ขนุนทองประเสริฐ ปลูกขนุน แค่ 13 ไร่ ทำรายได้สูง 1 ต้นขนุน สามารถทำเงินให้ 3,000 บาท/ปี

โฆษณา
AP Chemical Thailand

การ ปลูกขนุน ใช้พื้นที่เพียง 13 ไร่

ตำบลวังจันทร์ อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง อดีตคือพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง เนื่องจากสภาพดินร่วนปนทราย อินทรียวัตถุ (OM) มีน้อย จึงไม่เหมาะปลูกพืชชนิดอื่น แต่เมื่อมันสำปะหลังราคาถูก ทำให้ชาวสวนต้องปลูกอย่างอื่น โดยเฉพาะ “ยางพารา” กลายเป็นพืชหลักของอำเภอวังจันทร์

ช่วงที่ “น้ำยาง” ราคาแพง ชาวสวนรายได้ดี นำเงินไปลงทุนซื้อที่เพิ่มขยายการเกษตรในสาขาต่างๆ แต่พอยางโต 10 กว่าปีขึ้นไป น้ำยางราคาตกมาก ชาวสวนต้องโค่นยางส่วนหนึ่ง แล้วปลูกพืชที่มีรายได้ดีกว่า โดยเฉพาะชาวสวนหัวก้าวหน้าเป็นผู้นำท้องถิ่น เช่น นายก อบต. หรือ “กำนัน” เป็นต้น มักจะพลิกแพลงอาชีพได้ไว เพราะต้องทำให้ลูกบ้านเห็นเป็นตัวอย่าง

กำนันสมศักดิ์ ใช้เนื้อที่ 13 ไร่ ติดถนน 4 เลน บ้านบึง-แกลง ฝั่งขวามือ หรือกิโลเมตรที่ 88 เป็น สวนขนุน “ทรงวุฒิพันธุ์ไม้ผล   กำนันสมศักดิ์เป็นนักพลิกแพลงด้านการทำเกษตรตัวยง โดยเฉพาะการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการลดต้นทุน/เพิ่มผลผลิตเข้าสู่กระบวนการผลิตขนุนเพื่อการส่งออก

5.การให้ปุ๋ยและน้ำขนุน
การให้ปุ๋ยและน้ำขนุน
2.สวนทุเรียน
2.สวนทุเรียน

ทำไมถึงเลือก ปลูกขนุน ?

กำนันสมศักดิ์เปิดเผยว่า ขณะนี้สวนยางพาราเนื้อที่ 12 ไร่ ยังไม่ได้โค่นทิ้ง และยังมีสวนทุเรียนแซมสวนยางพาราอีกแปลง แต่พื้นที่แปลงนี้จำนวน 13 ไร่ หน้าฝนจะมีตาน้ำผุดขึ้นมา ต้องยกร่องปลูกกล้วยไข่ เพราะได้ราคาดี มีตลาดนอกรองรับ เคยขายผลผลิตหน้าสวนได้ กก.ละ 43 บาท

แต่การปลูกกล้วยไข่ลงทุนสูง ใช้ปุ๋ย ใช้ยา ให้น้ำ ต้องถึง โดยเฉพาะปุ๋ยยูเรียขาดไม่ได้ ต้องให้อาทิตย์ละครั้ง เมื่อเห็นชาวสวนหลายคนหันมา ปลูกขนุน จึงศึกษาข้อดี-ข้อด้อยของแต่ละสายพันธุ์ ในที่สุดก็ตัดสินใจล้มกล้วยไข่แล้วหันมา ปลูกขนุน ทั้งแปลง โดยให้น้ำด้วยระบบน้ำหยดทุกต้น

3.สายพันธุ์ขนุน
3.สายพันธุ์ขนุน ขนุนทองประเสริฐ

ข้อดี-ข้อด้อย ของ สายพันธุ์ขนุน ขนุนทองประเสริฐ พันธุ์สีทอง

โดยกำนันเลือก ปลูกขนุน สายพันธุ์สีทอง และพันธุ์ ขนุนทองประเสริฐ ซึ่งทั้ง 2 พันธุ์ มีข้อดี-ข้อด้อย ที่แตกต่างกัน คือ

