เน้นทำเกษตรผสมผสาน สวนขนุน สวนยางพารา สวนทุเรียน และกิ่งพันธุ์ขนุน ทำรายได้ทั้งปี

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ผู้นำชุมชน หรือผู้นำต้นแบบด้านอาชีพ อย่าง กำนันสมศักดิ์ อาจิณ ที่ ต.วังจันทร์ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ที่มีพื้นฐานทางครอบครัวที่ยึดอาชีพเกษตรกรรมตลอดมา โดยการปลูกพืชเศรษฐกิจในแต่ละช่วงนั้นจะต้องคำนึงถึงความมั่นคงด้านรายได้ของผลผลิตจากอดีตจนถึงปัจจุบันเป็นหลักสำคัญ

1.กำนันสมศักดิ์-อาจิณ-กับสวนขนุน
1.กำนันสมศักดิ์-อาจิณ-กับสวนขนุน
2.สวนทุเรียน-เนื้อที่-13-ไร่
2.สวนทุเรียน-เนื้อที่-13-ไร่

การปลูกทุเรียนหมอนทอง

กำนันสมศักดิ์ได้เปิดเผยเส้นทางอาชีพกับนิตยสารยางเศรษฐกิจว่า การทำเกษตรของคนในพื้นที่อำเภอวังจันทร์ ถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือในอดีตที่ราคาผลผลิตยางพาราค่อนข้างดีนั้น เกษตรกรส่วนใหญ่ที่มีสภาพพื้นที่แห้งแล้ง ไม่ติดกับแหล่งน้ำ จะนิยมปลูก “ยางพารา” เพื่อสร้างรายได้เป็นหลัก ส่วนพื้นที่ที่อยู่ติดกับแหล่งน้ำ หรือมีแหล่งน้ำเป็นของตนเอง จะนิยมปลูก “ไม้ผล” เป็นหลัก

เช่นเดียวกับกำนันสมศักดิ์ที่เริ่มต้นการทำเกษตรในช่วงแรกด้วยการทำสวนผลไม้ หรือ “สวนทุเรียนหมอนทอง” ที่มีการดูแลและการจัดการค่อนข้างยุ่งยาก ใช้แรงงานมากในบางช่วง ให้น้ำอย่างต่อเนื่อง ต้องฉีดพ่นฮอร์โมน และสารเคมี ป้องกันโรคและแมลงทุกช่วงอายุไปจนถึงก่อนตัดเก็บผลผลิต เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ปลอดภัย ซึ่งในหนึ่งปีจะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

3.สวนยางพารา
3.สวนยางพารา

การปลูกยางพารา

กำนันสมศักดิ์จึงได้สั่งซื้อ “ต้นกล้ายางพารา สายพันธุ์ RRIM 600” มาปลูกแซมไว้ระหว่างร่องภายในสวนทุเรียน เพื่อหวังให้เป็นแหล่งสร้างรายได้ในอนาคตบนเนื้อที่ทั้งหมด 20 กว่าไร่ แบ่งออกเป็น 2 แปลง เน้นการปลูกยางพาราในระยะ 7×3 เมตร

ส่วนการดูแลรักษาต้นยางเล็กนั้นไม่ยุ่งยาก ดูแลรักษาง่าย เพียงไถพรวนดินในร่องยางเพื่อกำจัดหญ้าวัชพืช ทำพื้นที่ให้โล่งเตียน ทำแนวกันไฟป้องกันไฟไหม้ ใส่ปุ๋ยตามฤดูกาล

4.ยางก้อนถ้วย
4.ยางก้อนถ้วย

การผลิตยางก้อนถ้วย

เมื่อต้นยางพาราเจริญเติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์ จนกระทั่งเริ่มเปิดกรีดหน้ายางได้ กำนันสมศักดิ์จึงได้ตัดสินใจโค่นต้นทุเรียนทิ้งทั้งหมด เหลือไว้เพียงต้นยางพาราที่สามารถกรีดยางได้แบบ 2 วัน เว้นวัน มุ่งเน้นการผลิต “ยางก้อนถ้วย” เป็นหลัก นั่นเป็นเพราะยางก้อนถ้วยทำง่ายกว่าการขาย “น้ำยาง”  ที่ต้องวัดเปอร์เซ็นต์น้ำยาง และคุณภาพของน้ำยางเป็นหลัก

