คุณเคยคิดหรือไม่ว่า…? ถ้าหากวันหนึ่งไม่มีชาวนาแล้วจะเอาข้าวที่ไหนกิน…? คนไทยมีความผูกพันกับอาชีพชาวนา ไม่ว่าเวลาจะเลยผ่านมาเนิ่นนานสักเพียงใด พื้นแผ่นดินไทยก็ยังมีการปลูกข้าว มีการทำนา อยู่เสมอ หลายคนเคยบอกว่าชาวนาจะทำนาไปทำไมกัน ทำไปก็ไม่รวย ยังคงยากจนเช่นเดิม…! แม้ว่าข้าวที่ซื้อกินจะมีราคาสูงขึ้นสักเพียงใด แต่ชาวนาไทยก็ไม่ได้มีชีวิตที่ดีขึ้นเลย จะมีใครคิดเล่าว่าถ้าหากเขาเหล่านี้ไม่ทำนาแล้วเราจะเอาข้าวที่ไหนกิน…! แม้รายได้จากการขายข้าวเปลือกจะมีเพียงน้อยนิด แต่คุณค่าของข้าวที่เขาปลูกนั้นมันมีค่ามากมายมหาศาล
ซึ่งทีมงานนิตยสารพืชเศรษฐกิจ (กลุ่มข้าวเศรษฐกิจ)ได้เล็งเห็นคุณค่าของชาวนา จึงนำเสนอผลงานและการวิจัย ของ คุณอัสนี รัตนวิจารณ์ ผู้ผลิตคิดค้น “เครื่องปลูกข้าว” ร่วมกับ ผศ.ดร.อนุกูล วัฒนสุข มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์สกลนคร อาจารย์ธฏษธรรมช์ ลาโสภา มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร และนักปราชญ์ที่รักในการทำนา ชาวนาในพื้นที่หน่วยงานอีกหลายสถาบันฯ เพื่อเป็นแนวทางในการนำเทคโนโลยีด้วยนวัตกรรมเข้ามาใช้ในการเกษตร
ซึ่งเป็นยุคของการใช้ความรู้เพื่อให้การผลิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดต้นทุนให้ต่ำลง และได้ผลผลิตที่ดี “แสงสว่างที่ปลายถ้ำ” แม้จะส่องให้เห็นอยู่รำไร พร้อมกับการต่อสู้ของคุณอัสนี ชาวนาวัย 61 ปี อดีตนายก อบต. 2 สมัย วันนี้กลายเป็นปราชญ์ชาวนาที่เก่งเรื่องการปลูกข้าว การเพิ่มผลผลิตข้าว และการนำเอาเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรเชิงประยุกต์มาใช้ในการปลูกข้าว ให้มีกำไรต่อไร่สูง
รวมถึง “อาชีพการรับจ้างทำนา” ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อส่งเสริมอาชีพในชุมชน โดยใช้ เครื่องปลูกข้าว ด้วยเมล็ดพันธุ์แทนการหว่านเป็นเครื่องที่ออกแบบมาอย่างประณีต จดสิทธิบัตรจากกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่เหมาะสมกับชาวนาไทยในทุกภาค
สภาพพื้นที่การปลูกข้าว
จากปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และค่าแรงที่สูงขึ้น ในภาคเกษตรกรรม ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการทำนา ชาวนาจำนวนไม่น้อยที่ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและกระบวนการทำนา ได้หันมาพึ่งพาเครื่องจักรกลการเกษตร พร้อมกับเปลี่ยนกระบวนการทำนาไปเป็นการจ้างกันมากขึ้น
การใช้ เครื่องปลูกข้าว ด้วยเมล็ดพันธุ์ ทั้งนาตม และนาแห้ง
การพัฒนาที่ไม่หยุดยั้งของ “เครื่องปลูกข้าวด้วยเมล็ดพันธุ์” โดยคุณอัสนี และทีมงาน ที่พัฒนาขึ้นมาให้เหมาะกับการทำนา ทั้งนาตม และนาแห้ง ลดต้นทุน ใช้เมล็ดพันธุ์เพียง 5-10 กิโลกรัม/ไร่เท่านั้น ข้าวแตกกอดี ผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว เกิดการปรับเปลี่ยนจากนาหว่านมาเป็นนาหยอด ที่สิ้นเปลืองเมล็ดน้อยกว่า ได้ผลผลิตมากกว่า เครื่องหยอดถูกสร้างขึ้นมาหลายแบบ ตั้งแต่แบบมีกลไกซับซ้อนพ่วงท้ายรถแทรกเตอร์ และรถไถเดินตาม การทำงานคล่องตัว รวดเร็ว มีระยะห่างที่แน่นอน
ขั้นตอนการปลูกเมล็ดพันธุ์ข้าว ทั้งนาแห้ง และนาตม
