การผลิต น้ำเห็ด เพื่อสุขภาพ
ทุกวันนี้ “ตลาดน้ำสุขภาพ” กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด ยิ่งเดินเข้าไปในร้านค้า หรือห้างสรรพสินค้า ก็จะเห็นภาพชัดเจนว่าบางทีสินค้าประเภทนี้มีมากจนผู้บริโภคแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเลือกรับประทานแบบไหนดี หรือบางทีก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน้ำสุขภาพที่ดีแท้จริงมันต้องเป็นอย่างไร
คำว่า “เพื่อสุขภาพ” ที่แท้จริงต้องมีส่วนประกอบของพืชที่มาจากธรรมชาติผ่านกระบวนการผลิตที่สะอาดปราศจากสารตกค้าง ที่สำคัญต้องไม่มีการเพิ่มเติมเสริมสารปรุงแต่งใดๆ ที่ทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย สามารถรับประทานต่อเนื่องกันได้ในระยะยาว โดยที่ไม่ทำให้ร่างกายเกิดโรคแทรกซ้อนตามมาในภายหลัง
“น้ำเห็ด” ถือว่าเป็นน้ำเพื่อสุขภาพที่เห็นภาพชัดเจนที่สุด เนื่องจากในกระบวนการผลิตแทบไม่มีการผสมสิ่งอื่นใดเข้าไป แต่ในการทำตลาดเรื่องรสชาติก็มีความสำคัญ ผู้ผลิตน้ำเห็ดหลายๆ ราย แม้จะมั่นใจในสรรพคุณและคุณค่าต่อร่างกาย แต่การพัฒนาให้น้ำเห็ดเป็นน้ำสุขภาพที่รสชาติอร่อย โดยไม่ต้องปรุงแต่งเป็นเรื่องที่ยาก ที่ผ่านมาอาจจะพูดได้ว่ายังมองไม่เห็นยี่ห้อไหนที่ทำให้ผู้บริโภคหลงใหลในกลิ่น และรสชาติ จนอยากจะซื้อหามารับประทานกันทุกวัน
แต่ในการจัดแสดงสินค้าออแกนิคที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต์ ทางทีมงานได้เจอกับ คุณเมธาพร สิริศรนารา เจ้าของแบรนด์น้ำเห็ด ตรา “เมธาพร” สูตรเข้มข้นผสมเนื้อเห็ด ว่ากันว่าเป็นเจ้าแรกของประเทศไทยที่คิดค้นสูตรนี้ขึ้นมา ทั้งกลิ่น และรสชาติ ถ้าใครได้ลิ้มลองผมว่าจะกลายเป็นแฟนพันธุ์แท้อย่างไม่รู้ตัวทีเดียว
จุดเริ่มต้นการเพาะเห็ด
ความที่ชลบุรีเป็นเมืองอุตสาหกรรม มีนิคมต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย รวมถึงเป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อลือชาในด้านแหล่งท่องเที่ยว วิถีชีวิตของคนจึงไม่ได้มุ่งเน้นมาในภาคการเกษตร ยิ่งอยู่ใกล้เมืองด้วยแล้วการจะหาแปลงเกษตรสักทีเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ทั้งหมดนี้ก็สวนทางกับแนวความคิดของคุณเมธาพร ที่มองว่า “การเกษตรไม่มีวันตาย” ยิ่งคนทำงานมาก ก็ยิ่งต้องกินมาก ภาคการเกษตรจึงเข้มแข็งอยู่ได้แน่ บวกกับความชื่นชอบเป็นส่วนตัว
จึงเริ่มต้นการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ควบคู่ไปกับการเพาะเห็ด แต่การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์เป็นงานที่ต้องลงทุนมาก และต้องอาศัยการดูแลให้ทั่วถึง แต่คุณเมธาพรเองบอกว่าไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากราคาขายค่อยข้างสูงกว่าผักดินที่ปลูกกันทั่วไป เพราะเงินลงทุนสูงกว่า
