น้ําอินทผาลัม ยอดขายหลักล้าน! เศรษฐี เต้าหู้นมสด ลงทุนปลูก อินทผาลัม 100 ไร่
ถ้าพูดถึง “ เต้าหู้นมสด ” ยี่ห้อ “เลิศรส” ผู้คนเริ่มรู้จักมากขึ้น เพราะติดใจในรสชาติที่มีความหวาน มัน อร่อย นั่นก็เพราะผู้ผลิตมุ่งคุณภาพ ใช้ทั้งของดี ของสด และตั้งราคาขายไม่เวอร์ เอากำไรแต่น้อย เพื่อกดมิให้เกิดยี่ห้อใหม่ๆ มาเป็นคู่แข่งนั่นเอง
จาก เต้าหู้นมสด ยี่ห้อเลิศรส และ “ น้ำอินทผาลัม ” ที่หวาน หอม ดื่มแล้วชื่นใจ ให้พลังงานอย่างรวดเร็ว จากยอดขายหลักแสน/เดือน มาเป็นหลักล้านบาท ในช่วงเวลาเพียง 7 ปี เท่านั้น
นอกจากนี้กำไรที่ได้ส่วนหนึ่งถูกนำไปลงทุนสวน “ อินทผาลัม ” แบบผสมผสาน บนเนื้อที่ 100 ไร่ ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งอีกไม่นานสวนแห่งนี้จะกลายเป็นรีสอร์ท และแหล่งเรียนรู้ด้าน อินทผาลัม ของประเทศ
จากอดีตคนขับวินมอเตอร์ไซค์ วันนี้ คือ เศรษฐีร้อยล้าน
จากอดีตคนขับวินมอเตอร์ไซค์ วันนี้ คือ เศรษฐีร้อยล้าน เจ้าของโรงงานผลิต เต้าหู้นมสด และขนมหวาน รวมทั้งน้ำผลไม้ บรรจุขวดหลากหลายประเภท ภายใต้ยี่ห้อ “เลิศรส”
เขาทำได้อย่างไร โปรดติดตามเส้นทางของเศรษฐีผู้นี้ได้ ณ บัดนี้
เนื่องจาก คุณสนอง กล่อมประเสริฐ กำเนิดจากครอบครัวยากจน ไม่มีทรัพย์สมบัติ แต่เป็นคนไม่ติดอบายมุข ไม่แตะเรื่องบุหรี่ และเหล้า ได้เรียนหนังสือแค่ชั้นมัธยม ดังนั้นเขาจึงต้องหาเงินมาเลี้ยงชีวิต ด้วยการรับจ้างขายแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม และขับวินมอเตอร์ไซด์เลี้ยงชีพในช่วงเลิกงาน
จนกระทั่งมีภรรยาตั้งครรภ์ ทำให้คุณสนองต้องหาเงินเพิ่มขึ้น และทำทุกอย่าง ถ้าเป็นงานสุจริต แม้กระทั่งเก็บกระป๋องน้ำอัดลมขาย เป็นแมสเซนเจอร์ และขับวิน วันหนึ่งน้ำส้มเกล็ดหิมะเริ่มดัง ตนหันมาขายส่งน้ำส้มเกล็ดหิมะให้กับร้านค้าทั่วไปด้วยรถมอเตอร์ไซด์ของตนเอง ซึ่งค่าตอบแทนที่ได้ คือ โหลละ 6 บาท
ในแต่ละวันคุณสนองต้องขนน้ำส้มเกล็ดหิมะส่งวันละ 3 เที่ยว ซึ่งจะได้เงินรางวัลละ 400-500 บาท เมื่อเห็นว่ารายได้ดีจึงทิ้งงานแมสเซนเจอร์ และมาส่งน้ำส้มเกล็ดหิมะเต็มตัว โดยปรับมอเตอร์ไซด์เสริมซาเล้งพ่วงข้างเข้าไปเพื่อให้บรรทุกกล่องน้ำส้มได้มากขึ้น คุณสนองดำเนินชีวิตแบบนี้เรื่อยมาจนมีรายได้ดีขึ้น
หลังจากนั้นจึงมาดาวน์รถกระบะ 1 คัน เพื่อที่จะสามารถขนน้ำส้มเกล็ดหิมะได้มากขึ้น จากคันเดียวก็เป็น 2 คัน โดยใช้เวลาไม่ถึงปี ซึ่งการดาวน์รถแต่ละคัน คุณสนองบอกว่าไม่ต้องคิดมาก เพราะกระบะคันหนึ่งบรรทุกได้ 80 กล่อง แต่น้ำส้มมี 100 กล่อง ก็ต้องออกรถเพิ่มเป็นธรรมดา และได้ดึงน้องชายมาช่วยขับรถอีกคัน
เหมือนธุรกิจจะเดินไปได้ด้วยดี แต่ในที่สุดธุรกิจส่งน้ำส้มเกล็ดหิมะก็พัง เพราะสื่อลงข่าวว่ามีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่ในน้ำส้ม ทำให้คนเลิกกิน เจ๊งกันระนาว หลายคนจิตตก แต่คุณสนองกลับรู้สึกเฉยๆ เมื่อธุรกิจสะดุดทำให้ต้องปล่อยรถ 1 คัน ถูกยึดไป จนมาวันหนึ่งเจอคอลัมน์ช่องทางทำกิน นสพ.เดลินิวส์ แนะนำสูตรการทำ เต้าหู้นมสด นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจน้ำ เต้าหู้นมสด ในปัจจุบัน
เมื่อคุณสนองเห็นสูตรการทำ เต้าหู้นมสด มาจากหนังสือพิมพ์แล้ว จึงลงมือทดลองเต้าหู้นมสดในสูตรต่างๆ ทำให้มีความแตกต่าง และทดลองนำไปวางขายตามร้านค้าที่เคยส่งน้ำส้มเกล็ดหิมะ และปรับปรุงรสชาติตามคำแนะนำของลูกค้า จนกระทั่งได้สูตรเป็นของตนเอง และปรากฏว่าสินค้าขายดี เพราะรสชาติไม่หวาน มัน จนเกินไป กระทั่งถูกคู่แข่งที่มีฉลาก อย. ขู่ร้านค้ามิให้ขายของไม่มี อย.