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ซึ่งในขณะนั้นยางก้อนถ้วยราคาค่อนข้างดี ขายได้ราคา มีตลาดรับซื้อ และยังมีโรงงานภายในพื้นที่ ทำให้ครอบครัวมีรายได้ที่ดี มีอาชีพที่มั่นคง ส่งผลทำให้เกษตรกรหันมาปลูกยางพาราในพื้นที่ ต.วังจันทร์ อ.วังจันทร์ เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ก็เป็นที่รู้กันดีว่าผลผลิตทางเกษตรกรของเกษตรกรไทยในแต่ละปีนั้นไม่แน่นอน ราคามักจะขึ้นๆ ลงๆ เปลี่ยนแปลงไปตลอด

โดยที่เกษตรกรในฐานะ “ผู้ผลิต” ซึ่งเป็นต้นน้ำของห่วงโซ่นั้นไม่สามารถกำหนดราคาผลผลิตเองได้ เมื่อมีคนปลูกยางพารามากขึ้น มีผลผลิตมากขึ้น ราคาย่อมตกต่ำลงไปตามกลไก ดังนั้นกำนันสมศักดิ์จึงเริ่มบริหารความเสี่ยงด้วยการมองหาพืชใหม่มาปลูก เพื่อนำมาซึ่งรายได้ที่ดีต่อไป

จนกระทั่งเห็นว่ามีที่ดินแปลงหนึ่งจำนวน 13 ไร่ หน้าฝนจะมีตาน้ำผุดขึ้นมา จึงยกร่องปลูก “กล้วยไข่” เพราะได้ราคาดี มีตลาดนอกรองรับ และเคยขายผลผลิตหน้าสวนได้ราคา 43 บาท/กก. แต่ข้อเสียการปลูกกล้วยไข่ คือ ลงทุนสูง ต้องใส่ปุ๋ย ต้องฉีดพ่นยา ให้น้ำต้องถึง โดยเฉพาะปุ๋ยยูเรียขาดไม่ได้เลย ต้องให้อาทิตย์ละครั้ง

5.สวนขนุน
5. สวนขนุน

การทำ สวนขนุน

ต่อมาจะเห็นว่ามีชาวสวนหลายคนเริ่มหันมาปลูกขนุน จึงได้เปิดใจลองศึกษาถึงข้อดี-ข้อด้อยของขนุนแต่ละสายพันธุ์ ในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะโค่นกล้วยไข่ แล้วหันมา “ปลูกขนุน” ทั้งแปลง โดยการติดตั้งระบบน้ำเพิ่มเข้าไปเพื่อปลูกขนุนในระบบน้ำหยดทุกต้น หรือมากกว่า 600 กว่าต้น ที่สำคัญกำนันสมศักดิ์เลือกที่จะปลูกขนุน “สายพันธุ์สีทอง” และ “สายพันธุ์ทองประเสริฐ”  ซึ่งขนุนทั้ง 2 สายพันธุ์นี้ มีข้อดี-ข้อด้อยที่แตกต่างกัน เนื่องจาก

“ขนุนสายพันธุ์สีทอง” มีข้อดี คือ ออกผลง่าย เป็นพันธุ์เบา ออกทั้งปี 1 ปี เก็บผลผลผลิตได้นานถึง 8 เดือน ส่วน “ขนุนสายพันธุ์ทองประเสริฐ” ข้อดี คือ  ผลสวย ถ้าผลผลิตได้ไซซ์ที่ตลาดนอกต้องการจะขายได้ราคาดี แต่มีข้อเสีย คือ บางลูกจะมีสีสนิม ทำให้ราคาตกเหลือเพียง 3 บาท/กก.

6.ต้นขนุนที่ให้ผลผลิตที่ดี
6.ต้นขนุนที่ให้ผลผลิตที่ดี

การให้น้ำและปุ๋ยต้นขนุน

อย่างไรก็ตามแม้ต้นขนุนสายพันธุ์ทองประเสริฐจะมีอายุ 10 กว่าปีขึ้นไป แต่ถ้าตัดแต่งกิ่ง ดูแลดี ให้น้ำ ให้ปุ๋ย ฉีดพ่นฮอร์โมน และยา สม่ำเสมอ ห่อผลผลิต จะทำให้ชาวสวนมีรายได้หลายพันบาทต่อต้น หรือประมาณ 3,000 บาท/ต้น/ปี