อีกทั้งตลาดที่ขายก็เป็นตลาดล่าง ผู้บริโภคส่วนใหญ่ก็เป็นพนักงานโรงงาน จึงไม่นิยมผักที่ราคาแพงมากนัก พอขายไม่หมดก็ไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน ทำให้ไม่คุ้มทุน ประกอบกับการตลาดที่มีช่องทางจำกัด ไม่สามารถแปรรูปเป็นอย่างอื่นได้ จึงทำอยู่ประมาณ 1 ปี ก็เลยหันมาเพาะเห็ดอย่างเดียว เพราะการลงทุนน้อยกว่า การตลาดกว้างกว่า และสามารถเอาเห็ดมาคิดค้นและพัฒนามาเป็นสินค้าอื่นๆ ได้อีกมาก
เริ่มต้นครั้งแรกกับการเพาะเห็ดนางฟ้าภูฐาน ตามมาด้วยเห็ดขอน เห็ดหูหนู จากนั้นก็ค่อยขยับขยายมาเป็นเห็ดโคนญี่ปุ่น เห็ดเป๋าฮื้อ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งตลาดเห็ดสดถือว่าก้าวไปได้เรื่อยๆ แต่ในรายของคนเพาะเห็ดจำหน่ายเองก็เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ราคาเห็ดที่จำหน่ายออกเริ่มไม่แน่นอน
ซึ่งในกระบวนความคิดของคุณเมธาพรมองเห็นว่าเห็ดทั้งหลายเหล่านี้น่าจะนำมาเพิ่มมูลค่าได้ ไม่จำเป็นที่คนเพาะเห็ดจะต้องทำเห็ดทุกอย่าง ก็เลยเริ่มศึกษาข้อมูลว่ามีเห็ดชนิดไหนบ้างที่สามารถเอามาพัฒนาเป็นสินค้าแปรรูปได้
การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเห็ด
ปัจจุบันฟาร์มเห็ดเมธาพรจึงเพาะเห็ดทั้งหมด 5 ชนิด ที่เน้นเอามาแปรรูป คือ เห็ดนางฟ้า เห็ดหอม เห็ดหูหนู เห็ดขอน แล้วก็เห็ดนางนวล จากฟาร์มผักไฮโดรโปนิกส์มาสู่โรงเพาะเห็ดเพียงอย่างเดียว จนมีแนวคิดเข้าสู่กระบวนการแปรรูป เข้าสู่กระบวนการอบรมเทคโนโลยีด้านอาหารที่มหาวิทยาลัยราชภัฏจอมบึงราชบุรี
ที่นี่มีเปิดสอนอยู่หลายคอร์ส ทั้งหลักสูตรการทำก้อนเชื้อเห็ด เขี่ยเชื้อเห็ดในห้องแลป การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากเห็ด ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกเห็ด เห็ดสวรรค์ แหนมเห็ด ข้าวเกรียบเห็ด กะหรี่พัฟเห็ด ฯลฯ แต่ยังไม่มีหลักสูตรไหนที่สอนการทำน้ำเห็ดแบบเข้มข้น หรือการทำให้เป็นน้ำเห็ดที่รสชาติดีกว่าการเป็นน้ำเห็ดแบบธรรมดาๆ แต่พื้นฐานที่ทุกอาจารย์สอนมามีหลักการอยู่อย่างที่คุณเมธาพรจำไว้อย่างขึ้นใจว่า
“ทุกอย่างที่อาจารย์สอนไม่ได้หมายความว่าสอนตรงนั้นก็ทำแค่ตรงนั้น ถ้าใครประยุกต์หรือแตกความคิดออกมาจากที่สอนเป็นพื้นฐานให้ไปได้ อาจารย์จะดีใจมาก แล้วมันก็จะดีกับตัวคุณเองด้วย”….จากบทเรียนในตอนนี้ คุณเมธาพรก็เริ่มคิดค้นสูตร และทำน้ำเห็ดสูตรเข้มข้นในแบบฉบับของตัวเองขึ้นมาได้
สรรพคุณของเห็ด
ความคิดตั้งต้นคือ ผลิตภัณฑ์รังนก ที่ปัจจุบันราคาต่อขวดถือว่าค่อนข้างสูง ซึ่งถ้าพิจารณาในเชิงคุณค่าจะเห็นว่าเห็ดก็สามารถให้คุณประโยชน์ได้ดีไม่แพ้กัน ถ้าปรับปรุงน้ำเห็ดให้มีรสชาติอร่อยได้ดีไม่แพ้รังนก เชื่อว่าฐานผู้บริโภคย่อมมีมากตามไปด้วย เพราะจากข้อมูลเชิงวิชาการระบุไว้ว่ารังนกทั้งหลายมีประโยชน์ในการบำรุงร่างกายจริง
