AFM ผู้นำแห่งการพัฒนาพันธุ์ไม้ดอก ต้านโรค ดอกดก ปลูกได้ทั้งปี
มนุษย์เห็นประโยชน์ของพืชเพื่อการดำรงชีวิตมาเป็นเวลาช้านานไม่ว่าจะเป็นการใช้ประดับตกแต่ง เป็นอาหาร ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม หรือแม้แต่ใช้ในพิธีการต่างๆ
เมื่อประชากรเพิ่มขึ้น ทรัพยากรพืชไม่เพียงพอต่อความต้องการของมนุษย์ เพื่อให้มีพืชพรรณเพียงพอกับความต้องการ จึงเกิด วิถีเกษตรกรรม ต่างๆ เช่น ไม่ว่าจะเป็น การปลูก การขยายพันธุ์ การดูแลรักษา เก็บเกี่ยวผลผลิต หรือการอนุรักษ์สายพันธุ์ เป็นต้น
ปัจจุบันเมื่อมีการเรียนรู้ นำวิทยาศาสตร์ และวิชาการมาประยุกต์ใช้กับการปรับปรุงพันธุ์พืช ทำให้เกิดนักปรับปรุงพันธุ์พืชมากขึ้น แม้แต่วงการไม้ดอกไม้ประดับการพัฒนา หรือการปรับปรุงพันธุ์ก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่าวงการเกษตรอื่นๆ
หากพูดถึงการพัฒนาสายพันดอกไม้ระดับประเทศ และระดับอาเซียน เชื่อว่าหนึ่งในใจของเกษตรกรต้องนึกถึง บริษัท เอ เอฟ เอ็ม ฟลาวเวอร์ ซีดส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต จำหน่าย และปรับปรุงพันธุ์ไม้ดอกนานาชนิดตอบโจทย์วงการดอกไม้มานาน จนเป็นที่เชื่อถือและไว้วางใจของเกษตรกร
ติดต่อ คุณอาทิตย์ จองแดง
? โทร. 092 786 9110 ?
????????
คุณอาทิตย์ จองแดง หรือที่รู้จักในนาม อาจารย์อ๊อด นักปรับปรุงพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับ ผู้มีความรักไม้ดอกไม้ประดับตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นเด็ก และผันตัวมาเป็นนักปรับปรุงพันธุ์ไม้ดอก ของ บริษัท เอ เอฟ เอ็ม มาดูกันว่าอาจารย์อ๊อดและ เอ เอฟ เอ็ม มีแนวคิด และ การดำเนินงานด้านการปรับปรุงพันธุ์อย่างไรบ้าง
คุณอาทิตย์เล่าประวัติคร่าวๆ ให้ทีมงานฟังว่า “พื้นเพผมเป็นคนเชียงใหม่ ศึกษาที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ คณะผลิตกรรมการเกษตร ภาควิชาพืชไร่ ระดับปริญญาตรี ตอนนั้นผมเรียนเพราะชอบเรื่องการทำเกษตร ทั้งการปลูกเลี้ยงดูแล ให้ปุ๋ย ให้ยา เพื่อให้พืชงามสมบูรณ์ แล้วพื้นเพผมก็เป็นลูกชาวนาจึงยิ่งมีความชอบในเรื่องการเกษตรมาก
“จนวันหนึ่งมีโอกาสไปฝึกงานเกี่ยวกับการปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพด และพบกับอาจารย์ทวีศักดิ์ เป็นอาจารย์ด้านการปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดโดยตรง ท่านพูดกับผมว่า ผมเป็นคนละเอียดรอบคอบ เหมาะจะเป็นนักปรับปรุงพันธุ์ ถ้าหันไปทำงานด้านปรับปรุงพันธุ์น่าจะมีความก้าวหน้าในการทำงาน