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ตอนที่ปลูกพันธุ์สีทองตอนนั้นราคาดี เพื่อนปลูก 2 ปี ก็เห็นผล เก็บผลผลิตขายได้ต้นละ 110-120 บาท ลูกมัน ผลใหญ่ ผิวสวยดี ราคาพอๆ กันกับทองประเสริฐ จึงตัดสินใจซื้อมาปลูกไว้200 ต้น ในครั้งแรก เน้นการปลูกขนุนในระยะปลูก 6×6 เมตร แต่บางช่วงอาจจะปลูกกว้างถึง 8 เมตร เพราะไม่ได้วัด และที่เดิมบางส่วนเคยเป็นสวนกล้วยไข่มาก่อน ส่วนสาเหตุที่เลือกปลูกขนุนเพราะราคาดี ในพื้นที่มีล้งมารับซื้อถึงหน้าสวนเพื่อส่งออก หรือส่งเข้าโรงงาน ได้ราคาดีประมาณ  20 กว่าบาท/กก. จึงเริ่มต้นปลูกขนุนครั้งแรกแบบรวดเดียวทั้งสวน

7.กิ่งพันธุ์คุณภาพ-การันตีจากทรงวุฒิพันธุ์ไม้
7.กิ่งพันธุ์คุณภาพ-การันตีจากทรงวุฒิพันธุ์ไม้

การจำหน่ายกิ่งพันธุ์ขนุน

ที่สำคัญ สวนขนุน ของกำนันสมศักดิ์นั้นอยู่ติดกับถนนใหญ่เส้นหลักที่จะมุ่งหน้าจากอำเภอวังจันทร์ไปที่ตำบลสามย่าน อำเภอแกลงพอดี ประกอบกับ สวนขนุน แห่งนี้เน้นการจัดการสวนที่ดี เป็นระบบ ทำให้ สวนขนุน สวยจนสะดุดตา ผู้ใช้รถ ใช้ถนน ที่ผ่านไปมาทุกครั้ง จนเกิดความสนใจ และดึงดูดใจให้ลูกค้าแวะเวียนเข้ามาติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการทำ สวนขนุน และอยากจะหาผลผลิต บ้างก็จะขอซื้อกิ่งพันธุ์ติดไม้ติดมือนำไปปลูกไว้เพื่อการบริโภคด้วย

แต่เนื่องจากกำนันสมศักดิ์ในช่วงนั้น หรือหลังจากเริ่มต้นทำ สวนขนุน ได้เพียง 2 ปี ที่องค์ความรู้ยังมีไม่มากพอ ไม่เคยทำกิ่งพันธุ์ขนุน และไม่มีต้นกล้าขนุน ไว้เพื่อจำหน่าย จึงได้พาลูกค้าไปซื้อกิ่งพันธุ์กับ สวนขนุน ของเพื่อนๆ เมื่อลูกค้าเริ่มมาสอบถามมากขึ้น ก็ยังพาลูกค้าไปที่สวนของเพื่อนเช่นเคย จนกระทั่งกิ่งพันธุ์ขายดี ผลิตไม่ทัน ดังนั้นเพื่อนเลยชักชวนให้กำนันสมศักดิ์ผลิตกิ่งพันธุ์ขนุนไว้เพื่อจำหน่าย ตอนแรกไม่คิดจะทำ แต่ก็อยากลองทำ ไว้รองรับลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามา

จึงให้คนงานที่สวนไปฝึก และเรียนรู้เทคนิคการผลิตกิ่งพันธุ์กับ สวนขนุน ของเพื่อนแทน เพื่อนำเอาความรู้กลับมาผลิตกิ่งพันธุ์ที่สวนบ้าง ก่อนจะนำกิ่งพันธุ์มาขายที่หน้าร้านซึ่งติดกับถนนใหญ่ เพื่อให้เกิดการจดจำในเชิงการค้า กำนันสมศักดิ์จึงได้ตั้งชื่อ สวนขนุน และร้านจำหน่ายกิ่งพันธุ์ขนุนนี้ว่า “ทรงวุฒิพันธุ์ไม้ผล” ที่ตั้งอยู่ติดกับถนน 4 เลน บ้านบึง-แกลง ฝั่งขวามือ หรือกิโลเมตรที่ 88

ปัจจุบันกำนันสมศักดิ์ยืนยันว่าอาชีพการผลิตกิ่งพันธุ์ขนุนนั้นได้สร้างรายได้ให้อย่างงาม เพราะกิ่งพันธุ์ขนุนที่นี่เน้นการผลิตทุกขั้นตอนอย่างตั้งใจ ใส่ใจ เน้นคุณภาพ จึงมีลูกค้าแวะเวียนมาอุดหนุนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งหัวใจหลักสำคัญของการผลิตกิ่งพันธุ์ขนุนที่ดีต้องมี “ต้นตอที่ดี” มีต้นพันธุ์ขนุนทองประเสริฐที่ดี และต้นพันธุ์ที่สวนแห่งนี้มีคุณภาพทุกต้น เพราะคัดเลือกมาปลูกเองกับมือ นจึงมั่นใจในคุณภาพ ทั้งผลผลิตของขนุน และกิ่งพันธุ์

