให้สีซีดลง แต่ถ้าเลี้ยงในที่ร่ม สีจะเข้มขึ้น ดังนั้นสำหรับประเทศไทยที่มีอุณหภูมิสูงเกินไป การพรางแสงเป็นการช่วยลดอุณหภูมิ ควรใช้ซาแรนพรางแสง 60-70%
“หากถูกแดดจัดเกินไปจะทำให้ใบไหม้ สีใบซีดลง ตรงกันข้ามถ้าได้รับแสงน้อย ใบจะเขียวเป็นตุ่ม ออกเหลืองๆ ก้านใบยาวเก้งก้าง คอพับ เสียฟอร์ม และเป็นโรคง่าย โอกาสเน่าตายสูง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าผู้เลี้ยงอยากให้ไม้ออกมาสไตล์ไหน” คุณอำนวยยืนยัน
ในสภาพอากาศแห้งและเย็นช่วงกลางคืนจะช่วยให้หมากผู้หมากเมียเกิดสีใบเพิ่มขึ้น “แสงมีผลต่อทรงพุ่ม และสีสัน ยิ่งหน้าหนาวสีจะแดงมากเป็นพิเศษ” คุณอำนวยพูดอย่างมั่นใจ คุณอำนวยมุ่งผลิตหมากผู้หมากเมียเน้นความแข็งแรง และสีสัน เป็นสำคัญ เมื่อลูกค้าซื้อไปแล้วต้องประทับใจ ทั้งจากภายนอก คือ เรื่องสีสันสวยงาม และภายในด้านความแข็งแรงของต้น ปลอดโรค-แมลง รับรองมีคุณภาพทุกต้น
“สำหรับฟอร์มไม้ขึ้นอยู่กับความชอบของผู้ซื้อ ซึ่งทางสวนจะไม่เน้นว่าจะต้องเป็นฟอร์มนั้น ฟอร์มนี้ เพราะลูกค้าแต่ละคนชอบไม่เหมือนกันอยู่แล้ว”
การดูแลรักษาหมากผู้หมากเมีย ต้นไม้มงคล
ในการปลูกหมากผู้หมากเมียมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรักษาดูแลอย่างดี และสม่ำเสมอ จะทำให้หมากผู้หมากเมียมีอายุยาวนาน ให้ผลผลิตสูง และสม่ำเสมอตลอดไป จึงควรให้การดูแลอย่างต่อเนื่อง
การใส่ปุ๋ย การให้ปุ๋ยเคมีช่วยในระยะปลูกเริ่มแรก จะช่วยให้หมากผู้หมากเมียเจริญเติบโตเร็วขึ้น โดยการใส่ปุ๋ยยูเรีย เพื่อเพิ่มธาตุไนโตรเจน เร่งความเจริญเติบโต โดยหว่านให้ทั่วทั้งแปลง หรือละลายน้ำรด หรือฉีดพ่นทางใบ ถ้าใช้วิธีหว่านจะต้องรดน้ำตามทันที เพื่อให้ปุ๋ยละลายลงดิน
ข้อแนะนำ อย่าให้ปุ๋ยค้างอยู่ที่ใบได้ จะทำให้ใบไหม้ ลอกท้องร่องให้หมากผู้หมากเมียปีละครั้งช่วงต้นฤดูฝน ก็จะทำให้ได้ดินใหม่ที่มีธาตุอาหารตามธรรมชาติครบถ้วน ซึ่งเป็นวิธีที่หมากผู้หมากเมียชอบมากที่สุด และเป็นการป้องกันโรครากโคนเน่าได้อีกทาง
การให้น้ำ ควรให้น้ำให้พอดีกับความต้องการของ หมากผู้หมากเมีย ตามขนาด อายุ และตามฤดูกาล ให้น้ำชุ่มแต่อย่าแฉะ โดยตามปกติควรให้น้ำวันละ 2 ครั้ง ตอนเช้าและเย็น ถ้าอากาศร้อนจัดอาจจะต้องให้เพิ่มอีกครั้งในตอนกลางวัน สวนจะรดน้ำวันเว้นวัน หรือลดลงเมื่อมีฝนตกในช่วงฤดูฝน โดยให้สังเกตจากใบและความสดชื่นของต้นและดิน หากถ้าเป็นดินทรายต้องรดน้ำบ่อยกว่าดินเหนียว
พยายามอย่าให้น้ำกระแทกใบและต้นอ่อนมากเกินไป เพราะจะทำให้ต้นและใบหัก อย่าให้น้ำที่รดกระแทกดินที่โคนต้นแรงๆ จะทำให้ดินกระเด็นเลอะใบ และเชื้อโรคจะระบาดได้ง่าย ธาตุอาหารก็จะถูกชะล้างไปกับน้ำด้วยนั่นเอง