“ผมจึงลองมาทำงานด้านการปรับปรุงพันธุ์พืช จากนั้นก็ไปเรียนต่อ ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในระดับปริญญาโท เน้นเรื่องการปรับปรุงพันธุ์ และทำวิจัยเกี่ยวกับการปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดหวาน
“พอเรียนจบแล้วก็มาทำงานเป็นผู้ช่วยนักวิจัย หรือผู้ช่วยนักปรับปรุงพันธุ์พืช (ข้าวโพดหวาน) อยู่ที่สถานีวิจัยของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ หลังจากทำงานได้ 2 ปี ก็รู้สึกว่าอยากทำงานใกล้บ้าน ประจวบเหมาะกับ บริษัท เอ เอฟ เอ็ม กำลังรับสมัครนักปรับปรุงพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับอยู่ พอสมัครไปแล้วทางบริษัทตอบรับมา ผมจึงได้ทำงานที่บริษัทนี้
“ตอนนี้ผมก็ทำงานได้ 7 ปี ทำหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการปรับปรุงพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับทั้งหมด” คุณอาทิตย์เล่า
แรงจูงใจทำงานด้านพัฒนาสายพันธุ์
อาทิตย์ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันบุคลากรด้านการปรับปรุงพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับของประเทศไทยมีน้อยมาก หากมีการศึกษา ค้นคว้าอย่างจริงจัง มีการพัฒนาบุคลากร วงการไม้ดอกไม้ประดับของเราก็จะพัฒนาได้มากขึ้น เช่น บริษัท เอ เอฟ เอ็ม เป็นผู้นำในธุรกิจเมล็ดพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับในประเทศไทย และกำลังจะก้าวไปเป็น ผู้นำระดับเอเชีย
สายพันธุ์ไม้ดอก ของ AFM ที่พัฒนาสำเร็จ
สายพันธุ์ไม้ดอกของบริษัท เอ เอฟ เอ็ม ที่สามารถพัฒนาขึ้นมาแล้วได้รับความนิยมมากที่สุดคือ “ดาวเรือง” เป็นไม้ดอกที่คนไทยนิยมปลูกกันมาก เนื่องจากเมล็ดมีขนาดใหญ่ปลูกง่าย งอกเร็ว ต้นโตเร็ว ให้ดอกเร็ว ดอกดก มีหลายชนิดและหลายสี รูปทรงของดอกสวยงาม สีสันสดใส บานทนนานหลายวัน สามารถปักแจกันได้นาน
การพัฒนาของทีมงานนักปรับปรุงพันธุ์ บริษัท เอ เอฟ เอ็ม คือ ใช้สายพันธุ์ต่างประเทศที่ดอกใหญ่ สีสวย กับพันธุ์ไทยที่แข็งแรงปรับตัวได้ง่ายมาเป็นพ่อ–แม่พันธุ์ ได้ลูกไม้ดาวเรืองที่ดอกสวยแข็งแรงสามารถต้านทานโรคต้านทานแมลงและทนต่อสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมได้
