ในปัจจุบันมะม่วงน้ำดอกไม้เป็นที่แพร่หลาย และนิยมบริโภคกันเป็นอย่างมาก เป็นมะม่วงที่นิยมรับประทานแบบผลสุก มีลักษณะผลเรียวยาว เมล็ดลีบเล็ก ผิวบาง ผลดิบจะมีรสเปรี้ยว ผิวสีเขียวนวล เนื้อแน่น
ส่วนผลสุกจะมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ ก็คือ ผิวจะเหลืองนวล กลิ่นหอม เนื้อละเอียด เนื้อมาก เสี้ยนน้อย รสหวาน มะม่วงน้ำดอกไม้ที่ได้รับความนิยมกันเป็นอย่างมาก และส่งออกมากที่สุด ก็จะเป็น 2 สายพันธุ์นี้เป็นส่วนมาก ก็คือ พันธุ์สีทอง และพันธุ์เบอร์ 4 เป็นหลัก ยิ่งได้รับประทานกับข้าวเหนียวมูลแล้วก็ทำให้ทั้งคนไทยเองและชาวต่างชาติลืมไม่ลง
การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้
ปัจจุบันการส่งออกมะม่วงน้ำดอกไม้ในปีที่ผ่านมานั้น สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเผยว่า การส่งออกของมะม่วงผลสดปริมาณ 45,544,160 กก. ซึ่งเป็นมูลค่ากว่า 1,264,782,691 บาท มะม่วงน้ำดอกไม้ที่จะสามารถส่งออกได้นั้นจะต้องเป็นพันธุ์ที่ออกดอกง่าย
ผลิตผลนอกฤดูได้ ให้ผลที่สมบูรณ์ และมีปริมาณที่มากพอสมควร ตอบสนองการใช้สารกระตุ้นให้ออกดอก และสิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือ ต้องดูแลเอาใจใส่ของเจ้าของสวนที่จะต้องทำอย่างประณีต ผลจะต้องมีสีผิวที่สม่ำเสมอ ผ่านเกรดที่เขากำหนดในการส่งออก
แต่การส่งออกในบางประเทศนั้นจะต้องมีการอบไอน้ำร้อนก่อนที่จะส่งไปในประเทศนั้นๆ เพราะฉะนั้นการที่จะส่งออกได้ก็ต้องอาศัยการฝึกฝนและความสามารถเป็นอย่างมาก ต้องอาศัยโอกาส และความสามารถ เป็นอย่างมาก ต้องรู้จักสัดส่วนการให้ยา ให้ปุ๋ย ว่าควรให้เท่าไร ให้ตอนไหนถึงจะดี และอีกอย่างหนึ่งต้องอาศัยใจรักเป็นสิ่งสำคัญ
คุณสมทรง รักษาธรรม ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้ และปลูกพืชผสมผสาน จ.สมุทรปราการ
ในวันนี้เราจะพาไปเยี่ยมชมเกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงที่ไม่ได้ใช้สารเคมี และพืชผัก ในจังหวัดสมุทรปราการ ก่อนจะไปรู้จักกับสวนมะม่วง เรามารู้จักกับจังหวัดสมุทรปราการ เป็นเมืองอุตสาหกรรมเป็นส่วนมาก มีโรงงาน 6,136 แห่ง
นอกจากนี้สมุทรปราการยังมีแหล่งเลี้ยงสัตว์น้ำ ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลาสลิดต่างๆ ชาวสมุทรปราการยังได้ยึดหลักอาชีพเกษตรกรรม ไม่ว่าจะเป็นการปลูกข้าว ปลูกผักกะเฉด ข่า และการปลูกไม้ผลต่างๆ ซึ่งก็สามารถปลูกได้ประสิทธิภาพดีเช่นกัน
คุณสมทรง รักษาธรรม อดีตผู้ใหญ่บ้าน ผู้ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สมุทรปราการที่อำเภอบางพลี โดยคุณสมทรงทำอาชีพเกษตรกรรมแบบคนในพื้นที่ที่ได้ยึดกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนี้ การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้ การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้ การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้
ที่ได้บอกกับเราว่าปลูกพืชพรรณโดยได้ยึดแนวเศรษฐกิจพอเพียง ที่นี่จะทำสวนแบบพืชสวนผสม ภายในสวนของเขาจะมีการปลูกพืชหลายอย่าง อาทิเช่น ปลูกผักกะเฉดแซมด้วยมะละกอ และหลักๆ เลย ก็คือ การปลูกมะม่วงพันธุ์เขียวเสวย ฟ้าลั่น และมะม่วงโชคอนันต์ เป็นต้น เป็นหลัก เพื่อทำรายได้ในครัวเรือน
โดยไม่เน้นใช้สารเคมี เพราะเคยทำมาก่อนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เขาก็ใช้ยาเร่งใช้ปุ๋ยเป็นจำนวนมาก พอเอาดินไปตรวจก็พบดินเสีย แข็ง ไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้เขากลับมาคิดว่าจะทำอย่างไรดี บวกกับการไปดูบัญชีครัวเรือนที่เขาได้บันทึกไว้ พอพบว่าเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก หมดไปกับค่าปุ๋ย ค่ายา ก็เลยหันกลับมาคิดว่าควรจะทำอย่างไรดี