แต่ถ้าเป็นน้ำเห็ดนอกจากบำรุงร่างกาย ยังสามารถต้านทานมะเร็งต่างๆ ได้ดีอีกด้วย และเห็ดแต่ละชนิดก็มีคุณประโยชน์ที่แตกต่างกันไป อย่าง เห็ดนางฟ้า ก็มีโปรตีนสูงกว่าเนื้อสัตว์ถึง 20 เท่า เห็ดหอมก็ช่วยแก้ไข้เรื่องหวัด ไขมัน และคลอเลสเตอรอลได้ เห็ดหูหนูก็มีสรรพคุณช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย เรื่องตับ เรื่องไต
ในเรื่องของสรรพคุณเห็ดแต่ละอย่างเดี๋ยวเราจะมาอธิบายกันอีกที รวมถึงคุณประโยชน์ของ เห็ด 3 อย่าง เห็ด 5 อย่าง มันดีแตกต่างกันอย่างไร แต่ที่แน่ๆ ผลิตภัณฑ์น้ำเห็ดสูตรเข้มข้น “เมธาพร” นี้
กระบวนการผลิตน้ำเห็ดสูตรเข้มข้นผสมเนื้อเห็ด
สิ่งที่แตกต่างชัดเจนกับน้ำเห็ดทั่วไป คือ รสชาติ และกลิ่น ที่เกิดจากการใช้สมุนไพรไทยในกระบวนการผลิต เป็นเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ได้ความหอมแบบอโรม่าสดชื่นกันตั้งแต่เริ่มเปิดขวดขึ้นมา รสชาติของน้ำเห็ดก็หวาน อร่อย โดยที่ไม่ต้องเน้นการใส่น้ำตาล
เป็นเทคนิคและกระบวนการที่คุณเมธาพรมั่นใจว่าผู้บริโภคถ้าได้ลิ้มชิมรสกันสักครั้งจะรู้ถึงความแตกต่าง ใครที่เคยพูดว่า “หวานเป็นลม ขมเป็นยา” ถ้าได้ลองกินน้ำเห็ดสูตรเข้มข้นของเมธาพรแล้วจะต้องเปลี่ยนใจว่ารสชาติที่อร่อยควบคู่ไปกับกลิ่นอโรม่าของสมุนไพร ก็เป็นยาดีที่มีคุณค่าต่อร่างกายได้เหมือนกัน
ก่อนหน้านี้ได้มีการผลิตและจำหน่ายตามงานโอทอปต่างๆ ยังเป็นแบบครัวเรือนเล็กๆ ซึ่งเป็นการผลิตโดยผ่านความร้อนเป็นระบบพาสเจอร์ไรส์ที่อุณหภูมิ 90 องศา และต้องเก็บในที่เย็นตลอด มีอายุการเก็บอยู่ที่ 2 อาทิตย์ เท่านั้น ไม่สามารถขยายหรือส่งไปยังที่ไกลๆ ได้ กว่าจะมาเป็นเมธาพรได้ทุกวันนี้ คุณเมธาพรได้ล้มลุกคลุกคลาน ลองผิดลองถูก ขาดทุนเสียหายมามากมาย แต่ก็สู้
การพัฒนากระบวนการผลิต และการตลาด น้ำเห็ด
จนในที่สุดหลังจากที่ลูกสาวคุณเมธาพรได้เรียบจบปริญญาโทจากอังกฤษ ทางด้านการตลาด และธุรกิจระหว่างประเทศ ก็มีการต่อยอดของทายาทธุรกิจก็คือ คุณภัสพร สิริศรนารา ซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็ก เข้ามาช่วยและพัฒนาในธุรกิจน้ำเห็ดนี้
จากเดิมทีที่ผลิตแบบเป็นขวดพลาสติกมาเป็นขวดแก้ว และได้พัฒนากรรมวิธีการผลิตโดยใช้เครื่องฆ่าเชื้อจากระบบพาสเจอร์ไรส์จนมาเป็นระบบสเตอริไลส์ ทำให้ยืดอายุการเก็บรักษาที่อุณหภูมิห้องไม่ต่ำกว่า 1 ปี เป็นผลให้สามารถกระจายสินค้าไปยังที่ต่างๆได้
ซึ่งระบบสเตอริไลส์ต้องผ่านเครื่องฆ่าเชื้อที่มีความร้อนสูง เพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค แต่ยังคงคุณค่าทางยาของเห็ดไว้เหมือนเดิม อีกทั้งขวดแก้วที่มีคุณสมบัติเป็นกลาง จึงปลอดภัย และมั่นใจได้ว่าไม่มีสารใดๆ ของบรรจุภัณฑ์ที่จะไปทำปฏิกิริยากับทางร่างกายอย่างแน่นอน
ด้านตลาดและช่องทางจำหน่ายน้ำเห็ดเพื่อสุขภาพ
