ปลูกส้มเขียวดำเนิน 70 ไร่ สู่เส้นทางขายกิ่ง ทำเงินหลักแสน
การปลูกส้ม
การที่เกษตรกรต้องสูญเสียสิทธิในการกำหนดชะตาชีวิตของตนเองในด้านเศรษฐกิจ สังคม และต้องสูญเสียสิทธิในการควบคุมทรัพยากรธรรมชาติ และทรัพยากรทางสังคม เช่น ที่ดิน แหล่งน้ำ ป่าไม้ ความรู้ สินเชื่อ หรืองบประมาณ ทำให้เกษตรกรต้องประสบกับปัญหาความยากจน และความล่มสลายของครอบครัว และชุมชน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องให้เกษตรกรมีสิทธิเข้าถึงทรัพยากร ทั้งทรัพยากรธรรมชาติ และทรัพยากรทางสังคม มีสิทธิกำหนดการพัฒนาตนเอง และการเสริมสร้างศักยภาพ โดยการรวมตัวเป็นองค์กร เพื่อการมีส่วนร่วมในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เพื่อให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่สมคุณค่าความเป็นคนโดยสมบูรณ์
คุณธัญชนก ศิลปะผดุง ปลูกส้มเขียวดำเนิน จ.ปทุมธานี
สวัสดีท่านผู้อ่านและสปอนเซอร์ที่น่ารักทุกๆ ท่านครับ ทีมงานนิตยสารเมืองไม้ผลได้ออกตระเวนพื้นที่มาหลายจังหวัดแล้ว ทั้งเหนือ อีสาน กลาง ทุกสารทิศเลยก็ว่าได้ และฉบับนี้ทางทีมงานเมืองไม้ผลได้มีโอกาสไปชมสวนส้มเขียวดำเนิน จ.ปทุมธานี ของเรานี่เองครับ สำหรับจังหวัดปทุมธานีมีความเป็นถิ่นฐานบ้านเมืองมาแล้วไม่น้อยกว่า 300 ปี และเท่าที่ผมได้ทราบมาแล้วว่ายังมีตำนานส้มรังสิต และนี่แหละครับคือแรงจูงใจของผมที่อยากจะเอาส้ม ส้ม ส้ม มาฝากท่านผู้อ่านครับ
ฉบับนี้ผมเอาส้มเขียวดำเนินของ คุณธัญชนก ศิลปะผดุง ชาวอำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี มาฝากท่านผู้อ่าน ให้ท่านผู้อ่านได้มีทางเลือกที่จะประกอบอาชีพเป็นของตัวเองบ้าง คุณธัญชนกเล่าว่าเมื่อก่อนที่จะปลูกส้มเขียวดำเนินนี้ก็เคยปลูกส้มพันธุ์อื่นมาก่อน ปลูกทั้งกล้วย ฝรั่ง ลำไย แต่ทว่าปลูกแล้วผลที่ออกมามันเป็นกำไรน้อยกว่าทุน มีคนมาบอกว่าเราบ้า ก็จริงเราชอบทำอะไรที่แหวกแนวอยู่แล้ว
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าคุณธัญชนกเติบโตมาจากครอบครัวของชาวไร่ ชาวสวน ธรรมดาๆ คนหนึ่ง หลังจากเรียนจบแล้วก็ได้สืบทอดความเป็นเกษตรกรมาจากรุ่นพ่อ แม่ ทำให้เธอมีความมุ่งมั่นที่จะปลูกพืชหลากหลายชนิดแบบล้มลุกคลุกคลานมาเรื่อย เพื่อให้ตัวเองประสบผลสำเร็จ ตอนแรกๆ อ่านหนังสือศึกษาดูแล้วสะดุดใจขึ้นมาทันที เพราะว่าโรคเกิดน้อยกว่าพันธุ์เก่า หลังจากศึกษาอ่านหนังสือพอได้เพลินๆ แล้ว ต่อมาได้นำกิ่งพันธุ์มาปลูกจากแหล่งดำเนินสะดวก แล้วก็ตัดกล้วยที่ปลูกก่อนหน้านี้ออก พอเสร็จแล้วแรกๆ เราก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลดีหรือไม่ หลังจากปลูกได้ประมาณใกล้ๆ จะเข้าปีเต็มแล้ว ตอนนั้นต้นกำลังสวย มีคนเข้ามาให้ต่อกับเรา ตอนนั้นกำลังหาทุนพอดี เพราะทุนเรามันน้อยก็ไม่ค่อยอะไรๆ สักเท่าไหร่ ต่อมาก็เริ่มตอนกิ่งขาย กิ่งพันธุ์ของที่นี่ขายกิ่งละ 25-30 บาท ปัจจุบันก็เริ่มไว้ลูกแล้ว
สภาพพื้นที่ปลูกส้มเขียวดำเนิน