การตัดแต่งกิ่งมะม่วง
ขณะนั้นได้มีโอกาสไปเข้าร่วมศูนย์การเรียนรู้เพื่อการเกษตรของจังหวัด และนำสวนของตนเป็นที่ศึกษาด้วย อีกทั้งยังจัดตั้งกลุ่มเพื่อการตัดแต่ง เพื่อให้ความรู้แก่เกษตรกร โดยมีการรณรงค์ให้ตัดแต่งกิ่งเพื่อไม่ให้ต้นมะม่วงตาย ให้แสงแดดเข้าถึงได้ดี และยังช่วยในเรื่องแมลงและหนอนไม่ให้ไชต้น เป็นการร่วมมือของเกษตรจังหวัด
ซึ่งเกษตรอำเภอที่ให้ความรู้แก่ชาวบ้าน คนที่อยากจะมาศึกษาก็สามารถมาเรียนรู้ มาศึกษา กับเขาได้ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการทำน้ำหมักต่างๆ ที่เขาหันกลับมาใช้แบบธรรมชาติ และส่งผลทำให้ดินดีขึ้น และยังช่วยลดต้นทุนการใช้สารเคมีต่างๆ อย่างมาก ทำให้ไม่มีภาระค่าใช้จ่ายมากนัก เขายังบอกกับเราอีกว่าการทำน้ำหมักนี้ ไม่ว่าจะเป็นซากพืช ซากสัตว์ แล้ว ยังนำมะม่วงที่ตกลงมาเน่าก็นำมาหมักได้ ธรรมชาติที่อยู่รอบตัวเรา ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้
ซึ่งทำให้มะม่วงที่นี่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะไม่เป็นพิษต่อผู้ผลิต และผู้บริโภค และลักษณะของมะม่วงน้ำดอกไม้จะมีเปลือกที่บาง เนื้อแน่น มีกลิ่นที่หอมหวาน ผลที่ยังไม่สุกจะมีสีเขียวนวล เวลาสุกผลจะไม่มีสีเหลืองเลยทีเดียว เปลือกจะบางกว่าน้ำดอกไม้ และมีความหวานอยู่ที่ 22 บริกซ์ ซึ่งหวานกว่ามะม่วงทั่วไป
การใส่ปุ๋ยต้นมะม่วง
คุณสมทรงบอกว่าไม่มีอะไรมาก เพราะที่นี่ไม่ใช้สารเคมี จะใส่ปุ๋ยชีวภาพ และทำน้ำหมักชีวภาพใช้เองเพื่อนำน้ำหมักที่ผสมได้ที่แล้วนำไปราดโคนต้นมะม่วง แต่เขาก็ใช้ปุ๋ยขี้วัวที่ อบต. ทำแจก
แต่จะมีปัญหานิดหน่อย หญ้าจะขึ้นตามใต้ต้นได้ง่าย แต่จะไม่ค่อยได้ใส่ เพราะที่นี่ไม่มีฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ทำมูลสัตว์ได้ยาก และในเรื่องการดูแลผิวและตาดอก เขาบอกว่าดูแลไม่ได้ เพราะไม่ได้มีการห่อ ไม่ใช้สารเคมี และการดูแลตาดอกก็ไม่ต้องดูแลอะไรมาก แต่อาจจะมีการฉีดฮอร์โมนบ้างในบางที่ แต่ก็ไม่เน้นมากนัก
ด้านตลาดมะม่วงน้ำดอกไม้
คุณสมทรงยังบอกอีกว่าได้นำมะม่วงน้ำดอกไม้สมุทรปราการไปเปิดตัวที่งานมหกรรมเกษตรปลอดภัยและของดีเมืองปากน้ำที่อิมพีเรียลเวิลด์ สำโรง ได้ผลตอบรับจากผู้บริโภคที่ได้ลองก็ติดใจเป็นอย่างมาก เขายังบอกอีกว่าที่นี่เราไม่เน้นการดูแลมาก เพราะเราไม่ได้ส่งออก ไม่ต้องห่อ เพราะที่นี่จะขายได้ตั้งแต่ยังไม่สุกเลย
ซึ่งจะมีพ่อค้าคนกลางมารับไปจำหน่าย แค่ทำในประเทศก็ยังไม่เพียงพอต่อการบริโภคเลย และการที่จะมีพ่อค้ามาซื้อที่สวนก็จะต้องมีการจองกันล่วงหน้า เพราะผลผลิตที่นี่จะออกตามฤดูกาล จะออกประมาณเดือนมีนาคม ทำให้ผลผลิตออกมาไม่พอต่อผู้บริโภค
แค่คนในพื้นที่ก็ไม่เพียงพอ ได้ผลผลิตน้อย แต่พอบวก ลบ คูณ หาร รายได้ดีกว่า เพราะไม่เหนื่อยมาก และไม่ต้องลงทุนอะไรมาก เพราะเป็นสวนปลอดสารเคมี ในปีที่ผ่านมาเขาได้ผลผลิต 2-3 ตัน แต่ก็เป็นบางปี เพราะบางปีราคาตกต่ำ ก็จะนำไปแปรรูปเพื่อให้มีรายได้ และยังช่วยเกษตรกรด้วยกันเพราะที่นี่มีกลุ่มส่งเสริมอาชีพ ทำให้มีการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับเกษตรกร ต่อให้ราคาตกต่ำ แต่เกษตรกรก็ยังมีรายได้ที่ดี
สุดท้ายคุณสมทรงได้ฝากถึงเกษตรกร ถ้าอยากลดต้นทุน ก็คือ ต้องประหยัด และควรที่จะทำบัญชีครัวเรือน จะได้รู้รายจ่าย อันไหนควรจ่าย อันไหนไม่ควรจ่าย และขยันยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ไม่เลือกงาน ไม่ยากจน สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณสมทรง รักษาธรรม โทร.08-1580-4163