คุณอำนวยกล่าวว่า เรื่องน้ำมีความสำคัญมาก จะมีปัญหาแน่นอนถ้าไม่สามารถควบคุมปริมาณน้ำภายในสวนได้ โดยเฉพาะพันธุ์ทับทิมสยามจะชอบความชื้นมาก
“แต่ก่อนผมเน้นว่าปุ๋ยสำคัญ มาพักหลังผมจะเน้นน้ำ คือ ถ้าขาดน้ำตาย น้ำมากตาย เพราะน้ำมากไปจะทำให้รากเน่า ต้องคุมปริมาณน้ำได้ ความชื้นต้องคุมให้ได้ ยิ่งถ้าหน้าฝนเราจะควบคุมไม่ได้เลย หากไม่ได้วางแผนตั้งแต่เริ่มต้น ส่วนเรื่องปุ๋ยค่อยว่ากันทีหลัง ไม้จะสวย ไม่สวย ค่อยมาว่ากันเรื่องปุ๋ย” คุณอำนวยพูดถึงความสำคัญของน้ำต่อการปลูก หมากผู้หมากเมีย
หมากผู้หมากเมีย ไม่ค่อยมีโรคและแมลงมารบกวนมาก สำหรับโรคที่มักพบเสมอ คือ โรครา จะพบว่ามีการระบาดในช่วงต้นฤดูหนาว มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลที่ใต้ใบแก่ ถ้าเป็นมากจะทำให้ใบร่วง ถ้าใบไม่ร่วงโรคนี้จะหายไปเองเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน
“แต่สำหรับฤดูกาลที่สร้างปัญหาให้สวน หมากผู้หมากเมีย ส่วนใหญ่ อย่าง ทับทิมสยาม เห็นได้ชัด คือ ช่วงหน้าฝน เพราะส่งผลให้ต้นเน่าตายจำนวนมาก สาเหตุเกิดจากการได้รับความชื้นแฉะมากเกินไป”
การป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืช
เจ้าของสวนเผยวิธีการสังเกต หากต้นถูกโรครากเน่าระบาด อาการจะแสดงออกที่ยอดและปลายใบ สมมุติว่ารากเน่า รากเสีย จะส่งผลถึงปลายยอดใบไหม้ หรือใบคอพับหักด้วย ให้รีบขุดต้นนั้นออกจากแปลงไปทำลายทิ้ง เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่ไปต้นอื่นๆ
แมลงศัตรูที่สำคัญและพบเป็นประจำ คือ ตั๊กแตนกินใบ จะมากินยอด และใบอ่อน ในช่วงที่แทงยอด หรือแตกใบอ่อน ทำให้ยอดขาด และใบเป็นรู เสียความงามไป
สิ่งที่ควรใส่ใจของอาชีพนี้ มีอยู่ 2 อย่าง ที่สร้างความเสียหายไม่น้อย คือ โรครากเน่า และตั๊กแตน
ส่วนการปลูกลงกระถาง หลังจากได้นำกิ่งตอนปลูกลงในกระถางที่มีเครื่องปลูกเป็นกาบมะพร้าวสับ การรดน้ำวันเว้นวัน ใส่ปุ๋ยละลายช้าสูตรเสมอ 16-16-16 และพ่นยากันเชื้อราบ้างในบางครั้ง
คุณอำนวยย้ำตลอดการสนทนาว่า ถ้าใจไม่รักก็อย่าทำเลย เพราะต้องดูแลเอาใส่อย่างใกล้ชิด ต้องฉีดยาฆ่าแมลง ฮอร์โมนต่างๆ อีก แต่เมื่อผ่านไปได้ 1 เดือน ก็ได้ขายแล้ว เห็นเงินแน่นอน
“ผมให้ความสำคัญกับลูกค้าเสมอ เมื่อซื้อไปเลี้ยงต่อแล้วไม่ตาย สวนจึงจะเลี้ยงแบบค่อนข้างโหด ให้ไม้รู้จักหาอาหารกินเอง จะไม่ใส่ปุ๋ย หรือฮอร์โมนเร่งทางใบมาก จะให้แค่ช่วงยามจำเป็น หรือสังเกตเห็นอาการไม่ดี เพราะถ้าหากให้บ่อยๆ พอถึงช่วงที่ขาดปุ๋ย ฮอร์โมน ต้นอาจเกิดอาการเหี่ยวเฉา คอตก ใบพับได้ ที่สวนเลี้ยงแบบธรรมชาติ ไม้จึงแข็งแรง สมบูรณ์ อย่างที่เห็น” คุณอำนวย กล่าว
ความนิยมของหมากผู้หมากเมีย ต้นไม้มงคล