โฆษณา
AP Chemical Thailand
  • พันธุ์สีทอง ออกผลง่าย เป็นพันธุ์เบา ออกทั้งปี 1 ปี เก็บผลถึง 8 เดือน
  • พันธุ์ ขนุนทองประเสริฐ ผลจะสวย ถ้าได้ไซซ์ที่ตลาดนอกต้องการจะขายได้ราคาดี แต่ก็มีข้อเสียตรงที่บางลูกมีสีสนิม ราคาตกเหลือ กก.ละ 3 บาท อย่างไรก็ดี ขนุนทองประเสริฐ แม้อายุ 10 กว่าปีขึ้นไป ถ้าตัดแต่งกิ่ง ดูแลดีๆ เช่น ให้น้ำ ให้ปุ๋ย ฉีดยา สวมถุง เป็นต้น ก็ทำเงินให้ต้นละหลายพันบาท

ซึ่งกำนันสมศักดิ์ทำไว้เป็นตัวอย่างเพียง 1 ต้น สามารถทำเงินถึง 3,000 บาท/ปี วันนี้ในสวนขนุนแห่งนี้จึงมีขนุนสายพันธุ์ ขนุนทองประเสริฐ ที่ให้ผลผลิตอยู่ประมาณ 300 ต้น เลยทีเดียว

“ตอนที ปลูกขนุน พันธุ์สีทองตอนนั้นราคาดี เพื่อน ปลูกขนุน 2 ปี เห็นผล ขายต้นละ 110-120 บาท ลูกมัน ใหญ่ สวยดี ราคาพอๆ กับ ขนุนทองประเสริฐ จึงตัดสินใจซื้อ 200 ต้น มา ปลูกขนุน ครั้งแรก” กำนันสมศักดิ์ให้ความเห็นถึงแรงจูงใจในการลงทุน ปลูกขนุน พันธุ์สีทอง ปรากฏว่าปลูกไปได้เพียง 10 กว่าเดือน ก็ออกลูกจนต้องฟันทิ้ง เพราะอายุยังน้อยอยู่นั่นเอง

4.ปลูกขนุน ต้นขนุน ขนุนทองประเสริฐ
4.ปลูกขนุน ต้นขนุน ขนุนทองประเสริฐ

การป้องกันกำจัดโรค-แมลง และศัตรูพืช

อย่างไรก็ดีการ ปลูกขนุน ทั้ง 2 พันธุ์นี้ กำนันสมศักดิ์ยืนยันว่าต้องเจอปัญหาทั้งโรคและแมลงรบกวน นำมาซึ่งความเสียหายได้แก่ โรคยางแตก ที่ลำต้นและกิ่ง จนทำให้กิ่งเฉาและต้นตายในที่สุด ซึ่งเป็นโรคที่ค่อนข้างน่ากลัวมาก “หากเราฟื้นต้นไม่ทันมันจะตาย เป็นแล้วตาย นี่คือปัญหาใหญ่” กำนันสมศักดิ์ฟันธง และเผยถึงวิธีทางแก้ไขก็คือ ต้องใส่ปุ๋ย และฮอร์โมนฟื้นฟูราก ขณะที่ปีที่แล้วก็เจอปัญหาเหล่านี้บ้าง แต่ปีนี้ยังไม่เจอและปรากฏให้เห็น

ส่วนแมลงที่เป็นศัตรูขนุนทั้ง 2 พันธุ์ คือ “หนอน” ที่จะคอยเจาะผลอ่อน หรือเจาะดอกขนุน ซึ่งหนอนชนิดนี้จะมีปากที่แข็ง ตัวยาวๆ เมื่อมันเจาะลูกสำเร็จมันก็จะฝังตัวคล้ายๆ หนอนเจาะทุเรียน สาเหตุเกิดจากแม่หนอนบินมาวางไข่ 3-7 วัน ก็จะเป็นตัว แล้วแสดงอิทธิฤทธิ์ทันที

