อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย นับว่าเป็นแหล่งผลิตไผ่กวนอิมเพื่อการค้าที่มีพื้นที่ผลิตมากที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้ เพราะมีการผลิตมากถึง 300 ไร่ และมีแนวโน้มจะขยายพื้นที่การผลิตเพิ่มมากขึ้นอีก ไผ่กวนอิม
ปัจจุบันไผ่กวนอิมเป็นไม้ประดับที่กำลังเป็นที่นิยมของตลาด ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เนื่องจากมีความเชื่อกันว่าเป็นไม้มงคลที่มีความสวย เป็นอมตะ มีความคงทนอยู่ได้นานหลายปี มีโรคและแมลงรบกวนน้อยมาก อีกทั้งยังปลูกง่าย สามารถเจริญเติบโตได้ทุกสภาพพื้นที่
คุณเสาวลักษณ์ วงศ์สิรเจริญ ผู้ผลิตไผ่กวนอิม จ.เชียงราย
สำหรับ คุณเสาวลักษณ์ วงศ์สิรเจริญ ผู้ผลิต ไผ่กวนอิม มองเห็นว่า ไผ่กวนอิม เป็นไม้ประดับที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่ากับการลงทุน ลงทุนเพียงครั้งเดียวสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้อย่างน้อย 10 ปี โดยสามารถตัดลำต้นจำหน่ายได้ครั้งแรกเมื่ออายุเพียง 180-200 วัน และหลังจากนั้นก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดปี
เสาวลักษณ์เล่าจุดเริ่มต้นว่า “เริ่มแรกเป็นแม่ค้าอยู่ที่ตลาดปากคลองตลาด ทำนานๆ ไปรู้สึกเหนื่อย เพราะต้องขายทั้งวัน ทั้งคืน โดยมีครอบครัวทำไผ่กวนอิมส่งให้เธอขาย มีหน้าร้านที่ปากคลองตลาด เธอจึงให้ลูกจ้างขายแทน และกลับมาช่วยงานที่บ้าน เนื่องจากสั่งซื้อเจ้าอื่นแล้วได้รับสินค้าไม่มีคุณภาพ ไม่มีการคัดเกรดตามมาตรฐาน หรือตามความต้องการของตลาด ทำให้เธอต้องกลับมาปลูกเอง ปัจจุบันทำมาแล้ว 9 ปี และมีลูกสวนอีกหลายราย”
ลักษณะของไผ่กวนอิม
ไผ่กวนอิม (Ribbon plant)ไม้พุ่มยืนต้นคล้ายกล้วยไม้สกุลหวาย ลำต้นโตประมาณ 1-2 เซนติเมตร สูงประมาณ 1-3 เมตร ลำต้นกลมตรงเล็ก ลำต้นเป็นข้อๆ สีเขียว ไม่มีกิ่งก้านสาขา เจริญเติบโตด้วยการยืดตัวของข้อ ใบเป็นใบเดี่ยว แตกออกจากส่วนยอดของลำต้น มีกาบใบห่อหุ้มลำต้นสลับกันเป็นชั้นๆ ตามข้อของลำต้น ลักษณะใบแคบเรียวยาว ปลายใบแหลม โคนใบสอบลงมาถึงกาบใบ พื้นใบมีสีเขียว หรือมีสีขาว พาดตามยาวของใบ ขนาดความกว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาว 6-8 เซนติเมตร
ไผ่กวนอิม ไม้ประดับนามมงคล ชื่อเทพเจ้าที่ชาวจีนและชาวไทยให้ความเคารพบูชากันแพร่หลาย มีความเชื่อว่าหากครอบครัวใดที่ปลูกต้นกวนอิมเงิน กวนอิมทอง ไว้ภายในบ้าน จะช่วยดลบันดาลให้ครอบครัวนั้นมีโชคลาภ เพิ่มพูนทรัพย์สินเงินทอง มีฐานะร่ำรวย ทำมาค้าขายจะได้กำไรมั่งคั่ง