อีกทั้งคุณภัสพรก็เริ่มขยายตลาดสู่โมเดิร์นเทรด และห้างต่างๆ ในซุปเปอร์มาร์เก็ต ปัจจุบันนี้มีจำหน่ายในห้างเดอะมอลล์ (ทุกสาขา) ห้างเอ็มโพเรียม, เทอมินอล 21, พารากอน, เลมอนฟาร์ม (ทุกสาขา) และโกลเด้นเพลส (ทุกสาขา) และยังมีแผนการขยายการผลิตเพื่อขยายช่องทางจัดจำหน่ายทุกห้าง และทุกพื้นที่ ให้ทั่วประเทศ และมีแผนที่จะส่งออกไปยังต่างประเทศ
แผนการจัดจำหน่ายในระดับกลางลงมาก็จะเป็นตามร้านของฝาก และร้านสุขภาพ ที่กระจายอยู่ในหลายจังหวัด ราคาจำหน่ายน้ำเห็ด 3 อย่าง (สูตรต้นตำรับ) ก็อยู่ที่ขวดละ 49 บาท (180 ml.) น้ำเห็ด 5 อย่าง (สูตรผสมน้ำผึ้งป่า) ราคาขวดละ 59 บาท (70 ml.) ที่ราคาไม่เท่ากัน เพราะปริมาณของเห็ดต่างกัน ถ้าเป็นสูตรน้ำเห็ด 5 อย่าง ก็จะมีปริมาณเห็ดหลายชนิดมากกว่า บวกกับน้ำผึ้งป่าเดือนห้าที่คัดสรรคุณภาพมาจากป่าแท้ๆ ที่ได้สัมปทานของกรมป่าไม้มาเลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าปริมาณน้ำเห็ด 5 อย่าง จะน้อยกว่าสูตรน้ำเห็ด 3 อย่าง แต่ทั้งสองผลิตภัณฑ์มีปริมาณเนื้อเห็ดภายในขวดที่ไม่ต่างกัน เพียงแต่ต่างสรรพคุณและความเข้มข้นระหว่างเห็ด 3 อย่าง กับ เห็ด 5 อย่าง เท่านั้น ถึงอย่างไรก็ตามคุณเมธาพรก็ยังมั่นใจว่าน้ำเห็ดเมธาพรคุณภาพคับขวดจริงๆ ค่ะ เพราะวัตถุดิบในขวดได้คัดสรรแต่สิ่งดีๆ ทั้งสดและใหม่อยู่เสมอ ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต และเป็นสินค้าจากธรรมชาติแท้ๆ ปราศจากสารเคมีเจือปน ทำให้ผู้บริโภคได้รับผลลัพธ์ที่ดี เห็นผลเรื่องสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน
การขยายโรงงานผลิตน้ำเห็ด
การลงทุนในแบบอุตสาหกรรมครัวเรือนก็มีข้อจำกัด คือ ปริมาณการผลิตที่ไม่ได้มากนักในแต่ละเดือน ถ้ามีการขยายตลาดมากขึ้น ผู้บริโภคมากขึ้น การผลิตแบบครัวเรือนก็จะไม่ทันต่อความต้องการของผู้บริโภค ด้วยเหตุนี้เองคุณเมธาพรจึงมีแนวคิดต่อยอด ที่สำคัญนั่นก็คือ การขยายโรงงาน เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตให้มากยิ่งขึ้น
ซึ่งเป็นการจับมือกันระหว่างคุณเมธาพรและคุณภัสพร สิริศรนารา สำหรับวัตถุดิบเมื่อขยายมาเป็นภาคโรงงานกำลังการผลิตย่อมมากขึ้น ย่อมต้องการวัตถุดิบมากขึ้นตามไป ส่วนนี้คุณเมธาพรบอกว่าสามารถรับซื้อผลผลิตจากกลุ่มผู้เพาะเห็ดซึ่งมีเครือข่ายกระจายอยู่หลายจังหวัด มีวัตถุดิบคุณภาพดีป้อนเข้าสู่โรงงาน สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้อย่างเต็มที่แน่นอน
แต่มีข้อแม้อยู่ว่าต้องมาจากฟาร์มเห็ดที่ได้การรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ หรือ (Organic Thailand) จากกรมวิชาการเกษตรเท่านั้น ที่ปราศจากสารพิษ และเป็นเห็ดที่มีวิธีการเพาะมาจากธรรมชาติ 100% เพื่อให้ได้น้ำเห็ดที่มีคุณภาพ และปลอดภัยต่อผู้บริโภค