ดังนั้นจึงพัฒนาพันธุ์พันไม้ดอกให้มีความต้านทานต่อโรคและแมลง สามารถปรับตัวกับสภาพแวดล้อมของบ้านเราได้ และยังช่วยตอบสนองความต้องการของเกษตรกรที่จะปลูกในแต่ละฤดูกาล อย่างเช่น ถ้าเป็นฤดูร้อนจะใช้ดาวเรืองอเมริกัน ได้แก่ พันธุ์บาลี, นารายณ์และบาบูด้าเยลโล่เป็นต้น
ส่วนฤดูฝนก็จะใช้ดาวเรืองฝรั่งเศส ได้แก่ พันธุ์ลูซิเฟอร์ และรอยัล เป็นต้นโดยจะให้เกษตรกรเลือกสายพันธุ์ปลูกเองตามฤดูกาลนั้นๆ เพราะแต่ละสายพันธุ์จะมีช่วงระยะเวลาการปลูกที่เหมาะสมแตกต่างกัน
นอกจากนั้นยังมีไม้ดอกที่คนไทยรู้จักมาช้านาน คือ “ แพงพวย ” มีต้นกำเนิดจากประเทศอินเดีย เป็นพืชเมืองร้อน แพงพวยไม้กระถางทรงพุ่มตั้งพันธุ์ที่ทำการคัดเลือกและปรับปรุงโดยบริษัทเอเอฟเอ็มสามารถปรับตัวและให้คุณภาพต้นดอกได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นปลูกได้ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย
ทางบริษัท เอ เอฟ เอ็ม ได้ทำการทดลองพัฒนาสายพันธุ์ได้แพงพวยดอกใหญ่และต้านทานต่อโรคเน่า ที่เป็นโรคสำคัญที่สุดของแพงพวย มีการปรับปรุงพัฒนาสายพันธุ์ได้ดอกขนาดใหญ่ถึง 8 ซม. เรียกว่าใหญ่ที่สุดในตลาดตอนนี้เลยก็ว่าได้ เพราะแพงพวยโดยทั่วไปในท้องตลาดมีขนาดเพียง 3-4 ซม. เท่านั้น และมีสีสวยสด มีให้เกษตรกรเลือกสีได้มากมาย ซึ่งเป็นผลดีต่อเกษตรกรในแง่ของความหลากหลาย และการจำหน่าย
ทางบริษัทจึงพัฒนาแพงพวยให้เป็นไม้กระถาง ต้นตั้งตรงแข็งแรงไม่หักล้มง่าย และยังมีดอกขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันแพงพวยสายพันธุ์นี้ถูกวางจำหน่ายในชื่อพันธุ์ที่ว่า “Big Daddy” มีเมล็ดวางจำหน่ายแล้ว
อีกพันธุ์หนึ่งที่ตามมา คือ “แพงพวยสายพันธุ์เลื้อย” มีลักษณะเด่นคือต้านทานต่อโรคเน่าเช่นกันเพราะปัญหาแพงพวยที่นำเข้าจากต่างประเทศที่เกษตรกรปลูกส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องของโรคเน่าปลูกแล้วตายเพื่อเป็นการตอบสนองให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกด้วยเช่นกัน
คุณอาทิตย์ เล่าว่า “ด้านการตลาดไม้ดอกไม้ประดับของเมืองไทยที่มียอดการจำหน่ายสูง มีอยู่ 4 ชนิด คือ พีทูเนีย, แพงพวย, ผีเสื้อ และบีโกเนีย ซึ่งแพงพวยก็อยู่ในนั้น ทำให้ต้องรีบปรับปรุงพัฒนาสายพันธุ์ เนื่องจากมีการใช้งานภายในประเทศสูง อาจจะเห็นจากการใช้ในงานจัดสวน ตกแต่งอาคาร สำนักงานต่างๆ มีการใช้แพงพวยค่อนข้างมากเพราะมีดอกสวย สีสดใสหลากหลายให้เลือก จึงได้รับความนิยมมาก”