พันธุ์ที่นิยมปลูก มี 3 พันธุ์ คือ
1.ไผ่กวนอิมสีเขียว หรือไผ่หยก มีใบสีเขียวล้วน
2.ไผ่กวนอิมสีทอง หรือไผ่ทอง มีลำต้นและใบจะมีสีเหลือง และสีเขียว
3.ไผ่กวนอิมสีเงิน หรือไผ่เงิน มีลำต้นและใบที่มีสีเขียว และสีขาว
สภาพพื้นที่ในการปลูกไผ่กวนอิม
พื้นที่ผลิตไผ่กวนอิมในแม่สายส่วนใหญ่เป็นที่นา ผู้ผลิตไผ่กวนอิมจะเช่าระยะยาว ต้นทุนการผลิตที่ใช้ลงทุนในระยะเริ่มแรกประมาณ 1 แสนบาทต่อไร่ ต่อจากนั้นต้นทุนการผลิตจะลดลง จะเหลือเป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละปี เป็นค่าปุ๋ย ค่าเก็บเกี่ยว และค่าขนส่ง เท่านั้น ดังนั้นการลงทุนปลูก 1 ครั้งสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้อย่างน้อย 10 ปี
การปลูกไผ่กวนอิมส่วนมากจะใช้แรงงานคนในการปลูก เช่นในกรณีของสวนเสาวลักษณ์ส่วนมากจะใช้แรงงานคนในการปลูก และเก็บเกี่ยว ผลผลิตไผ่กวนอิม ทำให้ต้องเสียค่าแรงในการจ้างแรงงานมาทำงานในส่วนนี้ รวมไปถึงการเสียเวลา เพราะหากมีแปลงปลูกขนาดใหญ่ต้องใช้เวลาในการปลูกนาน ดังนั้นถ้าหากสามารถนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการเพาะปลูกจะช่วยให้สามารถประหยัดเวลาลงได้มาก
เสาวลักษณ์ให้ข้อมูลว่า “คนมักไม่ค่อยปลูกกัน เพราะไม่รู้แหล่งขาย และมีการลงทุนสูงในครั้งแรก โดยที่สวนลงทุนเริ่มแรก 300,000 บาท ทำประมาณ 2 ปี คืนทุน เพราะ 1 ปี ที่ปลูก ต้นจะแตกหน่ออยู่เรื่อยๆ เมื่อปลูกนานๆ ประมาณ 4-5 ปี รากจะเริ่มอัดกันแน่น ให้ขุดแปลงตากหน้าดิน เพื่อปลูกต้นใหม่ มักนิยมทำช่วงหน้าแล้ง” สามารถปลูกได้ทุกสภาพพื้นที่ เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทราย ต้องเตรียมแปลงปลูกโดยการไถดะ แล้วตากหน้าดินไว้ประมาณ 30 วัน จากนั้นจึงทำการไถพรวนเพื่อกำจัดวัชพืช และปรับหน้าดิน คลุกแกลบดำลงไปเพื่อช่วยให้ดินมีความร่วนซุยมากขึ้น
ถ้าเป็นสภาพพื้นที่ลุ่มน้ำท่วมถึง ควรยกร่องขุดยกคันดินแปลงปลูกให้สูงประมาณ 40 เซนติเมตร กว้างประมาณ 1 เมตร และแต่ละแปลงห่างกันประมาณ 40 เซนติเมตร เพื่อเป็นร่องระบายน้ำ
“เนื่องจากสวนอยู่ในพื้นที่ต่ำ น้ำท่วมถึง จึงต้องยกคันดินขึ้น เพราะหากต้นได้รับน้ำมากเกินไป ต้นจะไม่แตกหน่อ และอาจจะเน่าได้ง่าย สะดวกในการเดินเข้าไปตัด และเพื่อสูบน้ำเข้าสวนในช่วงฤดูแล้ง” เสาวลักษณ์ให้เหตุผลการยกร่องแปลง