เพื่อแก้ไขปัญหาชาวนาไทย ให้ได้ผลผลิตมากกว่านาดำและนาหว่าน ประหยัดต้นทุน ด้วยเครื่องปลูกเมล็ดข้าวอัจฉริยะ ภายใต้ “โครงการช่วยเหลือชาวนามืออาชีพ” ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติในการปลูกเมล็ดพันธุ์ข้าวได้ ทั้งนาแห้ง นาตม
รวมทั้งสามารถปลูกข้าวโพด ถั่วต่างๆ ได้ในเครื่องเดียวกัน ใช้เมล็ดพันธุ์เพียง 5-10 กิโลกรัม/ไร่ รับประกันข้าวงอก 40,000 ต้น/ไร่ เครื่องสามารถทำงานได้ถึงวันละ 100 ไร่ สำหรับการทำนาแห้งจะใช้อุปกรณ์ทำร่องดินลึกขาด 5-7 เซนติเมตร แล้วใช้ดินฝังกลบเมล็ดพันธุ์ข้าวเพียง 1 เซนติเมตร เพื่อให้ข้าวงอกได้ทุกเมล็ด
สำหรับการทำนาตมนั้นจะใช้อุปกรณ์ทำร่องน้ำ และสันตม เมล็ดข้าวที่ปลูกจะงอกที่สันตมทุกเมล็ด น้ำไม่ขัง ข้าวที่งอกเป็นแถวเรียงแนวสวยงาม นอกจากนี้หากต่อพ่วงเข้ากับโรตารี่ สามารถปั่นดิน ปลูกเมล็ดข้าว กลบดิน ใส่ปุ๋ย และพ่นยาคลุมอินทรีย์ได้พร้อมกัน หรือที่เรียกว่า การทำนาแบบ 5 in 1 หรือ 1 Stop Service
การเก็บเกี่ยวข้าว
ต้นข้าวที่ปลูกด้วยเครื่องปลูกเมล็ดข้าวอัจฉริยะจะขึ้นเป็นแถวมีระเบียบ ระยะห่างสม่ำเสมอ อากาศถ่ายเทได้ดี แสงแดดส่องได้อย่างทั่วถึง ต้นข้าวมีความสมบูรณ์ แข็งแรง ทนต่อโรค ประหยัดปุ๋ยและยาฆ่าแมลง ได้ผลผลิตมากกว่าการทำนาดำและนาหว่าน
เครื่องปลูกเมล็ดข้าวอัจฉริยะ หรือ เครื่องปลูกข้าว ด้วยเมล็ดพันธุ์ จึงเหมาะกับผู้ที่มีรถไถนา หรือผู้นำชุมชน ผู้นำหมู่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น สถาบันการศึกษาทุกระดับ ส่วนราชการ เพื่อใช้ในการศึกษาเรียนรู้ และยังเหมาะกับนาแปลงใหญ่ เกษตรกรหัวก้าวหน้า ฯลฯ เพื่อนำมาปรับใช้ในการปลูกข้าวให้มีคุณภาพ สามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และยังเป็นการปลูกฝังให้รักในการทำนาอีกด้วย
การให้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องปลูกข้าวด้วยเมล็ดพันธุ์แก่เกษตรกร
นวัตกรรมจากภูมิปัญญา สู่การรับจ้างทำนามืออาชีพ เป็นที่ทราบกันดีว่าทุกวันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี กำหนดให้เป็น “วันข้าวและชาวนาแห่งชาติ” เนื่องจากข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่สำคัญของประเทศไทย เป็นทั้งอาหารหลักของคนในชาติ และยังเป็นสินค้าส่งออกที่สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศ
โดยหนึ่งในสมาคมของไทย อย่าง สมาคมชาวนาและโรงสีข้าวไทย ร่วมกับ คุณอัสนี รัตนวิจารณ์ จึงได้ร่วมออกบูธจัดนิทรรศการ พร้อมกับนำนวัตกรรมเครื่องปลูกข้าวด้วยเมล็ดพันธุ์มาโชว์ และให้ความรู้แก่เกษตรกรผู้ที่เข้าชมภายในงานวันข้าวและชาวนาแห่งชาติปี 2561 ที่จัดขึ้น ภายใต้แนวคิด “ศาสตร์พระราชา นำชาวนาสู่ยุค 4.0” ในวันข้าวและชาวนาแห่งชาติปี 2561 ภายใต้แนวคิด “มหัศจรรย์ข้าวพื้นเมือง คุณค่าจากทุ่งนา เพิ่มมูลค่าด้วยนวัตกรรม” การนำผลงานมาจัดโชว์และให้ความรู้ เป็นที่น่าดึงดูดและได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงาน และหลายหน่วยงานเป็นอย่างมาก
ขอขอบคุณ อาจารย์ธฏษธรรมช์ ลาโสภา (ผู้วิจัยโครงการต้นแบบ) คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร สอบถามข้อมูลเครื่องปลูกข้าว และบริการรับจ้างทำนาอินทรีย์ได้ที่ คุณอัสนี รัตนวิจารณ์ 191 ถ.นิตโย ต.ศรีวิชัย อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร 47120โทร.082-118-7671