ปัจจุบันนี้แพงพวยสายพันธุ์เลื้อยพัฒนาได้แล้วแต่ยังไม่ได้ตั้งชื่อพันธุ์ลักษณะเด่นคือต้านทานโรคเน่าดอกดกและแตกกิ่งก้านดี
นอกจากแพงพวยแล้ว ยังมี “พิทูเนีย”ไม้ดอกพุ่มเตี้ยสีสันสวยงาม แต่ความสวยงามของไม้พันธุ์นี้มีให้ชมเชยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว…วันนี้ไม่น่าเชื่อว่า บริษัท เอ เอฟ เอ็ม ทำการปรับปรุงพันธุ์พิทูเนียสายพันธุ์ใหม่ที่มีลักษณะเด่น คือ ทนสภาพอากาศร้อนชื้นได้ดี ชื่อว่า “เรเดียส (radius)” ปลูกได้ทุกฤดูกาล และมีลักษณะเด่นของพันธุ์คือ กลีบดอกสวย สีสด ทรงพุ่มทรงกลมกระชับ และดอกดก
สายพันธุ์ไม้ดอกที่กำลังพัฒนาอยู่ ในปัจจุบัน
สายพันธุ์ไม้ดอกที่กำลังพัฒนาอยู่ ในปัจจุบัน ได้แก่ บานชื่น, ผีเสื้อ และแววมยุรา โดยบริษัทเล็งเห็นว่า ปัจจุบันพืชทั้ง 3 ชนิดนี้มีการใช้งานภายในประเทศค่อนข้างมากซึ่งตลาดเองตลาดก็สามารถผลิตทำปริมาณได้มากแต่ต้องการความหลากหลายทางสายพันธุ์มากขึ้น
บานชื่น เป็นไม้ที่เหมาะสำหรับปักแจกัน หรือจัดช่อดอกไม้ กลีบดอกซ้อนกันแน่น ก้านดอกยาวและแข็งแรง ทำให้มีอายุการปักแจกันนาน การปลูกส่วนใหญ่มีปัญหาเรื่องไวรัส ดังนั้นทางบริษัท เอ เอฟ เอ็ม มองว่าเราควรพัฒนาให้ต้านทานต่อไวรัส เพื่อเกษตรกรได้พันธุ์ดีปลูก
ผีเสื้อ เป็นไม้ดอกที่ได้รับความนิยม มีดอกสวยงามสะดุดตา โดยมีถิ่นกำเนิดในยุโรปตอนใต้ ส่วนใหญ่มีดอกสีชมพู ดอกหลากสี ทรงพุ่มแน่น เดิมเป็นไม้ดอกที่ต้องการอากาศเย็นมาก
บริษัทเอเอฟเอ็มจึงจะปรับปรุงพันธุ์ให้สามารถทนสภาพอากาศร้อนได้เพราะส่วนใหญ่เป็นพันธุ์จากต่างประเทศปรับตัวไม่ได้และเมล็ดมีราคาแพงจึงพัฒนาให้ผลิตเมล็ดภายในประเทศเองได้และช่วยเกษตรกรลดต้นทุนการผลิตด้วย
แววมยุราสีดอกสวยงามทั้งสีแดงชมพูม่วงเข้มม่วงอ่อนออกเป็นช่อดอกจะบานทุกฤดูกาลด้านการปรับปรุงพันธุ์คือต้องการพัฒนาดอกให้มีขนาดใหญ่สีเข้มสดใสและแตกกิ่งก้านดีเนื่องจากปัจจุบันเกษตรกรปลูกกันมาก
กระบวนการพัฒนาสายพันธุ์
ในอดีตมนุษย์ได้ทำการปรับปรุงพันธุ์พืชแบบดั้งเดิมโดยวิธีผสมระหว่างเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมียที่เป็นพันธุ์ดีแล้วสังเกตรุ่นลูกที่เกิดขึ้นว่ามีลักษณะดีขึ้นกว่ารุ่นพ่อแม่หรือไม่
การปรับปรุงพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับพันธุ์ใดพันธุ์หนึ่งในปัจจุบันต้องมีการรวบรวมเชื้อพันธุกรรมทั้งภายในประเทศและต่างประเทศเสียก่อน
ทำไมจึงต้องใช้เชื้อพันธุ์ทั้งของต่างประเทศและของไทย..??
