ลำไยเป็นไม้ผลที่นับว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีมูลค่าการส่งออกหลายพันล้านบาท โดยเฉพาะตลาดจีน กล่าวว่า จังหวัดลำพูนและเชียงใหม่เป็นแหล่งปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดนี้มากที่สุดในประเทศไทย ปัจจุบันไม่เพียงทางภาคเหนือเท่านั้นที่สามารถผลิตลำไยนอกฤดู หากเอ่ยถึงแหล่งผลิตพันธุ์ไม้และไม้ผลที่สำคัญของนครปฐมต้องนึกถึงคลองจินดา อ.สามพราน เป็นแหล่งไม้ผลเก่าแก่ และมีความหลากหลายหมุนเวียนกันตลอดทั้งปี หากกระแสไม้ผลชนิดใดราคาดี รับรองได้ว่าจะต้องมีการปลูกในเขตนี้อย่างแน่นอน ซึ่งวิถีการทำเกษตรชาวสวนเช่นนี้ยังคงได้รับการถ่ายทอดจากอดีตสู่ปัจจุบัน
คุณโชติวัฒน์ ฮะทะโชติ ซึ่งเป็นลูกชายของ คุณพ่อสมจิตร ฮะทะโชติ ครอบครัวเล็กๆ เกษตรกรในพื้นที่คลองจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม แห่งนี้ ผู้ปลูกลำไยนอกฤดูคุณภาพ ที่ขณะนี้ถือว่าเป็นสวนขนาดใหญ่ในเขตนี้เช่นกัน
คุณโชติวัฒน์เล่าว่า พื้นที่ทั้งหมด 50 ไร่ ช่วง 40 ปีก่อน คุณพ่อได้ทำการบุกเบิกอาชีพทำสวน เริ่มแรกปลูกองุ่นเป็นพันธุ์คาร์ดินัล, พันธุ์ไวท์มะละกา ควบคู่กับการผลิตกล้วยไม้ตัดดอกส่งออกเจ้าแรกในพื้นที่มา 20 ปี เกิดปัญหาเรื่องการตลาด เมื่อผู้ส่งออกลดปริมาณการรับซื้อผลผลิตลง เนื่องจากบางบริษัทได้ทำการผลิตกล้วยไม้ส่งออกเอง กอปรกับราคาไม่ดี ต้นทุนการผลิตสูง เช่น ค่าโรงเรือน ค่ายา สูงขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดจึงได้เลิกทำสวนกล้วยไม้ และหันมาปลูกพืชชนิดอื่นแทน ได้แก่ แก้วมังกร ชมพู่ ฝรั่งกิมจู ส้มเขียวหวาน ทำได้ 4-5 ปี แต่ก็มีปัญหาแตกต่างกันไป
สภาพพื้นที่ปลูกลำไย
สำหรับลำไยนำมาปลูกครั้งแรกเลย คือ พันธุ์เพชรสาคร ซื้อพันธุ์มาจากลุงกำจาย บ้านแพ้ว ราคากิ่งพันธุ์กิ่งละ 40 บาท เริ่มปลูก 10 ไร่ เมื่อ 10 ปีก่อน มองว่าลำไยเป็นไม้ผลที่ปลูกและดูแลรักษาไม่ยากจนเกินไป ข้อดีของพันธุ์นี้ คือ ทวายออกได้เอง ไม่ต้องราดสาร สามารถบังคับให้ออกได้ตามต้องการ อีกทั้งต้นทุนก็ไม่สูงมาก ใช้แรงงานน้อย ยกเว้นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ต้องใช้แรงงานเร่งด่วน ข้อเสีย คือ น้ำขัง มีกลิ่นหอม ค้างคาวรบกวน นับแต่นั้นมาหลังปลูกได้นาน 2 ปี ก็เปลี่ยนมาปลูกพันธุ์อีดอแทนเพชรสาคร
สายพันธุ์ลำไย
ปัจจุบันพื้นที่ปลูกลำไยทั้งหมด 40 ไร่ ประมาณ 1,600 วัน ปลูกไว้ 3 พันธุ์ คือ พวงทอง อีดอ เพชรน้ำเอก แต่ก่อนมีพันธุ์อีไว แต่ปัจจุบันได้ตัดทิ้งไปหมดแล้ว ปลูกพันธุ์อีดอมากสุด เพราะมีจุดเด่น คือ เนื้อแห้ง ปลูกง่าย ไปซื้อสายพันธุ์มาจากบ้านแพ้ว ลักษณะเด่นของพวงทองจะต่างจากอีดอตรงที่ลูกใหญ่กว่า เนื้อหนา กรอบ เรื่องความหวานจะน้อยกว่าอีดอ