8.การผลิตกิ่งพันธุ์ขนุนเชิงการค้า
8.การผลิตกิ่งพันธุ์ขนุนเชิงการค้า

เทคนิคการผลิตกิ่งพันธุ์ขนุน

ส่วนเทคนิคการผลิตต้นพันธุ์ อันดับแรกต้องตัดแต่งทรงพุ่มต้นขนุนให้ดี ให้น้ำ และบำรุงต้น เพื่อให้ต้นขนุนเริ่มแตกแขนงใหม่ออกมา เน้นใช้กิ่งที่สวย ไม่อ่อน ไม่แก่ จนเกินไป ที่มีอายุกิ่งใหม่ประมาณ 2 เดือน เพราะต้นขนุนที่สมบูรณ์จะให้กิ่งที่โตเร็ว และสมบูรณ์ดี

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ในขณะที่ “ต้นตอ” นั้น ทางสวนจะเน้นเพาะไว้งอก และเจริญเติบโตเป็นต้นตอนาน 5-6 เดือน  เมื่อลำต้นโตมีขนาดเท่ากับ “กิ่งพันธุ์” ก็จะเริ่มทำการ “ทาบกิ่ง” เพื่อ “ผลิตกิ่งพันธุ์” ได้ทันที  ปัจจุบันทางสวนได้คัดเลือกต้นพันธุ์ไว้ผลิตกิ่งพันธุ์ในเชิงการค้าทั้งหมด 200 กว่าต้น โดยจะสามารถผลิตกิ่งพันธุ์ได้ประมาณ 100-200 กิ่ง/ต้น ขึ้นอยู่กับขนาดต้นขนุน และความสมบูรณ์ของกิ่งเป็นหลัก

9.เน้นทำเกษตรผสมผสาน สวนขนุน สวนยางพารา สวนทุเรียน ทำรายได้ทั้งปี
9.เน้นทำเกษตรผสมผสาน สวนขนุน สวนยางพารา สวนทุเรียน ทำรายได้ทั้งปี

สภาพพื้นที่ปลูกขนุน

นอกจากนี้กำนันสมศักดิ์ยังได้แนะนำขั้นตอนการปลูกขนุนให้ได้ผลผลิตที่ดี ด้วยการเริ่มต้นเตรียมดินให้ดี ไถปรุงดินให้ดี ก่อนจะทำการยกร่องเพียงเล็กน้อย เพื่อให้เกิดการระบายน้ำได้ดี ป้องกันไม่ให้น้ำแช่โคนต้นขนุน ก่อนจะลงมือขุดหลุมปลูกขนาดความลึก 30×30 ซม.ในระยะ 6×6 เมตร แล้วค่อยใช้ขี้วัวแห้งรองก้นหลุมประมาณ 1 กก./หลุม กลบดินในหลุมให้เสมอกับพื้นหน้าดินเดิม แล้วปลูกขนุน เติมดิน หรือยกดินให้พูนเป็นโคกอีกครั้ง

เพราะต้นขนุนที่รากแช่น้ำ น้ำแช่ที่โคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยโต ก่อนจะรดน้ำให้ความชื้นสม่ำเสมอ แล้วต้นขนุนจะเจริญเติบโตค่อนข้างดี เน้นใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ ในช่วงแรกที่ต้นพันธุ์มีอายุประมาณ 1 เดือน เพียง 1 หยิบมือเดียว โรยรอบๆ ทรงพุ่มทุกๆ 15 ต่อ ให้น้ำแบบวันเว้นวัน หรือ 2 วันครั้งก็ได้

10.ผลผลิตที่มีคุณภาพมาตรฐานส่งออก
10.ผลผลิตที่มีคุณภาพมาตรฐานส่งออก

การป้องกันกำจัดโรคและแมลง

ต้นขนุนเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่ออายุครบ  1 ปี ก็จะเริ่มสมบูรณ์ขึ้น และจะเริ่มให้ตกลูก ให้ผลผลิตในเชิงการค้าได้ ตั้งแต่อายุ  2 ปีขึ้นไป อีกทั้งขนุนยังดูแลง่าย ไม่เหมือนทุเรียนที่ดูแลค่อนข้างยาก แต่ต้องระวัง “หนอน” เจาะทำลายอย่างเดียว ทั้งหนอนเจาะยอดและใบ ด้วยการฉีดพ่นฮอร์โมน และสารป้องกันประมาณ 7-10 วัน/ครั้ง