การบริหารจัดการโรงงานผลิต น้ําอินทผาลัม
เมื่อเจอร้านค้าไม่รับของ ทำให้คุณสนองต้องปรึกษากับภรรยา จะต้องหาเงินปรับปรุงกระบวนการผลิต และโรงเรือน ให้ทันสมัย เพื่อขอใบอนุญาต อย. จึงลองยื่นกู้กับธนาคาร ปรากฏว่าทางธนาคารแนะนำให้เปิดบัญชี ให้มีเงินเข้า-ออกแต่ละวัน ซึ่งคุณสนองทำอยู่ 7 เดือน ก็ทำเรื่องกู้เงินมาได้ 7 แสนบาท
โดยใช้ที่ดิน 50 ตรว. ของภรรยาในการจำนอง เมื่อได้เงินมาแล้วจึงปรับปรุงโรงงาน จนกระทั่งได้ อย. ตามที่ต้องการ ปรากฏว่าเต้าหู้นมสด ยี่ห้อเลิศรส ขายดีมาก ต้องขยายการผลิต จังหวะกับที่ธนาคารประกาศขายที่ดิน 2 ไร่ คุณสนองจึงได้ซื้อไว้ในราคา 1.5 ล้านบาท เพียง 2 ปี ที่ดินตรงนี้ถูกสร้างเป็นโรงงาน และสำนักงานในตัว
ทั้งโรงงาน และสำนักงาน เกือบ 2 ไร่ ที่เห็นในวันนี้มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เฉพาะไม้ที่ใช้ประดับตกแต่งภายในอาคารร่วม 7 ล้านบาทแล้ว มันคืองานปฎิมากรรมที่ถูกออกแบบ และบรรจงสร้างด้วยมันสมองของคุณสนองคนเดียว
“ซื้อที่ทิ้งไว้ 2 ปี ก็สร้างเลย โดยใช้เงินตอนแรกแสนเดียว พอได้กำไรก็สร้างไปเรื่อยๆ สร้างประมาณ 7 ปี โครงสร้างอย่างเดียวก็ 4 ปี” คุณสนองเปิดเผยถึงความพยายามในการนำเงินแต่ละก้อนมาทยอยสร้างโรงงาน และสำนักงาน
กระบวนการผลิตน้ำ เต้าหู้นมสด
ในส่วนของโรงงาน และกระบวนการผลิต ตอนแรกต้องใช้ “เครื่องจักร” เป็นหลัก แต่ในที่สุดก็พบว่ามีปัญหา เช่น ท่อที่มีตามด ต้องใช้ทั้งน้ำร้อน และโซดาไฟ ล้างครีมเทียม นม หรือไขมัน หากคนงานไม่รอบคอบจะเกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก ซึ่งการผลิตอาหารเป็นงานละเอียดอ่อน ดังนั้นการผลิตอาหารให้ปลอดภัยมันอยู่ที่คน ไม่ใช่เครื่องมือ ดังนั้นคุณสนองจึงหันมาใช้แรงคนแทนเครื่องจักร แม้ต้นทุนด้านแรงงานจะสูงขึ้นก็ยอม
แต่การใช้คนก็ต้องทำให้คนงานรัก และศรัทธา จึงไม่ต้องแปลกใจที่คุณสนองต้องคลุกคลีตีโมงกับคนงาน เสมือนคนในครอบครัว เพราะถ้าคนงานเกลียดก็สามารถกลั่นแกล้งด้วยวิธีการต่างๆ ให้บริษัทฯ เสียหายได้ วันนี้ เต้าหู้นมสด ถูกพัฒนาให้มีสีสันมากมาย หลากหลายรสชาติ จากอดีตที่เป็นสีขาว รสนม อย่างเดียว
การนำผลผลิตทางการเกษตรมาแปรรูปเป็น น้ําอินทผาลัม พร้อมดื่ม
นอกจากนี้ทางโรงงานยังได้นำผลิตผลทางการเกษตร เช่น มะพร้าวน้ำหอม ข้าวโพด กาแฟ ชา เฉาก๊วย เม็ดแมงลัก เป็นต้น มาแปรรูปเป็นน้ำผลไม้พร้อมดื่ม บรรจุขวดพลาสติก ที่ยังคงความสด รสชาติอร่อย และราคาไม่แพง อย่าง กาแฟ ทั้งโรบัสต้า และอาราบิก้า เมื่อคั่วแล้วนำมาผสมกัน ให้รสอ่อน หรือรสกลางๆ ซึ่งมีคนชอบมาก เพียง 4 ปี วันนี้ขายไม่ต่ำกว่าวันละ 5 หมื่นขวด