คุณอาทิตย์อธิบายว่า “ลักษณะบางอย่าง เช่น ไม้บางชนิดภายในประเทศมีลักษณะพันธุ์ที่ทนโรคและแมลง แต่ขาดบางสิ่งบางอย่าง เช่น ลักษณะของดอก ทรงพุ่ม เป็นต้น จึงจำเป็นต้องนำพันธุ์ต่างประเทศมาผสม พันธุ์ที่มาผสมคือพันธุ์ที่มีลักษณะดอก สีสันสดสวย ดังนั้นจำเป็นต้องนำทั้ง 2 ลักษณะนี้มารวมกัน โดยดึงจุดเด่นของไม้ไทยและไม้ต่างประเทศออกมา เพื่อให้เกิดสายพันธุ์ใหม่ที่มีความทนทานต่อโรคและแมลง และยังมีลักษณะที่สวยงามด้วย”
การจะเลือกพัฒนาไม้ดอกตัวใดตัวหนึ่งต้องทดลองเลี้ยงภายในสภาพแวดล้อมบ้านเราก่อนว่าเจริญเติบโตและขยายพันธุ์ได้ไหม
จากนั้นคัดเลือกสายพันธุ์ดีตามที่กล่าวมาในข้างต้นมาผสมข้ามสายพันธุ์เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดพันธุกรรมให้ได้ลักษณะพันธุกรรมที่เราต้องการ แล้วพัฒนาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะได้ลักษณะตามที่เกษตรกรหรือตลาดต้องการ
พันธุ์ที่ปลูกเพื่อการค้า ใช่ว่าจะแนะนำให้เกษตรกรปลูกในทันที ต้องมีการทดสอบสายพันธุ์ซ้ำหลายๆ ครั้ง ภายในสถานีวิจัยก่อน และจึงนำปลูกในแปลงของเกษตรกรของหลายๆ พื้นที่ โดยสังเกตทั้ง 2 แห่ง ว่าสายพันธุ์นั้นเป็นอย่างไร แล้วนำข้อมูลทุกอย่างมาเปรียบเทียบกัน จากนั้นดูท่าทีของเกษตรกรว่ามีความพึงพอใจหรือไม่ต่อสายพันธุ์นั้นๆ ถ้าเกษตรกรพึงพอใจจะทำการผลิตเมล็ดพันธุ์จำหน่ายต่อไป
ความสำคัญของการพัฒนาสายพันธุ์ในวงการไม้ดอกไม้ประดับและข้อเสนอแนะ
เนื่องจากปัจจุบันบริษัทที่มีนักปรับปรุงพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับมีน้อยถึงน้อยมากส่วนใหญ่สถาบันการศึกษาเน้นการปรับปรุงพันธุ์ของพืชไร่หรือพืชสวนส่วนน้อยมากที่ผลิตนักปรับปรุงพันธุ์ด้านไม้ดอกไม้ประดับ
อีกอย่างหนึ่งข้อมูลความรู้ หลักการปรับปรุงพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับและเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องยังมีน้อย ต้องมีการพัฒนา วิจัย หรือศึกษาเรื่องไม้ดอกไม้ประดับให้มากขึ้น
ดังนั้นอยากให้สถาบันการศึกษาช่วยสนับสนุน ให้ความสำคัญเรื่องการผลิตนักปรับปรุงพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับรุ่นใหม่ให้มากขึ้น และศึกษา ค้นคว้า วิจัยเกี่ยวกับไม้ดอกไม้ประดับเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยในการพัฒนาตลาด หรือให้วงการไม้ดอกไม้ประดับของประเทศไทยเจริญก้าวหน้าไป
ส่วนหนึ่ง คือ เนื่องจากเมืองไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวจำนวนมาก หากต้องการดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยว สิ่งสำคัญที่สุดคือการประดับตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับ และยิ่งถ้ามีการเปิดประชาคมอาเซียน จึงคิดว่าในอนาคตการท่องเที่ยวมีการเจริญเติบโตขึ้น การใช้งานไม้ดอกไม้ประดับย่อมเพิ่มขึ้นตาม ตลาดไม้ดอกก็มีโอกาสการขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วย ดังนั้นเราจึงต้องมีไม้ดอกไม้ประดับสายพันธุ์ใหม่ ให้คนได้มีโอกาสเลือกสรรสิ่งแปลกใหม่สำหรับผู้บริโภค
ขอขอบคุณ
คุณอาทิตย์ จองแดง
บริษัท เอ เอฟ เอ็ม ฟลาวเวอร์ ซีดส์ (ประเทศไทย) จำกัด