จากนั้นจึงนำกิ่งพันธุ์ไผ่กวนอิมมาลงปลูกในแปลง โดยการตัดลำต้นที่มีความยาวประมาณ 50 เซนติเมตร ลงปลูกในแปลง หรืออาจจะนำไปแช่น้ำเพื่อทำให้รากงอกก่อน ในกรณีที่ปลูกเป็นไม้ประดับเพียงเล็กน้อย แต่ในการปลูกในแปลงขนาดใหญ่ หรือปลูกในเชิงธุรกิจ ไม่สามารถใช้วิธีนี้ได้ เพราะจะทำให้เสียเวลา
โรงเรือนไผ่กวนอิม
การปลูกทำโรงเรือนขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ปลูกทั้งหมด เพราะ ไผ่กวนอิม เป็นพืชต้องการแสงน้อย ดังนั้นการปลูกไผ่กวนอิมจึงจำเป็นต้องสร้างโรงเรือน โดยใช้ซาแรนพรางแสง 50-60 % หากใช้ซาแรนที่มีความหนามากเกินไป ใบกวนอิมจะยืดยาวไม่เข้ารูป โดยปลูกแบบแถวคู่ 1 เมตร ปลูก 6 แถว ในพื้นที่ 1 ไร่ ใช้ต้นพันธุ์ 30,000 ต้น
“ปัจจัยสำคัญที่อำเภอแม่สายมีไม่เหมือนที่อื่น คือ สภาพอากาศที่ไม่ร้อนจนเกินไป เมื่อใส่ปุ๋ยแล้ว หากต้นไม่ได้รับน้ำ และอากาศ ที่เหมาะสม จะทำให้ปลายใบมีรอยไหม้ และเหลืองแห้ง
“มีลูกสวนซื้อต้นกล้าพันธุ์ไปปลูกที่ร้อยเอ็ด ต้นใหญ่อ้วนสมบูรณ์ แต่ต้นไม่เขียวเหมือนอย่างสวนของเรา” เสาวลักษณ์พูดข้อได้เปรียบของอำเภอแม่สาย
การให้น้ำและปุ๋ย ไผ่กวนอิม
หลังจากทำการเตรียมดิน ยกร่องแปลง เรียบร้อยแล้ว ก่อนปลูก 1 วัน ควรรดน้ำให้ทั่วแปลง หลังจากปลูกไปแล้ว 30 วัน จึงให้น้ำตามร่องแปลงอีกครั้ง หลังจากนั้นขึ้นอยู่กับความชื้นในร่องแปลงที่ปลูก
การใส่ปุ๋ย เมื่อมีอายุได้ 20 วัน ควรใส่ปุ๋ย โดยสวนเสาวลักษณ์เน้นวิธีชีวภาพ ไม่ใช้สารเคมี
เสาวลักษณ์ให้เหตุผลว่า หากใช้ปุ๋ยเคมีจะทำให้ดินเค็ม และดินทรุดโทรมเร็ว มีผลเสียในระยะยาว หันมาใช้ปุ๋ยขี้วัวหมักแทน ต้นจะเจริญเติบโตดี และเมื่อต้นไผ่กวนอิมมีอายุได้ประมาณ 180 วัน จึงเก็บเกี่ยวได้ ไผ่กวนอิมสีเงินจะมีการเจริญเติบโตค่อนข้างช้ากว่าพันธุ์อื่นๆ
หลังจากการเก็บเกี่ยวแล้วจึงทำการใส่ปุ๋ยคอกหว่านให้ทั่วแปลง ส่วนการกำจัดวัชพืชสามารถใช้วิธีการดาย หรือถาก
โรคและแมลงศัตรูของไผ่กวนอิมนับว่ามีน้อยมาก โรคที่มักพบ ได้แก่ โรคราใบสนิม จะแสดงอาการที่ใบล่าง 3-4 ใบ ป้องกันกำจัดโดยใช้ปูนขาวโรยให้ทั่ว
แมลงศัตรูตัวฉกาจของไผ่กวนอิม คือ ตั๊กแตนปาทังก้า จะระบาดมากที่สุดในเดือนสิงหาคม โดยกัดกินใบ การกำจัด คือ การจับทำลาย หรือฉีดพ่นยาทุกๆ 5-7 วัน ประมาณ 3-4 ครั้ง
การขยายพันธุ์ไผ่กวนอิม