จุดเด่นของน้ำเห็ดสูตรเข้มข้นผสมเนื้อเห็ด
ในปัจจุบันเรามักจะพบกับสารปนเปื้อน, มลภาวะ, สารพิษ โดยสะสมมาเป็นประจำทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นผักที่ฉีดยาฆ่าแมลง ในเนื้อสัตว์ ในเครื่องสำอาง พิษสุรา หรือจากการสูบบุหรี่ ควันพิษ ซึ่งเป็นบ่อเกิดของโรคมะเร็ง ดังนั้นผู้ผลิตน้ำสุขภาพต่างๆ ได้เข้ามาแข่งขันกันอย่างดุเดือด
ไม่ต้องพูดถึงน้ำสุขภาพทั่วไป แค่ในส่วนของน้ำเห็ด ทุกวันนี้ในตลาดก็มีอยู่หลากหลายยี่ห้อ ที่ให้ผู้บริโภคได้เลือกรับประทาน จุดแข็งในความเป็นน้ำเห็ดเมธาพรที่ทำให้สามารถครองใจผู้บริโภค และแย่งส่วนแบ่งการตลาดจากผู้ผลิตรายอื่นได้ น่าจะเป็น 2 เรื่องใหญ่ๆ คือ
1.ความเป็นน้ำเห็ดที่มีเนื้อเห็ดเข้มข้นรสชาติดี มีกลิ่นหอมแบบอโรมา ตรงนี้แตกต่างจากคู่แข่งในตลาดอย่างชัดเจน
2.ผลต่อร่างกายที่เห็นได้ชัดเจน ก่อนและหลังรับประทาน ไม่ว่าจะเป็นไขมันในเส้นเลือด ความเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า (กล้ามเนื้อ) รวมถึงการต้านโรคมะเร็ง และโรคที่สำคัญอีกหลายๆ อย่าง และเป็นการดีท็อกซ์ (ล้างสารพิษ) ออกจากร่างกายควบคู่กันไปด้วย
จุดเด่นทั้งสองอย่างนี้เกิดขึ้นได้ตั้งแต่วัตถุดิบที่เป็นดอกเห็ดสดๆ ที่ผ่านการคัดสรรอย่างดี ได้มาตรฐานการผลิตพืชอินทรีย์จากกรมวิชาการเกษตรว่าไร้สารพิษ 100 % (รหัสรับรอง TAS: 4986) ใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิต ได้กลิ่นหอมจากสมุนไพรที่กลมกล่อม เนื้อเห็ดที่ทรงคุณค่าต่อร่างกาย ทั้งป้องกันโรคมะเร็ง ล้างสารพิษ ช่วยเรื่องขับถ่าย มีเบต้ากลูแคนที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้หลับสบาย มีคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวพรรณสดใส และประโยชน์อื่นๆ อีกนานาประการ น้ำเห็ดเมธาพรจึงไม่ใส่แค่น้ำสุขภาพที่ดื่มแก้กระหาย แต่ได้ประโยชน์ต่อร่างกายที่แท้จริง สามารถดื่มได้ทุกเพศ ทุกวัย และได้ทุกวัน
วิธีการดื่ม
-สามารถดื่มได้ทั้งร้อน-เย็น
-เขย่าก่อนดื่ม เพราะเนื้อเห็ดตกตะกอนตามธรรมชาติ
-ดื่มวันละ 1-2 ขวด
-ดื่มตอนก่อนอาหารเช้าช่วยเคลือบลำไส้เล็ก และกระเพาะ
-ดื่มก่อนนอนช่วยให้ขับถ่ายดี บำรุงผิวพรรณ และช่วยให้หลับสบาย
ประโยชน์และสรรพคุณของ น้ำเห็ด 3 อย่าง และน้ำเห็ด 5 อย่าง
เราทิ้งหัวเรื่องนี้ไว้ในประเด็นของคุณประโยชน์ของน้ำเห็ด 3 อย่าง และน้ำเห็ด 5 อย่าง ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร และร่างกายจะได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง จากการรวมตัวของเห็ด 3 อย่าง และ 5 อย่าง นี้ ก่อนอื่นเลยต้องปูพื้นฐานก่อนว่าเห็ดแต่ละตัวก็มีสรรพคุณทางยาซ่อนอยู่ในตัวเองทั้งนั้น เมื่อเอาเห็ดหลายอย่างมารวมกันก็เท่ากับเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องของคุณประโยชน์ เราลองมาจำแนกดูดีกว่าว่าน้ำเห็ด 3 อย่าง กับน้ำเห็ด 5 อย่าง ให้คุณค่าแก่ร่างกายแตกต่างกันหรือไม่อย่างไร
