ปัจจุบันโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุดเป็นอันดับ 1 คือ “โรคมะเร็ง” ซึ่งการใช้ยารักษาโรคมะเร็งนั้นมีผลข้างเคียงและทำลายเซลล์ปกติของร่างกายไปด้วย เมื่อไม่นานมานี้กลายเป็นกระแสฮอต เป็นความหวังใหม่ในการรักษาและยับยั้งโรคมะเร็ง เมื่อทนายความจังหวัดแพร่ได้เปิดประสบการณ์เกี่ยวกับสมุนไพรชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า “ใบทุเรียนน้ำ” ที่สามารถช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งระยะสุดท้าย ทำให้ทุเรียนน้ำกลายเป็นที่ต้องการอย่างมาก และมีราคาพุ่งสูงขึ้นภายในระยะเวลาไม่นาน
คุณทวี ศรีเกตุ แห่งไร่ทรัพย์ทวี ซึ่งหันมาปลูกและผลิตชาใบทุเรียนน้ำออกสู่ตลาด พร้อมกับวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนรักสุขภาพ และเป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์จากใบทุเรียนน้ำ ที่ผ่านการคัดเลือกจากเวที “การประกวดการพัฒนาภูมิปัญญาสู่นวัตกรรมระดับภูมิภาค (ภาคใต้)” และเป็นตัวแทนผู้ประกอบการภาคใต้เข้าแข่งขันในระดับประเทศ ภายใต้โครงการพัฒนาภูมิปัญญาสู่นวัตกรรม ประจำปี 2558
โดยคุณทวีให้ข้อมูลว่าเกี่ยวกับที่มาของการเริ่มต้นธุรกิจว่า จากเดิมทุเรียนน้ำเป็นสมุนไพรที่ปลูกกันมาในเขตพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีภูมิปัญญานำทุเรียนน้ำมาใช้ประโยชน์หลากหลาย เช่น ผล นำไปทำเป็นอาหารคาว หวาน แก้โรคเลือดออกตามไรฟัน โรคบิด ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนมสำหรับคุณแม่ที่คลอดลูกใหม่ และใบดูแลสุขภาพ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ฆ่าเชื้อโรค รักษาโรคผิวหนัง รักษาเหา ฯลฯ พอเข้าสู่ยุคใหม่ ทำให้ผู้คนจึงหันไปใช้แพทย์สมัยใหม่มากขึ้น และค่อยๆ ลืมภูมิปัญญาดั้งเดิมไป
สรรพคุณของทุเรียนน้ำ
เนื่องจากในใบทุเรียนน้ำมีสรรพคุณสำคัญอยู่มาก และมีงานวิจัยในต่างประเทศได้กล่าวถึงสรรพคุณชั้นเลิศของทุเรียนน้ำไว้มากมาย อาทิ ปี 2483 นักวิทยาศาสตร์ค้นพบสารแอนโนนาเชียสเอคโทจีเนียส (Annonaceousacetogenins) เป็นสารธรรมชาติที่มีอยู่ในทุเรียนน้ำ สามารถต้านหรือทำลายเซลล์มะเร็งทุกชนิด รวมไปถึงการฆ่าแบคทีเรีย และเชื้อรา ได้ผลดี ขณะเดียวกันมีผลการรับรองจากห้องทดลองหลายแห่ง อาทิ สถาบันมะเร็งแห่งชาติในสหรัฐอเมริกา ชี้ว่าทุเรียนน้ำสามารถช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งได้ถึง 12 ชนิด เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งตับอ่อน มะเร็งลำไส้ และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ทั้งนี้สารจากทุเรียนน้ำสามารถโจมตีเซลล์มะเร็งได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการรักษา ไม่ก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้อย่างรุนแรง หรือสูญเสียน้ำหนัก และเส้นผมหลุดร่วง เหมือนกับการทำเคมีบำบัด ขณะที่มหาวิทยาลัยคาทอลิก เกาหลีใต้ ยืนยันว่าฤทธิ์ของทุเรียนน้ำช่วยฆ่าเซลล์มะเร็ง
และมีฤทธิ์มากกว่าการทำเคมีบำบัดถึง 10,000 เท่า ที่สำคัญไม่ส่งผลร้ายต่อเซลล์เนื้อเยื่อดีอื่น ๆ ในร่างกายคนไข้ และในผู้ป่วยที่เกิดอาการดื้อยารักษามะเร็ง ยังสามารถใช้สารสกัดจากทุเรียนน้ำมาช่วยให้คนไข้หายจากการอาการดื้อยาได้อีกด้วย ฯลฯ