การขยายพันธุ์ใช้ส่วนของลำต้น โดยตัดลำต้นจากต้นแม่ ยาวประมาณ 50 เซนติเมตร แล้วนำไปปักปลูกได้เลย เมื่อปลูกได้อายุประมาณ 7-8 เดือน ต้นมีความสูง 100 เซนติเมตรขึ้นไป จะเริ่มดัดลำต้น โดยดัดตั้งแต่ปลูกอยู่ในแปลง
ขั้นตอน คือ เริ่มแรกต้นตั้งตรง ใช้ไม้วางทาบให้ต้นล้มลง และเมื่อผ่านไป 7 วัน ต้นจะผงกยอดขึ้นรับแสงแดด ให้วางไม้ทาบอันที่สองอีกทิศทางหนึ่งไปเรื่อยๆ จนเป็นรูปเกลียว กลับไป-มา ทาบไม้ครั้งหนึ่งใช้เวลา 7-8 วัน หากทิ้งไว้นานเกลียวจะใหญ่ ไม่สวย ทำให้ได้ 8 ทิศ จะครบ 2 รอบ ถ้าต้องการ 8 เกลียว จะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน
การเก็บเกี่ยวไผ่กวนอิม
ให้สังเกตความสูงของต้นว่าตรงตามความต้องการของตลาดหรือไม่ ขนาดมาตรฐานอยู่ที่ 120 เซนติเมตร
ใน 1 วัน สวนเสาวลักษณ์สามารถตัดได้ 10,000-20,000 ต้น จากนั้นนำมามัดรวมกันโดย 1 มัด มี 600 ต้น ปัจจุบันสวนส่งขาย 30-40 มัด/วัน อีกทั้งเธอมีลูกสวนให้เก็บรวบรวมผลผลิตด้วย โดยรับซื้อต้นละ 13 บาท เมื่อรับซื้อมาแล้วจะคัดเกรดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อแพ็คส่งให้ลูกค้า
“มีการทำสัญญาว่าจะต้องส่งขายให้เราเจ้าเดียว ที่ต้องทำสัญญาเพราะเราเป็นผู้ให้เงินลงทุนในครั้งแรก รายละ 100,000-200,000 บาท เมื่อครบ 2 ปี คืนทุนแล้ว เขาจะทยอยคืนเงินทุนให้” เสาวลักษณ์กล่าว
ด้านการตลาดไผ่กวนอิม
ราคาของไผ่กวนอิมขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า ไผ่กวนอิมที่ตัดแล้วมีขนาดความยาวตั้งแต่ 120 เซนติเมตร ขึ้นไป จะสามารถนำไปขายได้ราคาดี
ไผ่กวนอิมสีเขียว หรือไผ่หยก ราคาจะประมาณต้นละ 8 บาท ไผ่กวนอิมสีทอง และไผ่กวนอิมสีเงิน ราคาจะประมาณต้นละ 10 บาท ถ้าหากว่าลำต้นมีความยาวลดน้อยลงกว่านี้ราคาก็จะปรับลงประมาณ 1-3 บาท แต่ราคาของไผ่กวนอิมขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าด้วย ในบางฤดูกาลอาจจะมีราคาสูงกว่านี้
แต่ทั้งนี้ต้นไผ่กวนอิมจะต้องมีคุณภาพ คือ ลำต้นไม่ช้ำ ไม่มีแมลงศัตรูพืชมาทำลาย รวมไปถึงความสด และใหม่ ของลำต้นด้วย ตลาดของไผ่กวนอิมนอกจากในประเทศส่งไปที่ตลาดปากคลองตลาด ตลาดไท และตลาดสี่มุมเมือง แล้ว ยังมีตลาดแถบร้อยเอ็ด และลพบุรี ส่วนตลาดต่างประเทศก็มีความต้องการมากเช่นกัน ได้แก่ ประเทศบรูไน อิสราเอล และดูไบ เป็นต้น
การจำหน่ายไผ่กวนอิม
ราคาขายของสวนเสาวลักษณ์ ราคาเริ่มต้น 2-10 บาท ขึ้นอยู่กับคุณภาพ ขนาด หรือน้ำหนักต้น และสายพันธุ์ โดยแบ่งเป็นเกรดต่างๆ ดังนี้