ส่วนเพชรน้ำเอกจะเหมือนกับพวงทอง ขนาดลูกใกล้เคียงกัน ทั้งก้านช่ออ่อนกว่า พวงทองจะเป็นก้านช่อแข็ง ความแตกต่างระหว่างก้านช่อแข็งกับก้านช่ออ่อน คือ ก้านช่อแข็งกำยาก ลูกหลุดง่าย ก้านช่ออ่อน ซึ่งตลาดใหญ่พันธุ์อีดอจะอยู่ทางภาคเหนือ
แต่พื้นที่บ้านเราพวงทองอันดับ 1 ลักษณะลูกเหมือนเพชรน้ำเอก ข้อแตกต่าง คือ ต้องแกะเนื้อออกดู พวงทองเนื้อใส เพชรน้ำเอกเนื้อขุ่นติดไปทางอีดอ และนอกจาก สวนลำไย แล้วพื้นที่ส่วนที่เหลือยังแบ่งไว้สำหรับปลูกพืชผักอีกหลายชนิด ได้แก่ ดอกสลิด มะเขือเปาะ ฟักเขียว บวบ มะระขี้นก ผักชี หมุนเวียนเพื่อเป็นรายได้เสริม และไว้ใช้ในครัวเรือน
การบริหารจัดการ สวนลำไย
หลังเก็บเกี่ยวผลผลิต อันดับแรกต้องเตรียมตัวกลาง ตัวท้ายสูง ประมาณ 8-24-24 ตัดแต่งกิ่งที่ซ้อนทับกับกิ่งที่เสียหาย กิ่งที่อยู่ด้านในที่ไม่ได้รับแสงแดด กิ่งไหนที่เป็นโรคให้ตัดทิ้งไป ตัดแต่งกิ่งให้โปร่งเพื่อให้แสงแดดส่องถึง บริเวณด้านในทรงพุ่มให้สะอาด และก่อนราดสารให้ใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก อัตรา 0-0-60 บังคับไม่ให้แตกใบอ่อน
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับขนาดทรงพุ่มพร้อมกับให้น้ำเป็นประจำ ส่วนการราดสารที่ใช้กันทั่วไป เรียกว่า โพแทสเซียมคลอเรต วิธีการราดสารทางเราจะไม่ผสมน้ำ จะเทรอบต้นเลย แล้วรดน้ำตาม ในส่วนของปุ๋ยทำการชั่งเตรียมไว้ถุงละ 1 กก. ซึ่งจะดูจากขนาดทรงพุ่มเป็นหลัก วางไว้รอบโคนต้นจนครบ
หลังจากนั้นรดน้ำตามจนครบ 6 สัปดาห์ เมื่อครบแล้วให้ใช้สารโพแทสเซียมคลอเรต อัตราน้ำ 300 ลิตร โพแทสเซียมคลอเรต 3 ขีด บางกรณีสามารถใช้สารได้ในอัตราที่แตกต่างกันไป ถัดมาอีก 1 เดือน ฉีดตามด้วยสาหร่ายเข้มข้นผสมน้ำอัตรา 300:300 ลิตร/ซีซี. ผสมเสร็จฉีดตามในช่วงที่เห็นดอก 3 เที่ยว ระยะเวลาระหว่างเกี่ยวไม่เกิน 1 สัปดาห์/ครั้ง ขั้นตอนสุดท้ายตามด้วยแคลเซียม โบรอน
ประโยชน์ของแคลเซียม โบรอน คือ บำรุงข้อเหนียว ป้องกันผลแตกร่วง การทำแคลเซียม โบรอน ไว้ใช้เอง จะทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ ขั้นตอนและวิธีทำก็ไม่ยาก วัสดุก็หาซื้อได้ตามร้านขายปุ๋ย ขายยา เคมีเกษตร เมื่อทำเสร็จต้นทุนจะถูกกว่า
วิธีการทำแคลเซียม โบรอน
ส่วนผสม
- แคลเซียม ไบเกรด หรือปุ๋ยละลายน้ำสูตร 15-0-0 จำนวน 1,200 กรัม
- กรดบอริก 400 กรัม หรือโบรอนพืช 400 กรัม
- น้ำ 20 ลิตร
- ธาตุรอง ธาตุเสริม 100 กรัม
- อะมิโนโปรตีน 100 ซีซี.