ในมุมมองของคุณอำนวย ตลาดซื้อขาย หมากผู้หมากเมีย 10 ปีที่ผ่านมา ราคาค่อนข้างดี และขายง่าย ปัจจุบันราคาถูกลง เนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจไม่อำนวย อีกทั้งผู้ผลิตก็มากขึ้น ช่วงที่ตลาดจะดีขึ้นมาหน่อยเป็นช่วงหน้าฝน วนเป็นวงจรแบบนี้ทุกปี และอีกช่วงหนึ่งที่ขายดี คือ ช่วงปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์ และลอยกระทง เทศกาลต่างๆ
แต่พันธุ์ที่สวนเลือกปลูกส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ที่ตลาดต้องการอยู่แล้ว เช่น ทับทิมสยาม ซึ่งเป็นพันธุ์ยอดนิยมของกลุ่มนักจัดสวนในเมืองไทยอย่างมาก ทั้งด้านสีสันฉูดฉาด และฟอร์มต้นที่สมส่วนสง่างาม มองรวมๆ แล้วมีเสน่ห์ เกิดเป็น “แม่เหล็ก” ดึงดูดลูกค้าจำนวนมากที่ต้องไขว่คว้าหามาปลูกประดับอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดจีน นับเป็นลูกค้าหลักของสวนแห่งนี้เลย
ด้านการตลาด หมากผู้หมากเมีย
ปัจจุบันมีกลุ่มนักจัดสวนให้ความสนใจมากยิ่งขึ้น เช่น ตามหน่วยงานราชการ วัด โรงเรียน และโรงแรม เป็นต้น นำไปประดับตกแต่ง ทั้งภายในอาคาร และบริเวณรอบอาคาร สวนหย่อม จุดพักผ่อนต่างๆ
ลูกค้าของสวนมีอยู่ทั่วประเทศ นำผลผลิตส่งให้กับพ่อค้า ทั้งเหนือ ใต้ อีสาน จำหน่ายตั้งแต่ไซส์กระถาง 4-6 นิ้ว ราคาส่งอยู่ที่ 40-150 บาท ราคาของต้น หมากผู้หมากเมีย ขึ้นอยู่กับขนาดกระถาง และฟอร์มต้น เป็นหลัก
มีให้เลือกหลายลักษณะ และรูปทรงที่สวยงาม แตกต่างกัน ตามความต้องการและความพอใจ หมากผู้หมากเมีย ได้รับความนิยมอย่างมาก ตลาดพันธุ์ไม้มีความต้องการสูง เพราะมีสีสันสวยงาม
“ไม้ดอกไม้ประดับต่างๆ ยิ่งอยู่นาน ยิ่งมีอายุ ยิ่งมีค่า อย่างวันนี้ขาย 10 บาท ไม่ได้ พรุ่งนี้ขาย 15 บาท หรือราคาที่สูงกว่านี้ได้ เพราะไม้โตขึ้นเรื่อยๆ” คุณอำนวยกล่าวทิ้งท้าย
ในปัจจุบันยังไม่มีการปลูก หมากผู้หมากเมีย เพื่อการค้าและการส่งออกอย่างจริงจัง จึงควรมีการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรหันมาปลูกเลี้ยงและพัฒนากันอย่างจริงจัง เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีปริมาณและคุณภาพสม่ำเสมอ ตรงตามความต้องการของตลาด ทั้งในและต่างประเทศ ที่ยังมีความต้องการสูงอยู่ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ที่ผลผลิตขาดแคลนไม่พอกับความต้องการของตลาด
ดังนั้นการปลูก หมากผู้หมากเมีย จึงเป็นโอกาสและทางเลือกหนึ่งของเกษตรกร ที่จะดำเนินชีวิตตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้การนำภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อครอบครัว และชุมชน อย่างยั่งยืน
ขอขอบคุณข้อมูล คุณอำนวย สาวน้อย 42 หมู่ 6 ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี 11130
โทรศัพท์ 08-6010-3051