“การตลาดนำการผลิต” เป็นหลักการบริหารของ คุณเฉลียว สาขามณี วัย 49 ปี เจ้าของ SC ฟาร์ม ตั้งอยู่ที่ 118/6-7 ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ดำเนินธุรกิจปศุสัตว์เกี่ยวกับหมูแบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิตหมูขุน จนถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า เช่น หมูสดปรุงแต่ง กุนเชียง ไส้กรอก เบคอน สเต็ก สันนอกรมควัน และอื่นๆ อีกมากมาย ทุกระบวนการผลิตเน้นถึงคุณภาพและความปลอดภัย โดยเฉพาะขั้นตอนการผลิตหมูในฟาร์มใช้วิธีโภชนะบำบัดและการจัดการที่ดีเข้าช่วย เปลี่ยนมาใช้สมุนไพรเพื่อลดการใช้ยาปฏิชีวนะทั้งระบบเน้นความปลอดภัยของสินค้าไปจนถึงมือผู้บริโภค สร้างความแตกต่างที่เรียบง่ายในการทำฟาร์ม
โดยคุณเฉลียวฯ ได้มีจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2540 จากแม่พันธุ์จำนวน 40 ตัว เป็นสายพันธุ์ลาร์จไวท์และแลนด์เรชโดยทั่วไป ต่อมาปี 2543 ทางฟาร์มมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น มีการขยายแม่พันธุ์เพิ่มจากเดิมเป็น 200 ตัว ด้วยทิศทางการตลาดที่ดีและศักยภาพของฟาร์มที่มีมากขึ้น ด้วยประสบการณ์และความผูกพัน คุณเฉลียวฯ เคยเป็นสัตวบาลประจำฟาร์มมา 9 ปี และทำงานด้านส่งเสริมการขายอีก 5 ปี ก่อนที่จะมาเริ่มต้นเป็นเจ้าของกิจการ โดยเริ่มต้นจากโรงเรือนเปิด เน้นให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และง่ายต่อการทำความสะอาด ปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นโรงเรือนแบบปิด ( Evap) บางส่วนเพื่อใช้เลี้ยงหมูพ่อพันธุ์และหมูขุนกว่า 4,000 ตัว จำนวน 6 หลัง ส่วนหมูอนุบาลและแม่พันธุ์ทั้งอุ้มท้องและเลี้ยงลูกเป็นโรงเรือนเปิดทั้งหมด จำนวน 2 หลัง ใช้เลี้ยงแม่พันธุ์ได้ 500 ตัว และอนุบาล 1 หลัง
ปัจจุบันทางฟาร์มได้นำพ่อพันธุ์ TT1 ของ ดร.มานิจ วิบูลย์พันธุ์ เข้ามาปรับปรุงพันธุ์หมูสายแม่ให้ดีขึ้น โดยใช้แม่พันธุ์ที่ทางฟาร์มมีอยู่เป็นฐานการปรับ เพื่อป้องกันโรคและลดต้นทุนจากการซื้อหมูสาวเข้า และเพิ่มประสิทธิภาพในทุกกระบวนการผลิตในฟาร์ม เช่น การเพิ่มจำนวนลูกต่อครอก มีความสมบูรณ์พันธุ์ การเจริญเติบโตความเป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งอีกประมาณ 1 เดือนจะมีลูกหมูที่เกิดจากพ่อ TT1 แล้ว
ที่มาของ SC Food
คุณเฉลียวฯ เล่าว่า ในปี 2544 เจอปัญหาเรื่องกลไกตลาดจากพ่อค้าคนกลางและเรื่องเครดิต จากนั้นทางฟาร์มจึงมาทำเขียงเอง เปิดตลาดเอง ปัจจุบันขายที่ตลาดเทศบาลชะอำ จังหวัดเพชรบุรี นับเป็นการเริ่มที่ดีจากจุดนั้น พอมาถึงปี 2551 เจอปัญหาเรื่องภาวะราคาตกต่ำ จึงคิดแผนงานใหม่จนเกิดเป็นการแปรรูปผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อ SC Food
ปัจจุบัน SC ฟาร์ม เติบโตอย่างรวดเร็ว มีสาขากระจายอยู่หลายแห่ง เช่น สาขาชะอำ สาขาท่ายาง สาขาห้วยทรายเหนือ (SC ห้วยทรายเหนือ) สาขาศาลายา นครปฐม ซึ่งเป็นของลูกค้านำไปเปิดแต่เป็นลิขสิทธิ์ของทางฟาร์ม จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งหมดล้วนเป็นช่องทางการกระจายสินค้าและการจัดจำหน่าย ทางฟาร์มจะไม่เน้นตลาดโมเดิร์นเทรด แต่จะเน้นการสร้างตลาดของตัวเอง โดยเน้นการผลิตสินค้าคุณภาพและปลอดภัยเป็นเครื่องมือในการเจาะตลาด
ดังนั้นรูปแบบของการบริหาร เริ่มต้นจากทางฟาร์มมีฟาร์มพ่อ-แม่พันธุ์ และฟาร์มหมูขุน โดยใช้อาหารที่ทางฟาร์มผลิตเอง ส่วนฟาร์มหมูขุนจะมีระบบไบโอแก๊ส เป็นตัวรองรับของเสียจากฟาร์ม ผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าใช้ภายในฟาร์ม ด้านกากของบ่อไบโอแก๊สจะนำมาทำเป็นปุ๋ยอัดเม็ดจำหน่าย จากนั้นหมูขุนจะถูกขายไปยังโรงเชือดของฟาร์มในราคาท้องตลาด หลังจากชำแหละเสร็จส่วนหนึ่งจะนำไปขายที่เขียงในตลาดเทศบาลชะอำ อีกหนึ่งส่วนจะนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งทั้งหมดเป็นกระบวนการผลิตของฟาร์ม
“การทำอาชีพเกษตรกรให้ครบวงจร ทุกฟาร์มสามารถทำได้ และมีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้น แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ตลาด ควรมีตลาดรองรับอัตราการผลิต เพราะปัจจุบันตลาดได้มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และพฤติกรรมของผู้บริโภคก็เปลี่ยนเช่นกัน มีการเลือกสินค้าในการบริโภคมากขึ้น ดังนั้นช่องทางการจำหน่ายควรคำนึงเป็นอันดับแรก เพราะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมกลไกตลาดได้ จึงอยากให้เน้นคุณภาพของสินค้ามากกว่าปริมาณ ซึ่งน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า เพราะอาจจะพลิกวิกฤตจากผู้ถูกควบคุมเรื่องราคาเป็นผู้กำหนดราคาเองได้” คุณเฉลียวได้ฝากทิ้งท้าย
SC ฟาร์ม
tags: SC ฟาร์ม ดำเนินธุรกิจปศุสัตว์เกี่ยวกับหมูแบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิตหมูขุน จนถึงการแปรรูปผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า SC ฟาร์ม
[wpdevart_like_box profile_id=”1414452475453135″ connections=”show” width=”300″ height=”220″ header=”big” cover_photo=”show” locale=”th_TH”]