ช่วงที่มันระบาดมากที่สุด คือ เมื่อมีฝนตกมาก และก่อนหน้านั้นไม่ได้ฉีดยาป้องกันหนอนที่มันจะลงมาพร้อมๆ กัน เพื่อไข่ในวันเดียวกัน โดยจะไข่ไว้ในดอกในเวลากลางคืน เนื่องจากดอกขนุนมีความหวาน ชวนให้หนอนมาวางไข่นั่นเอง ปัญหานี้สามารถสวมถุงห่อ หรือไม่ก็ฉีดยาหนอนเป็นยาดูดซึม ฉีดแล้วตายแน่นอน

ยกเว้นหนอนไปอยู่ในผล เมื่อฉีดยาไปแล้วก็จะไม่ได้ผล นอกจากหนอนแล้วยังมี “เพลี้ยไฟ” ดูดกินน้ำเลี้ยงเนื้อเยื่อในผลขนุน ที่ทำให้ขนุนมีลูกบิดเบี้ยว เสียทรง เสียไซซ์ ราคาตก แม้แต่ “แมลงวันทอง” ศัตรูตัวฉกาจของผลไม้ก็ยังเป็นศัตรูของขนุนด้วยเช่นกัน และป้องกันได้ด้วยการสวมถุงเขียวพลาสติกเช่นเดียวกัน

โฆษณา
AP Chemical Thailand
5.การให้ปุ๋ยและน้ำขนุน
5.การให้ปุ๋ยและน้ำ ต้นขนุน

การให้ปุ๋ยและน้ำ ต้นขนุน

ในการทำสวนขนุนนอกจากจะให้ปุ๋ยทางดินและให้น้ำ ดูแลรักษาโรคและแมลงแล้วยังไม่พอ ทางสวนขนุนแห่งนี้จะต้องให้อาหารเสริมตัวใหม่ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตที่ดีของ ต้นขนุน  ซึ่งขาดไม่ได้เลยทีเดียว

โดยกำนันสมศักดิ์ได้เปิดทางและเปิดใจให้ผู้ผลิต “อาหารเสริมทางใบ” เข้ามาทดสอบผลิตภัณฑ์กับ ต้นขนุน ของตนเป็นครั้งแรกเพียง 1 ต้น เท่านั้น ซึ่งผลิตภัณฑ์อาหารเสริมทางใบตัวนี้เป็นอาหารเสริมประเภท “กำมะถัน” ภายใต้แบรนด์ “ไมโอนิน” ที่ผลิตโดย บริษัท ก็อต อินเตอร์เคม จำกัด

ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริษัทในเครือของ บริษัท พี.วาย.เอ็ม.อินเตอร์โปรดักส์ จำกัด  ที่มี คุณมนตรี ตั้งไมตรีจิต เป็นกรรมการผู้จัดการ และมีคุณพงษ์ระวี อินทะพงศ์ เป็นฝ่ายการตลาดของบริษัทฯประจำภาคตะวันออก ที่มีประสบการณ์เรื่องนี้มานานกว่า 5 ปีเต็ม

ภายใต้การบริการเกษตรกรด้วยใจ เข้าใจ และเข้าถึงปัญหาที่เกิดขึ้นของเกษตรกร ที่นำมาซึ่งการแนะนำและแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด ตรงประเด็น ที่ช่วยให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจ ที่ถูกต้อง เกี่ยวกับการใช้สารเคมีและผลิตภัณฑ์อย่างถูกต้อง คุ้มค่าแก่การลงทุน และเกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งปริมาณและคุณภาพผลผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เรื่องนี้คุณพงษ์ระวี ผู้จัดการฝ่ายตลาดเขตตะวันออกของบริษัทฯ เปิดเผยว่า ไมโอนิน คือ กรดอะมิโนในกลุ่มเมทไธโอนิน ที่มี “กำมะถัน” เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ มีหน้าที่สร้างโปรตีน มีฤทธิ์เย็น แม้จะเป็นธาตุรองแต่ก็จำเป็นต้องใช้และมีน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว (มีขนาดเล็กที่สุด)ในรูปของชูก้า แอลกอฮอล์ มีความสามารถดูดซึมธาตุกำมะถัน (S)ได้รวดเร็วที่สุด