ทางโรงงานจะไม่สต็อกวัตถุดิบเป็นอันขาด เพราะทำให้เงินจม ดังนั้นลูกค้าต้องสั่งล่วงหน้า 1 วัน ซึ่งทุกคนทำได้หมดเพียง 11 ปี วันนี้ บริษัท เลิศรส เบฟเวอเรจ อิน เทสตี้ จำกัด โตเร็วมากๆ เพราะคุณสนองเป็นคนดูแลเองทั้งหมด เป็นโรงงานที่ได้มาตรฐานการผลิต ทั้ง GMP และ HACCP แม้จะใช้คนเป็นตัวหลัก แต่ทุกคนถูกอบรมจากผู้เชี่ยวชาญให้ทำงานตามระบบ
อย่างไรก็ดีการขยายงานมาตลอดของบริษัทฯ ส่วนหนึ่งต้องใช้เงินกู้จากธนาคาร วันนี้ยังเหลือเพียง 27 ล้าน เท่านั้น แต่ทรัพย์สินมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน มันเป็นการใช้เงินให้เกิดมูลค่าทางธุรกิจมากที่สุด แม้แต่รถ 10 กว่าคัน ในการขนส่งทั่วประเทศ ก็ไม่เคยจ่ายเงินค่าประกันปีละ 7-8 ล้าน ยอมเสียเงินซ่อมไม่ถึง 2 ล้านบาท/ปี ดีกว่า ซึ่งแนวคิดนี้มันสวนทางกับนักธุรกิจทั่วไป
การปลูก อินทผาลัม แบบผสมผสาน พื้นที่ 100 กว่าไร่
นอกจากนี้คุณสนองยังมีใจรักในการทำเกษตร โดยเฉพาะในพืชเศรษฐกิจอย่าง “ อินทผาลัม ” ที่คุณสนองใช้เวลาในการศึกษาหาความรู้ให้ถึงแก่น จึงจะเริ่มทดลองปลูกเพื่อป้องกันการเสียเวลา สำหรับการสร้างสวน อินทผาลัม แบบผสมผสานพื้นที่ 100 กว่าไร่นั้น ก็ไม่ใช่ว่าปลูกตามกระแส
“ผมปลูกแบบเน้นต้นเนื้อเยื่อบาฮีเป็นหลัก เนื่องจากเป็นตัวเมีย 100% แต่จะปลูกให้ห่างกัน แล้วใช้ต้นเพาะเมล็ดปลูกแทรกตรงกลางจนเต็มแปลง เมื่อต้นอินทผลัมมีอายุได้ 3 ปี ก็จะรู้ว่าต้นไหนเป็นเพศผู้ ต้นไหนเป็นเพศเมีย” คุณสนองให้ความเห็นถึงวิธีการปลูก อินทผาลัม ที่ไม่เหมือนใคร
โดยพื้นที่ 100 กว่าไร่นี้ คุณสนองได้ลงทุนปลูก อินทผาลัม เพาะเม็ดทั้งหมด 3,500 ต้น และต้นเนื้อเยื่ออีก 2,400 ต้น ซึ่งคุณสนองยอมรับว่าหากต้นเพาะเมล็ด 3,500 ต้น เป็นต้นตัวเมีย 1,000 ต้น ก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว
ด้านการตลาดอินทผลัม และ น้ําอินทผาลัม
คุณสนองลงทุนทำสวนอินทผลัมไปไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท แต่ยืนยันว่าถ้าผลผลิต อินทผาลัม ออก ราคา กก.ละ 300บาท จะได้เงิน 100 กว่าล้าน แน่นอนเมื่อถามว่าอินทผลัมจะถึงทางตันมั๊ย ถ้าปลูกกันมากๆ คุณสนองฟันธงว่าไม่ตันแน่นอน และในอนาคตต่อไปอินทผลัมสายพันธุ์บาฮี ประเทศไทยจะเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของโลก เพราะรสชาติหวาน กรอบ ไม่ฝาด เหมือนประเทศอื่น
สนใจเยี่ยมโรงงาน และชมสวนอินทผลัม ติดต่อ คุณสนอง กล่อมประเสริฐ บริษัท เลิศรส เบฟเวอเรจ อิน เทสตี้ จำกัด ที่อยู่ 22/4 หมู่ 2 ต.ท่าเสา อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร 74110 โทร 084-3198558 Email : [email protected] Website :http://www.lertrose.com