- กลูโคสน้ำ 100 ซีซี.
วิธีการทำ
วิธีการทำ ใส่ส่วนผสมทีละอย่างลงไปในน้ำ คนช้าๆ วนหลายครั้งจนละลายเข้ากับน้ำดี แล้วจึงใส่ส่วนผสมตัวอื่นตามลงคนให้เข้ากันอีกจนละลายเข้ากันดีแล้ว จึงใส่ส่วนผสมตัวอื่นตามจนครบเพื่อละลายเข้ากันดีแล้ว เสร็จทิ้งไว้ 12-24 ชม. ระหว่างนี้ให้คนบ่อยๆ ครบกำหนดแล้วปล่อยให้นอนก้น จากนั้นสังเกตดู ถ้ามีกากนอนก้นน้อย และไม่มีการแยกชั้น แสดงว่าทุกอย่างลงตัว นำไปใช้งานได้
วิธีใช้
วิธีใช้ นำสารละลายแคลเซียม โบรอน อัตรา 100-200 ซีซี. ไปเจือจางในน้ำสะอาด 200 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วกัน ในระยะก่อนดอกบาน หลังติดผลอ่อน และก่อนการเก็บเกี่ยว 1 เดือน ในช่วงเย็น 2-3 ครั้ง ติดต่อกัน โดยเว้นระยะ ควรฉีดพ่นให้ห่างกันครั้งละ 5-7 วัน จะลดการหลุดร่วงของดอก และช่วยให้ต้นลำไยติดผลได้ดีขึ้น ส่วนสารละลายแคลเซียม โบรอน ที่เหลือให้เก็บรักษาไว้ในภาชนะที่ปิดสนิท ตั้งวางไว้ในที่ร่ม เพื่อรอนำไปใช้งานในครั้งต่อไป
การบำรุงดูแลรักษาต้นลำไย
เมื่อนำลงดินแล้วไม่ต้องรดน้ำบ่อย ให้ดูสภาพพื้นที่ ความชื้น ช่วงแรกแนะนำให้แทงยอดประมาณ 1 เดือน ให้ยกโขดป้องกันการเน่า หากฝนตก ลำไยมีหลักอยู่ว่าถ้าทำการราดสารแล้วคอเน่า ต้นจะตายเลย เราต้องให้รากหยั่งลงดินเพื่อที่จะผลิตต้นได้ดีกว่า
หลังจากครบเดือนให้ใช้เครื่องรดได้เลย ดูสภาพดินเหมือนเดิม รดวันเว้นวัน 1 เดือนถัดมา ไม่ต้องให้จนกว่าจะแตกใบอ่อน เมื่อแตกแล้วให้สารอาหารเน้นไปที่ 25-77 อัตรา 1 ตัน ต่อ 40 กรัม ใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ให้ผลผลิตดีกว่าสารเคมี จนกว่าจะทำการเตรียมกัน ใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี และค่าใช้จ่ายในการราดสาร 1 กก. ประมาณ 60-90 บาท แล้วแต่จุดรับซื้อส่งจากลำพูนราคาจะค่อนข้างถูก
ด้านตลาดผลผลิตลำไย
หลังจากตัดลูกจนเก็บใช้เวลาประมาณ 7-8 เดือน ต้องวางแผนให้ดี เพื่อให้ผลผลิตออกตรงกับช่วงเทศกาล เราจะเน้นออกตรุษจีน เพราะชาวจีนเชื่อว่าวันตรุษจีน คือ วันขึ้นปีใหม่ ตามปฏิทินจีน เช่นเดียวกับสงกรานต์ วันปีใหม่ไทย ดังนั้นชาวจีนจึงให้ความสำคัญกับเทศกาลนี้เป็นอย่างยิ่ง ใช้ไหว้บรรพบุรุษ (ลำไยเป็นผลไม้อย่างหนึ่งที่เขาใช้ไหว้บรรพบุรุษ จึงมีความต้องการมากในช่วงนี้) และมีการเฉลิมฉลองทั่วโลก โดยเฉพาะชุมชนขนาดใหญ่ของคนไทยเชื้อสายจีน
การจำหน่ายผลผลิตลำไย และกิ่งพันธุ์ลำไย