ในส่วนของพื้นที่ตรงนี้มีพื้นที่ประมาณ 70 กว่าไร่ รวมทั้งบ้านและพื้นที่ปลูกส้มด้วย การทิ้งระยะห่างระหว่างต้นอยู่ที่ 3 เมตร ความยาวของร่อง 240 เมตร ต่อร่อง การแบ่ง การจัดการ การทำงานของที่นี่ทางคุณธัญชนกเล่าที่นี่มีคนงานอยู่ 7-8 คน จะแบ่งการทำงานโดยสั่งงานด้วยตัวเอง ทั้งการตอนกิ่ง การให้น้ำ การให้ปุ๋ย เพราะคนงานที่นี่ก็ออกบ่อย เข้าบ่อย บางครั้งก็อาศัยคนงานเก่าๆ ที่เขาอยู่กับเรามานาน ต้องให้คอยสอนงานคนใหม่ๆ ด้วย และถ้าลูกค้ามาซื้อกิ่งพันธุ์ของเรา กิ่งพันธุ์ทุกกิ่งต้องผ่านมือคุณธัญชนกทุกกิ่ง เพื่อให้แน่ใจว่ากิ่งพันธุ์ของที่นี่ต้องมีคุณภาพ และให้ลูกค้าพึงพอใจกับสินค้าของเรา เพื่อว่าซื้อไปแล้วปลูกได้ผลดีแล้วก็บอกต่อกันไป
ในตอนแรกนั้นขณะที่ต้นส้มยังเล็กเราต้องเด็ดลูกทิ้งไปก่อนเพื่อบำรุงให้ต้นแข็งแรง จากนั้นประมาณ 2 ปี เริ่มติดลูก เราจึงเริ่มไว้ลูก โดยส้มพันธุ์เขียวดำเนินนี้ลูกดก ลูกใหญ่ ทนต่อโรค ไม่ร่วงหล่น เหมือนแต่ก่อน ก่อนอื่นควรวัดระยะปลูก และกำหนดจุดปลูก โดยแถวปลูกควรอยู่บริเวณกึ่งกลางแปลงแต่ละแปลง ขุดหลุมขนาด 50x50x50 เซนติเมตร ผสมปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอก กับดินที่ขุดขึ้นมา อัตราต้นละ 10 กิโลกรัม พร้อมกับปุ๋ยร็อคฟอสเฟต 0.5 กิโลกรัม และปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ เช่น 15-15-15 ประมาณ 10 กรัม จากนั้นแหวกดินทำหลุมให้มีขนาดโตกว่าถุง หรือกระถาง ที่เลี้ยงต้นพันธุ์ไว้ แล้วฉีกถุงออก โดยก่อนฉีดถุงให้ใช้มือบีบดินในถุงให้แยกออกจากกัน เขย่าวัสดุปลูกที่ติดอยู่กับรากออกให้หมด ใช้กรรไกรตัดรากแก้วส่วนที่ขดงอออก พร้อมทั้งตัดส่วนยอดและใบออกบ้าง เพื่อให้เกิดการสมดุลกับรากที่เหลือ จากนั้นวางต้นพันธุ์ลงในหลุม จัดรากฝอยที่มีอยู่เป็นชั้นๆ แล้วแผ่รากในแต่ละชั้นออกรอบข้าง แล้วค่อยใช้ดินกลบรากใส่ขึ้นมาเป็นชั้น โดยให้รากฝอยชั้นบนสุดอยู่ต่ำกว่าระดับดินบนประมาณ 1 เซนติเมตร จากนั้นใช้ดินผสมปุ๋ยหมักอัตราส่วน 1:1 กลบโคนเป็นรูปกระทะคว่ำกว้างประมาณ 1 เมตร และสูงประมาณ 20 เซนติเมตร แล้วค่อยผูกต้นติดกับหลักป้องกันการโยกคลอน แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
การใส่ปุ๋ยต้นส้มเขียวดำเนิน
ก่อนอื่นเราต้องดูก่อนว่าดินเป็นกรดจัดหรือไม่ ถ้าเกิดว่าดินเป็นกรดจัด (pH ต่ำกว่า 5.0) ควรใส่ปูนขาว หรือปูนมาร์ล หรือเปลือกหอยเผา หรือโดโลไมท์ 1-2 กิโลกรัม ต่อต้น หรือตามผลการวิเคราะห์ดิน โดยหว่านให้สม่ำเสมอรอบบริเวณทรงพุ่ม การใส่ปุ๋ยในปีแรกควรใช้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง เช่น สูตร 20-10-10 หรือ 25-7-7 หรือ 15-15-15 ผสมกับ 46-0-0 อัตรา 1:1 ปริมาณ 0.5-1 กิโลกรัม ต่อต้น โดยแบ่งใส่ 4-6 เดือน ต่อครั้ง และปุ๋ยอินทรีย์ 10-20 กิโลกรัม ต่อต้น ใส่ครั้งเดียวช่วงปลายฤดูฝน และในปีที่ 2-4 ใส่ปุ๋ยสูตร 20-10-10 หรือ 25-7-7 หรือ 15-15-15 ผสมกับ 46-0-0 ปริมาณ 1-3 กิโลกรัม ต่อต้น โดยใส่ 3-4 เดือน ต่อครั้ง และปุ๋ยอินทรีย์ 10-20 กิโลกรัม ต่อต้น ใส่ครั้งเดียวช่วงปลายฤดูฝน เมื่อส้มอายุ 4 ปีขึ้นไป ซึ่งส้มจะเริ่มให้ผลผลิต