โดยมีนักวิชาการเคมีควบคุมกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้คุณภาพ ได้ทดลองจนมั่นใจ โดยใช้เวลานานปีกว่า จึงได้เปิดตัวออกสู่ตลาด โดยผลิตภัณฑ์นี้มีจำหน่ายที่ “ร้านไมตรีจิตการเกษตรสาขาวังจันทร์”  ซึ่งเป็นสาขาน้องใหม่ที่ตั้งใจทำงานพร้อมบริการเกษตรกร ทั้งด้านวิชาการและคำแนะนำด้วยใจ

โฆษณา
AP Chemical Thailand
6.ผลิตภัณฑ์อาร์จินิคและไมโอนิน
6.ผลิตภัณฑ์อาร์จินิคและไมโอนิน

การใช้ผลิตภัณฑ์อาร์จินิค และไมโอนิน ใน ต้นขนุน

กำนันสมศักดิ์ย้ำว่าได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ ทั้งอาร์จินิค และไมโอนิน ควบคู่กันมาตลอด เพื่อเพิ่มคุณภาพผลผลิตของขนุนให้เป็นที่ต้องการของตลาดเพื่อการส่งออก โดย “ผลิตภัณฑ์อาร์จินิค” จะมี กรดอะมิโนอาร์จินีน หรือเรียกอีกอย่างก็คือ แอลฟ่า-อะมิโน เป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะเริ่มใช้ตั้งแต่ช่วงก่อนออกดอกไปถึงระยะเวลาก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิต เพื่อคุณภาพของผลผลิตที่ดี

เพราะแอลฟ่า-อะมิโนมีบทบาทต่อพืชทุกชนิด เพราะมี “กำมะถัน” ที่อยู่ในรูปแบบของกรดอะมิโนที่พืชสามารถดูดซึมได้เร็ว นำไปใช้ได้ทันที ในช่วงที่ ต้นขนุน ต้องการแม้ในสภาพอากาศ  เช่น อุณหภูมิหนาว และช่วงฝนชุก ด้วยการนำธาตุอาหารไปใช้ได้ทันทีแบบเร่งด่วน ปรากฏว่าได้ผลดี ผลผลิตมีคุณภาพที่ดีขึ้น และเนื้อขนุนยังมีสีสันที่สวยขึ้น

โดยมีอัตราการใช้สารอะมิโน (Arginic)  เพิ่มคุณภาพในการผลิตในช่วงส่งเสริมการเกิดดอก  10  ซีซี./น้ำ 20 ลิตร  การฉีดพ่นในช่วงกำจัดสภาวะเครียด  10  ซีซี./น้ำ 20 ลิตร และช่วงการฟื้นฟูจากการรับสารเคมี  20 ซีซี./น้ำ  20 ลิตร

ขณะที่ “ผลิตภัณฑ์ไมโอนิน” จะประกอบไปด้วยกรดอะมิโนในกลุ่มเมทไธโอนิน มีวิตามินรวมหลายชนิดและน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว (ซึ่งมีขนาดเล็กที่สุด) ในรูปของชูกา แอลกอฮอล์ มีความสามารถในการดูดซึมเข้าสู่เซลล์พืชได้อย่างรวดเร็ว และมากกว่า ทำให้พืชสามารถดูดซึมธาตุกำมะถัน (S) ได้อย่างรวดเร็วขึ้น เพื่อสังเคราะห์โปรตีนและเอนไซม์ (น้ำย่อย) ต่างๆ ที่มีผลต่อการเข้าสีของใบ ดอก และผล