เกรด A ต้นใหญ่ ความยาว 120 เซนติเมตรขึ้นไป ราคาต้นละ 8 บาท
เกรด B ต้นปานกลาง ความยาว 120 เซนติเมตร ราคาต้นละ 6 บาท
เกรด C ต้นเล็ก ความยาว 60-80 เซนติเมตร ราคาต้นละ 2 บาท (ขายส่งตลาดปากคลองตลาดจะเป็นราคานี้)
ส่วนตลาดส่งออกขนาดมาตรฐานอยู่ที่ 120 เซนติเมตร
“ปัจจุบันมีปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้น จนต้นโตไม่ทันขาย ยิ่งช่วงเทศกาลตัดไม้ทั้งสวนแล้วยังไม่พอขายเลย ทำให้เมื่อเวลาเราไปรับซื้อถึงลูกสวน เราจะให้เขาตัดครั้งเดียวให้หมดทั้งสวน เป็นการหมุนสลับเปลี่ยนสวนไปเรื่อยๆ เพื่อทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษา และต้นจะโตพร้อมกันทั้งสวน ขายได้ในปริมาณมาก เป็นผลดีต่อลูกสวนเองด้วย” เสาวลักษณ์กล่าว
จะเห็นได้ว่าราคาของ ไผ่กวนอิม นั้นมีราคาไม่สูงมาก ดังนั้นได้มีผู้คิดค้นวิธีที่จะเพิ่มมูลค่าไผ่กวนอิมให้มีราคาเพิ่มขึ้นโดยการนำมาทำจักสานให้มีรูปแบบที่สวยงาม และสามารถช่วยเพิ่มมูลค่าผลผลิตให้มีราคามากกว่าราคาปกติ ราคาขึ้นกับรูปแบบในการออกแบบผลผลิต และสายพันธุ์ของ ไผ่กวนอิม
“การแปรรูปจะทำตามออเดอร์ลูกค้าเท่านั้นว่าต้องการรูปแบบใด เช่น การทำไม้ถัก การทำไม้ดัด และการทำไม้ชั้น เป็นต้น ไม้ดัดเกลียวเป็นที่นิยมในตลาดต่างประเทศมาก” เสาวลักษณ์พูดการแปรรูป เพิ่มมูลค่า ของ ไผ่กวนอิม
ปัญหาและอุปสรรคของไผ่กวนอิม
ปัญหาที่สวนเสาวลักษณ์พบเจอ คือ ปัญหาลูกสวนปลูกไผ่กวนอิมได้ไม่ตรงตามไซส์ที่ตลาดต้องการ กว่าจะเข้าใจใช้ระยะเวลานานในการเรียนรู้ว่าต้นขนาดไหนที่ตลาดต้องการ เช่น ลูกค้าที่เป็นบริษัทจะต้องมีการคัดเกรด คัดคุณภาพ แต่ถ้าส่งขายในตลาดทั่วไป ขนาด 50-60 ซม. ก็สามารถนำมาขายได้ทั้งหมด เป็นต้น
ปัญหาอากาศเย็นในช่วงฤดูหนาวทำให้ต้นไม่ค่อยเติบโต และถ้าอากาศเย็นจัดลำต้นจะโค้งงอ ไม่โต อาจเป็นเพราะดินแห้ง ต้นไม่ได้ปุ๋ย จึงแคระแกร็น
ก่อนตัดสินใจปลูกไผ่กวนอิมเป็นการค้าจะต้องแน่ใจว่ามีตลาดรองรับผลผลิต สามารถหาแรงงานในการเก็บเกี่ยวไผ่กวนอิมได้
ผู้สนใจสั่งซื้อสินค้า หรือต้องการปลูกไผ่กวนอิมเพื่อการค้า สามารถโทรศัพท์ขอคำปรึกษา หรือมีข้อสงสัย เรื่องการปลูกเลี้ยง ตลาดรองรับผลผลิต สามารถแวะเวียนมาเยี่ยมชมสวน หรือติดต่อสอบถามได้ตามที่อยู่ด้านล่างนี้
ขอขอบคุณ คุณเสาวลักษณ์ วงศ์สิรเจริญ 30/2 ม.6 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย โทรศัพท์ 08-1604-1348, 08-2780-2146