การเก็บเกี่ยวผลผลิตส้มเขียวดำเนิน
ระยะช่วงเวลาในการใส่ปุ๋ยควรปฏิบัติดังนี้
1.ช่วงก่อนออกดอก ใส่ปุ๋ยสูตร 12-24-12 ปริมาณ 1 กิโลกรัม ต่อต้น และพ่นปุ๋ยทางใบเพื่อเพิ่มธาตุอาหารรองและอาหารเสริม
2.ในระยะติดผล อาจมีการให้ปุ๋ยธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริม เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี ทองแดง โบรอน และแมงกานีส เป็นต้น โดยพ่นให้ทางใบ
3.ช่วงใกล้เก็บเกี่ยวผลผลิต ใส่ปุ๋ยสูตร 13-13-21 ปริมาณ 1-2 กิโลกรัม ต่อต้น
4.หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตเราจะให้ปุ๋ยสูตร 25-7-7 หรือ 15-15-15 ผสมกับ 46-0-0 อัตรา 1:1 ปริมาณ 1-3 กิโลกรัม ต่อต้น พร้อมพ่นปุ๋ยทางใบที่มีธาตุอาหารรองและธาตุอาหารเสริม พร้อมปุ๋ยอินทรีย์ 20-50 กิโลกรัม ต่อต้น
การให้น้ำส้มเขียวดำเนิน
การให้น้ำเป็นสิ่งจำเป็นมากในการปฏิบัติดูแลรักษา เพราะถ้าปล่อยให้ส้มเขียวดำเนินขาดน้ำจะทำให้ต้นโทรม โรคและแมลงเข้าทำลายได้ง่าย ระยะที่ปลูกใหม่ๆ ควรให้น้ำทุกวัน หลังจากนั้นประมาณ 2 สัปดาห์ ส้มเริ่มตั้งตัวได้แล้ว การให้น้ำควรให้วันเว้นวัน แต่เมื่อส้มโตแล้วการให้น้ำจะต้องควบคุมให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับช่วงการเจริญเติบโต และสภาพทั่วๆ ไป เช่น ในระยะก่อนออกดอกจะต้องการน้ำน้อย เพื่อให้มีช่วงเก็บสะสมอาหาร แต่เมื่อติดผลแล้วจะต้องการน้ำมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงผลแก่ เมื่อเข้าสีแล้วควรลดปริมาณน้ำลงจากปกติ จะช่วยให้ผลส้มแก่เร็วขึ้น วิธีการให้น้ำมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับความเหมาะสม เช่น การให้น้ำทางสายยาง การใช้เรือรดน้ำ และการให้น้ำโดยระบบสปริงเกลอร์
การป้องกันกำจัดแมลงและศัตรูพืช
แมลงศัตรูส้มมีหลากหลายตัว หลักๆ ก็จะมีหนอนชอนใบ หนอนแก้วส้ม ไรสนิมส้ม เพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน เพลี้ยหอย การป้องกันควรฉีดยาดังต่อไปนี้
1.คาร์โบซัลแฟน, ไซฟลูทริน ช่วยกำจัดหนอนชอนใบ
2.เมทธาริโดฟอส ช่วยกำจัดหนอนแก้วส้ม
3.โปรปาไจท์ หรือกำมะถันผง ช่วยกำจัดไรสนิมส้ม
4.คาร์โบซัลแฟน, อิมิดาคลอพริด ช่วยกำจัดเพลี้ยไฟ
5.คาร์บาริล มาลาไธออน ช่วยกำจัดเพลี้ยอ่อน
6.มาลาไธออน หรือสารเคมีประเภทดูดซึม พวกไดเมทโธเอท ช่วยกำจัดเพลี้ยหอย
ท้ายนี้คุณธัญชนกฝากไว้ว่า “ส้มพันธุ์นี้พี่มองว่าช่วง 1-2 ปีนี้ยังโอเคอยู่ ยังไปได้ดีอยู่ แต่ต่อไปหลังจากนี้ก็ยังไม่ทราบเลยว่าจะเป็นยังไงต่อไป แค่ทำตรงนี้ให้ดีที่สุด อยู่กับสวน กับครอบครัว แค่นี้พี่ก็โอเคแล้วนะ”
คุณธัญชนก ศิลปะผดุง 38/24 ม.7 ต.บึงบา อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี 12170 โทรศัพท์ 08-1901-5476 (สวนเจ๊อร คลอง 9)