โดยเฉพาะผลไม้หลายชนิดที่ต้องการธาตุกำมะถันในปริมาณสูง เช่น ทุเรียน ขนุน ต้นขนุน สับปะรด แตงโม  เป็นต้น โดย เมทไธโอนิน (Methionine) คือ กรดอะมิโนที่จำเป็นมากชนิดหนึ่ง เนื่องจากมีกำมะถัน (S) เป็นองค์ประกอบสำคัญ มีหน้าที่ในการสร้างโปรตีนเพื่อใช้ในการดำรงชีพ สร้างเอนไซม์น้ำย่อย ขบวนการลำเลียงสารผ่านเซลล์ ช่วยสร้างความสมดุลให้กับพืช กำมะถันในรูปของกรดอะมิโน พืชสามารถดูดซึมได้เร็ว และมากกว่า จึงให้ประโยชน์สูงสุดในช่วงที่พืชต้องการอย่างเร่งด่วน

7.ผลผลิตเป็นที่ต้องการของตลาดและผู้บริโภค
7.ผลผลิตเป็นที่ต้องการของตลาดและผู้บริโภค

รายได้จากผลผลิตขนุน

ที่สำคัญขนุนยังมีเปลือกเขียว ลูกไม่แดงอย่างที่เข้าใจ ดังนั้น ต้นขนุน ทุกต้นในสวนจึงใช้ “ไมโอนิน” เพื่อให้ผลผลิตมีคุณภาพ เป็นที่ต้องการของผู้ส่งออก ซึ่งการซื้อขนุนของพ่อค้านั้นจะใส่ลังน้ำแข็งเพื่อกระจายไปสู่ตลาดที่แตกต่างกัน เช่น เข้าโรงงานอบแห้ง โรงงานกระป๋อง หรือส่งผลสด

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ยกเว้นขนุนที่ตกไซซ์ราคาถูก ก็ต้องแกะเอาเนื้อขาย ขนุนลูกละ 8 กก. ได้เนื้อ 2 กก. ราคา กก.ละ 28-30 บาท ส่วนขนุนอ่อนที่เกิดจากการตัดแต่งกิ่งขายได้ กก.ละ 5-8 บาท แต่ต้องขาย พร้อมๆ กับชาวสวนที่เป็นสมาชิกของกลุ่ม เพราะผู้ซื้อต้องบรรทุกให้เต็มคันรถขนาด 4 ตัน

8.กิ่งพันธุ์ขนุนและไม้ผลื่นๆ
8.กิ่งพันธุ์ขนุน ต้นขนุน ขนุนทองประเสริฐ และไม้ผลื่นๆ

การจำหน่ายกิ่งพันธุ์ขนุน ขนุนทองประเสริฐ และไม้ผลอื่นๆ

ในการทำสวนขนุนนั้น นอกจากรายได้ที่เกิดจากการขายขนุนสุกและอ่อนแล้ว กำนันสมศักดิ์ยังได้ทำ “กิ่งพันธุ์” ขนุนทองประเสริฐ ไว้ขายแก่ผู้สนใจ หรือเกษตรกรทั้งในและนอกพื้นที่ ควบคู่ไปกับการจำหน่ายกิ่งพันธุ์พืชสวนอื่นๆ

ในปี 2563 กำนันสมศักดิ์จะหมดวาระเป็นกำนัน เพราะอายุ 60 ปี ดังนั้นกำนันสมศักดิ์จึงเตรียมตัวเป็นชาวสวนเต็มตัว โดยมีลูกน้องชาวกัมพูชาและภรรยามาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงดูแลสวนขนุน ต้นขนุน และผลิตกิ่งพันธุ์ให้เพียงพอต่อความต้องการ

เกษตรกรหรือผู้ที่สนใจแวะเยี่ยมสวนสวนขนุน “ทรงวุฒิพันธุ์ไม้ผล ได้ที่ 6/1 ม.3 ต.วังจันทร์ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง 21210 โทร.086-1450719