สรรพคุณของน้ำเห็ด 3 อย่าง
-ล้างสารพิษที่ตกค้างในตับ ช่วยบำรุงตับ
-ลดอนุมูลอิสระที่จะเกิดขึ้นเป็นเซลล์มะเร็ง
-ลดอัตราการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ซีด เนื้องอก แม้แต่คนที่เป็นไส้เลื่อน ก็จะทำให้ชะลอตัวดีขึ้น
-โปรตีนในเห็ด 3 อย่าง เมื่อนำมารวมกัน ประกอบอาหารแล้วจะได้โปรตีนจากเห็ดที่ร่างกายดูดซึมไปใช้งานได้ง่ายที่สุด ง่ายกว่าเนื้อสัตว์ โปรตีนจากเห็ดจะไปสร้างกรดอะมิโนที่บำรุงสมอง ปรับสมดุลของการสร้างเซลล์ใหม่ในร่างกาย ต้านการเกิดมะเร็ง ขจัดสารพิษ (แต่ถ้าคนที่เป็นมะเร็งแล้วควรไปให้แพทย์รักษาดีที่สุด เพราะ น้ำเห็ด คือ อาหารป้องกัน และชะลอเท่านั้น ไม่ใช่ยารักษา)
-น้ำต้มเห็ด 3 อย่าง ใช้ทำเป็นน้ำซุปปรุงอาหารก็ได้ แต่ไม่ควรนำเห็ด 3 อย่าง ไปผัดน้ำมัน ถ้าจะผัดควรใช้กะทิผัดแทนน้ำมัน เพราะกะทิเป็นไขมันที่ละลายน้ำได้ และกะทิที่มีคลอเลสเตอรอลฝ่ายดี มีประโยชน์ต่อร่างกาย
สรรพคุณของ น้ำเห็ด 5 อย่าง
-ได้โปรตีนในปริมาณที่มากขึ้น เมื่อ นำเห็ด 5 อย่าง มารวมกันแล้ว จะได้โปรตีนจากเห็ด (ประมาณ 20 เท่าของเนื้อสัตว์) และร่างกายดูดซึมไปใช้งานได้ง่ายที่สุด ง่ายกว่าเนื้อสัตว์ โปรตีนจากเห็ดจะไปสร้างกรดอะมิโนที่บำรุงสมอง ปรับสมดุลของการสร้างเซลล์ใหม่ในร่างกาย ต้านการเกิดมะเร็ง ขจัดสารพิษ
-ได้สารอาหารที่หลากหลายมากขึ้น เพราะเห็ดแต่ละชนิดเป็นอาหารที่ปราศจากไขมันอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีปริมาณน้ำตาลและเกลือต่ำมาก นอกจากนี้ถ้าทานเห็ดหลายอย่างรวมกันก็จะได้สารอาหารที่มากขึ้น เช่น ธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินซี วิตามินบีรวม ซีลีเนียม โปแตสเซียม และทองแดง เป็นต้น
-ได้รับซีลีเนียมอย่างเต็มที่ ซีลีเนียมเป็นสารอาหารที่ช่วยต้านการเกิดอนุมูลอิสระใกล้เคียงกับวิตามินอี ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง และโรคภัยต่างๆ ที่มากับวัยสูงอายุ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ การรับประทานเห็ดหอม (ชิ้นขนาดกลางๆ 5 ชิ้น) จะให้ซีลีเนียมประมาณ 1 ใน 3 ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
-ได้โปแตสเซียมมากขึ้น โปแตสเซียมเป็นสารอาหารที่จำเป็นอย่างยิ่งในการควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ ความสมดุลของน้ำในร่างกาย การทำงานของกล้ามเนื้อ และระบบประสาทต่างๆ ทางสถาบันอาหารแห่งสหรัฐอเมริการะบุไว้ว่า การรับประทานอาหารที่เป็นแหล่งของโปแตสเซียมจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดความดันเลือดสูง และอัมพฤกษ์ อัมพาต