สภาพพื้นที่ปลูกทุเรียนน้ำ ทุเรียนเทศ
เมื่อปี 2555ทำให้คุณทวีเลือกลงทุนในสิ่งที่แตกต่าง ควบคู่ไปกับการรักษาภูมิปัญญาดั้งเดิมในท้องถิ่นไว้ จึงตัดสินใจปลูกทุเรียนน้ำบนพื้นที่ 3 ไร่ หรือจำนวน 600 ต้น ปัจจุบันอายุ 3 ปี โดยได้เมล็ดจากต้นแม่พันธุ์ที่เก็บรักษาไว้อายุประมาณ 14 ปี จำนวน 200 ต้น ผลิตเป็นชาใบทุเรียนน้ำ ภายใต้ชื่อการจดทะเบียนการค้าว่า “G Life”
โดยคุณทวีบอกว่าระยะห่างเหมาะสมของการปลูกทุเรียนน้ำอยู่ที่ 3×3 เมตร และวางระบบน้ำหยดทั้งแปลง ส่วนการดูแลอื่นๆ คือ ช่วงปลูกใหม่จนถึงอายุ 2 ปี จะใช้ปุ๋ยเคมี ไนโตรเจน สูตร 46-0-0 เพื่อเร่งใบและต้น ปริมาณการใส่อยู่ที่ 500 กรัม/ต้น/ ในทุกๆ 2 เดือน
หลังจากต้นทุเรียนน้ำอายุเกิน 2 ปีไปแล้ว จะเลิกใช้ปุ๋ยเคมี แล้วหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้จากมูลสัตว์ หรือการหมักพืชสดแทน ควบคู่ไปกับการฉีดพ่นปุ๋ยน้ำหมักทางใบ เพื่อให้ใบทุเรียนน้ำปลอดสารเคมี และเป็นผลิตภัณฑ์ออกานิคแท้ 100% หลังจากที่ต้นทุเรียนน้ำอายุได้ 2 ปีครึ่ง จะเริ่มเก็บใบได้แล้ว โดยใบที่เลือกเก็บเป็นใบชั้นกลางๆ ไม่แก่ หรืออ่อน จนเกินไป เพราะจะได้คงคุณค่าฤทธิ์ทางยาที่สะสมอยู่ในใบ ซึ่งปัจจุบันปริมาณใบสดที่เก็บได้อยู่ที่ 500 กก./เดือน
การแปรรูป ทุเรียนน้ำ
ส่วนขั้นตอนการแปรรูปสู่ผลิตภัณฑ์นั้น คุณทวีเผยว่าหลังจากได้ใบสดมาแล้วจะนำมาล้างทำความสะอาดใบ ผึ่งลมให้สะเด็ดน้ำ แล้วนำใบทุเรียนน้ำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ การเลือกใช้วิธีหั่นจะช่วยทำให้ได้นวดใบทุเรียนน้ำไปด้วย ส่งผลให้เมื่อนำใบทุเรียนไปชงในน้ำร้อนจะทำให้สารหรือฤทธิ์ทางยาแตกตัวออกมาได้เร็ว และดีกว่าใบทุเรียนน้ำที่ผ่านการตากแห้งเท่านั้น
หลังจากหั่นใบ ทุเรียนน้ำ เสร็จแล้วจะนำเข้าไปอบแห้งระบบเป่าลมร้อน Air Dry ใช้ระยะเวลาในการอบประมาณ 2 ชั่วโมง จากใบสดปริมาณ 500 กก. เมื่ออบแห้งแล้วจะเหลือ 125 กก. เท่านั้น จากนั้นนำใบ ทุเรียนน้ำ ที่ผ่านการอบแห้งมาบรรจุใส่ถุงขนาด 25 กรัม กำลังการผลิตอยู่ที่ 2,000 ถุง/เดือน
การเลือกใช้ระบบเป่าลมร้อนเพื่ออบใบทุเรียนน้ำให้แห้งสามารถคงคุณค่าฤทธิ์ทางยาไว้ได้สูง อีกทั้งปลอดภัย ไม่มีปัญหาการเกิดเชื้อรา สามารถเก็บไว้ได้ 1 ปี ในขณะที่การนำใบ ทุเรียนน้ำ ไปตากแห้ง หรือผึ่งลม แบบโบราณนั้น การตากแดดโดยตรง ฤทธิ์ทางยาจะหายไปประมาณ 10% และถ้าตากหรือผึ่งลมไม่แห้งจริงอาจทำให้เกิดเชื้อราได้
ด้านอนาคต ใบทุเรียนน้ำ ทุเรียนเทศ
นอกจากผลิตชา ใบทุเรียนน้ำ แล้วในอนาคตคุณทวีกำลังจะต่อยอดผลิตภัณฑ์จากใบ ทุเรียนเทศ ที่หลากหลายมากขึ้น อาทิ ใบทุเรียนน้ำ แคปซูล สบู่ แชมพู โลชันทาผิว ครีม และเซรั่มบำรุงผิว ฯลฯ โดยมีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์เป็นผู้สนับสนุนเรื่องวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์
ขอขอบคุณ คุณทวี ศรีเกตุ 222 ต.ไทยบุรี อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช โทร.087-885-5670, 084-423-7418