ราคามาตรฐานอยู่ที่ 40 บาท ความสูง 60-80 ซม. เท่ากันทุกสายพันธุ์ เพชรน้ำเอกจะแพงกว่าชนิดอื่น เนื่องจากเป็นพันธุ์ใหม่ 80-100 บาท พวงทอง อีดอ 40 บาท หากความสูงเกิน 80 ซม. ราคาก็จะอีกระดับ ราคาจำหน่ายในตลาดก็พวงทอง 40 บาท บางช่วง 60 บาทขึ้นไปก็มี ขึ้นอยู่กับเทศกาล ไซซ์เล็กราคาก็จะลดลงครึ่งนึง และประมาณ 40-50 ต้น ในพื้นที่ 40-50 ไร่ จุดคุ้มทุนอยู่ที่ไร่ละต้นกว่า มีช่วงหนึ่งรักษาลูกไว้ไม่อยู่ ผลผลิตมากเกิน เสียหายเยอะเกือบครึ่ง เพราะแมลงวันทองลง ฝนตกหนัก อายุที่จะให้ผลผลิตขึ้นอยู่กับการบำรุงรักษา ส่งผลผลิตจำหน่ายตลาดปฐมมงคล ทำเสร็จตอนไหนส่งตอนนั้น
การเก็บลำไยให้ได้ราคาดีควรเก็บตอนที่ลำไยใกล้สุกหรือแก่ประมาณ 80% เพราะช่วงนี้ลำไย รูป สี ผิว จะสวยมาก ยิ่งถ้าเรามีลำไยที่ต้องเก็บเป็นจำนวนมาก ก็จะเป็นการเก็บไล่ระยะได้ไปทั่วทั้งสวน โดยที่ลำไยจะไม่แก่จนเกินไป
เพราะเมื่อลำไยแก่จัด ผิวจะด้านอออกทางเหลืองแดง ราคาจะไม่ดี ถูกไปกิโลกรัมละหลายบาททีเดียว การทำลำไยนอกฤดูเทคนิคเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ บางทีเราก็ไม่ควรมองข้าม เพราะมันจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เรามีรายได้เพิ่มขึ้นจากการลงทุน ลงแรง ที่ทำลงไป
สรรพคุณของลำไย
ลำไยนอกจากจะเป็นพืชเศรษฐกิจส่งออกไปขายต่างประเทศนำรายได้เข้าประเทศมากมาย นอกจากนี้แล้วลำไยถือเป็นผลไม้ที่มีคุณค่ามหัศจรรย์ ไม่เพียงแต่อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการจากสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน เกลือแร่ และแร่ธาตุ อีกหลายชนิด ที่ดี และมีประโยชน์ต่อสุขภาพเท่านั้น ลำไยยังมีคุณค่าทางการแพทย์และเภสัชอีกด้วย ในทางการแพทย์แผนโบราณของจีนนั้นได้นำลำไย โดยเฉพาะลำไยแห้ง ซึ่งมีสรรพคุณใช้บำรุงหัวใจ บำรุงสายตา บำรุงผิวพรรณ ช่วยย่อยอาหาร แก้อาการเครียด กระวนกระวาย นอนไม่หลับ เป็นต้น
จะเห็นว่าแนวทางการทำเกษตรผสมผสานตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง นอกจากจะมีรายได้หมุนเวียนตลอดทั้งปีแล้ว ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สุขภาพร่างกายแข็งแรง อย่างเช่น สวนของคุณโชติวัฒน์ และครอบครัว
ท่านใดสนใจหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ คุณโชติวัฒน์ ฮะทะโชติ 20/1 หมู่ 3 ต.คลองจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม 73110 โทร.08-1010-8053