-วิตามินบีรวมจำนวนมากในเห็ด ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารที่อุดมด้วยวิตามินบีรวม ไม่ว่าจะเป็นไรโบฟลาวิน ที่ช่วยบำรุงสุขภาพ ผิวพรรณ และการมองเห็น ขณะที่ไนอาซินจะช่วยควบคุมการทำงานของระบบย่อยอาหาร และระบบประสาท
การวางแผนการตลาด ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
กำลังการผลิตในปัจจุบันอาจจะไม่สามารถกระจายสินค้าได้ทั่วถึงทั้งประเทศ รวมถึงช่องทางการจำหน่ายที่ยังจำกัดแค่บางพื้นที่ แต่ในอนาคตหลังจากที่โรงงานแล้วเสร็จตามที่กล่าว คาดว่ากำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นอีกมาก ทั้งนี้ก็ต้องหาช่องทางจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น
ที่วางแผนไว้ คือ ตามร้านสะดวกซื้อ ที่มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงห้างสรรพสินค้าสำคัญๆ อีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นโลตัส บิ๊กซี หรือว่าแมคโคร ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าได้ทุกพื้นที่ รวมถึงมีการวางแผนการตลาดที่จะไปเปิดตัวสินค้า “น้ำเห็ดเมธาพร” ในต่างประเทศ
นอกจากตลาดในแถบอาเซียนแล้วก็ยังวางแผนไปไกลถึงตลาดยุโรป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกอย่างต้องดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน สร้างฐานความพอใจในประเทศเป็นสำคัญอย่างแรก แล้วค่อยก้าวไปสู่เวทีที่ใหญ่กว่า เพราะการทำ “น้ำสุขภาพ” ส่วนหนึ่งก็คือ การทำบุญทางอ้อม ที่ให้ผู้บริโภคมีสุขภาพแข็งแรง ไม่ว่าจะขยายกี่สาขา จะกระจายไปกี่ประเทศ กระแสความนิยมจะมากขึ้นแค่ไหน
แต่สิ่งที่ต้องรักษาไว้ คือ มาตรฐานในความเป็น น้ำเห็ด เมธาพรที่เข้มข้นด้วยรสชาติ อุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย การผลิตทุกขวดเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ ไม่ใช่ว่าเมื่อเป็นธุรกิจแล้วจะลืมเรื่องคุณภาพ สิ่งสำคัญคือทำอย่างไรให้ผู้บริโภคพอใจ ไม่ใช่ว่าผลิตมากแล้วจะดีใจ สิ่งที่จะดีใจมากกว่า คือ ผู้บริโภคทานแล้วดี ทานแล้วแข็งแรง เพราะว่านี่คือแนวทางในการทำธุรกิจที่ยึดถือมานาน
ฝากถึงผู้ที่สนใจ น้ำเห็ด เพื่อสุขภาพ
และนี่คือเรื่องราวสุขภาพที่เรานำมาฝากทุกท่าน เราเชื่อว่าหลายท่านอ่านแล้วสนใจ อยากลองทาน ลองชิม กันอย่างแน่นอน เนื้อหาตอนนี้อาจเป็นแรงบันดาลใจในการต่อยอดธุรกิจอาชีพสุขภาพของใครหลายคนได้ด้วย เอาเป็นว่าใครสนใจข้อมูลเพิ่มเติมอย่างไร ก็ติดต่อสอบถามกันได้นะครับ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณเมธาพร สิริศรนารา (ฟาร์มเห็ดเมธาพร) 34/32 หมู่ 3 ต.หนองไม้แดง อ.เมือง จ.ชลบุรี 20000
โทร.08-1844-3028, 08-5141-2935
อีเมลล์ : [email protected]
เฟสบุ๊ค : www.facebook.com/methapornfarm
เว็บไซด์ : www.methapornfarm.com