ถ้าจะให้ดีต้องเริ่มป้องกัน และฉีดพ่นฮอร์โมนมาตั้งแต่ช่วงเล็กๆ เป็นต้นมาสำคัญที่สุดอีกช่วง คือ ช่วงออกดอกที่ต้องระวังโรคและแมลงเข้าทำลายภายในระยะเวลา 1 เดือน หลังจากนั้นจะเริ่มสลัดดอกทิ้ง แล้วพัฒนาเป็นผลอ่อนไปจนถึงเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ก็ต้องใช้ระยะเวลา 4 เดือนเต็มเช่นเดียวกัน

11.คุณภาพผลผลิตเป็นที่พอใจ
11.คุณภาพผลผลิตขนุนเป็นที่พอใจ

ด้านตลาดขนุน

กำนันสมศักดิ์ได้ให้มุมมองไว้ว่าด้วยบทบาทหน้าที่ผู้นำชุมชน ที่ต้องคอยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับลูกบ้านในพื้นที่ ต้องคอยติดต่อประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ตลอด ทำให้กำนันสมศักดิ์มีเวลาค่อนข้างจำกัด จึงต้องมีผู้จัดการสวน และทีมงานคอยดูแลสวน และผลิตกิ่งพันธุ์ แม้แต่เรื่องทำเกษตรก็ต้องทำให้เป็นแบบอย่าง คิดวิเคราะห์ก่อนลงมือทำ ทำแล้วต้องประสบความสำเร็จภายใต้องค์ความรู้ที่ถูกต้อง

โฆษณา
AP Chemical Thailand

เน้นการดูแลเอาใจใส่ให้ผลผลิตมีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง เพียงเท่านี้ผลผลิตก็เป็นที่ต้องการของตลาดและผู้บริโภค เน้นตัดสุกทุกผล รักษาคุณภาพ ไม่ตัดขนุนอ่อน จะทำให้เกษตรกรมีอาชีพที่มั่นคงแน่นอน

12.การเปิดกรีดหน้ายาง
12.การเปิดกรีดหน้ายาง

การเปิดกรีดยาง

ส่วนการทำ “สวนยางพารา” นั้น ทุกวันนี้กำนันสมศักดิ์ก็ยังคงทำอยู่ และต้องทำต่อไป เพราะมันคืออาชีพ และด้วยสภาพพื้นที่ทำให้เลือกอะไรมากไม่ได้ แม้ว่าราคาผลผลิตจะตกต่ำลงไปมากจากอดีตที่ผ่านมา ทำให้ส่งผลกระทบต่อชาวสวนโดยตรง ดังนั้นสวนยางพาราทั้ง 2 แปลง อายุ 20 ปี เนื้อที่ 20 กว่าไร่ จึงเน้นทำยางก้อนถ้วยเป็นหลัก เพราะทำง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เน้นกรีดยางแบบ 2 วัน เว้นวัน หรือแบบ 3 วัน เว้นวัน ขึ้นอยู่กับช่วงฤดูกาล

อีกทั้งต้นยางมีอายุมากขึ้น ทำให้เปลือกแข็ง และกรีดยางได้ยากขึ้นด้วย แต่ชาวสวนต้องอดทน ขอให้อดทนอีกสักพัก รอให้ราคาดีขึ้น และคิดว่าราคาน่าจะดีขึ้น นอกจากนี้อยากฝากไปถึงรัฐบาลว่าอยากให้ดูแลเกษตรกร หากวัตถุดิบมีมากจนล้นตลาด ก็อยากให้ช่วยหาช่องทางเพื่อนำผลผลิตไปแปรรูป เพิ่มมูลค่า เพิ่มราคา และเชื่อว่ารัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จะเห็นได้จากการมีโอกาสได้เข้าร่วมสัมมนากับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้เกี่ยวกับยางพารา และ “การแปรรูป” จะเป็นทางออกให้กับยางพาราได้

เกษตรกรหรือผู้ที่สนใจแวะเยี่ยม สวนขนุน กำนันสมศักดิ์ อาจิณ  “ทรงวุฒิพันธุ์ไม้ผล” 6/1 ม.3 ต.วังจันทร์ อ.วังจันทร์ จ.ระยอง 21210 โทร.086-1450719