การเพาะเลี้ยงปลากะพง ฉบับเซียนบ้านแพ้ว มั่นใจ ปลากินดี โตวัย เกล็ดแข็งแรง ทรงสวย ได้น้ำหนัก เคล็บลับอยู่ที่…อาหาร
การเพาะเลี้ยงปลากะพง
การเลี้ยง “ปลากะพง” ให้ได้ผลผลิตที่ดีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในปัจจุบันที่สภาพอากาศไม่แน่นอน เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝน ส่งผลให้ปลากะพงของเกษตรกรไม่ค่อยกินอาหาร เติบโตช้า และยังมีอัตราการรอดที่ต่ำ ดังนั้นในช่วงนี้เกษตรกรต้องเอาใจใส่ดูแลบ่อปลาของตนเป็นพิเศษ อีกทั้งการคัดสรรปัจจัยการผลิตต่างๆ ที่จะนำมาเลี้ยงปลากะพงให้ได้คุณภาพก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องของอาหาร เพราะปัจจุบันตลาดมีการจำหน่ายอาหารปลากะพงหลากหลายยี่ห้อ ดังนั้นการคัดเลือกอาหารที่ดี มีคุณภาพ เพื่อนำมาเลี้ยงปลานั้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะหากอาหารไม่ได้คุณภาพ ปลาก็จะกินอาหารได้น้อย หรือปลาเลี้ยงไม่โต ต้นทุนอาหารก็จะสูง หรือแม้แต่การปั้นเม็ดของอาหาร หากผลิตออกมาไม่ดีก็จะกลายเป็นของเสียก้นบ่อทำให้น้ำเสียนั่นเอง
สนใจวิธีเลี้ยงและให้อาหาร โทร : 091-740-0584 คุณอัลเบิร์ต, 083-247-4400 คุณโอ๊ต
ปัญหา และ อุปสรรค การเลี้ยงปลากะพงขาว
คุณไฉไล เกตุใจ หรือ “เจ๊หน่อย” เกษตรกรชาวสวนมะพร้าว ที่หันมาสนใจเลี้ยง “ปลากะพงขาว” เป็นเวลากว่า 5 ปี โดยเน้นอาศัยองค์ความรู้ในการเลี้ยงจากเพื่อนบ้านที่เลี้ยงปลากะพง เจ๊หน่อยยอมรับว่า ตนศึกษาการเลี้ยงปลากะพงนานร่วมปี กว่าจะตัดสินใจขุดบ่อในสวนมะพร้าวเนื้อที่กว่า 1 ไร่ เพื่อทดลองเลี้ยง “ปลากะพงขาว” เป็นครั้งแรก โดยทดลองปล่อยปลาไปประมาณ 7 พันตัว / บ่อ ซึ่งในระหว่างการเลี้ยงแน่นอนว่าบ่อปลาของตนพบกับปัญหาอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร เรื่องโรคต่างๆ ในปลา การดูแลน้ำ การกักปลาเล็ก การฝึกกินอาหารเม็ด
โดยเฉพาะเรื่องของปรสิต อย่าง “ เห็บระฆัง ” ที่เรียกว่ากว่าที่เจ๊หน่อยจะรู้ว่าปลาของตนโดนเห็บระฆังเกาะจนทำให้ปลาป่วยนั้น ก็ทำให้ปลากะพงที่เลี้ยงตายไปหลายตันเลยทีเดียว รวมถึงปัจจัยต่างๆ เรื่องอาหาร การกักปลาเล็ก ทำให้เจ๊หน่อยเหลือปลาไซส์ให้จับเพียง 600 กว่าตัวเท่านั้น แต่ถึงจะเหลือปลาให้จับเพียงไม่กี่ 600 กว่าตัว จากปลา 7,000 ตัว เมื่อขายหักต้นทุนออกแล้ว ปลา 600 กว่าตัว ก็ยังทำกำไรให้เจ๊หน่อยสองหมื่นกว่าบาทเลยทีเดียว ซึ่งขณะนั้นปลากะพงขาวมีราคาขายหน้าบ่อสูงถึงกิโลกรัมละ 180 – 200 บาท เลยทีเดียว นี่จึงเป็นจุดพลิกผันให้เจ๊หน่อยและสามีหันมาเลี้ยงปลากะพงแบบเป็นจริงเป็นจัง และขยายบ่อเพิ่มขึ้นจาก 1 บ่อ จนมีหลายบ่อในปัจจุบัน
การบริหารจัดการบ่อเลี้ยงปลากะพงขาว
การเลี้ยงปลากะพงขาวของเจ๊หน่อยนั้น จะมีการบริหารจัดการบ่อปลาแบบสมัยใหม่ โดยเน้นการให้ออกซิเจนในน้ำให้เพียงพอต่อความหนาแน่นของปลา โดยทางฟาร์มจะเปิดเครื่องตีน้ำตลอดเวลาเพื่อให้อากาศ ซึ่งในแต่ละบ่อ เจ๊หน่อยจะปล่อยปลาประมาณ 7-8 พันตัว / บ่อ / ไร่ หลักสำคัญในการเลี้ยงปลาของเจ๊หน่อย นอกจากเรื่องการบริหารจัดการน้ำที่ดีแล้ว เรื่อง “อาหาร” ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญที่เจ๊หน่อยให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะในแต่ละเดือนทางฟาร์มใช้อาหารปลากะพงหลายตัน ดังนั้นการเลือกใช้อาหารที่ดี มีคุณภาพ จึงเป็นเรื่องที่เจ๊หน่อยให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
จุดเด่นของอาหาร Uni-President
ปัจจุบันทางฟาร์มเราจะเน้นใช้อาหารปลากะพง แบรนด์ “Uni-President” ของ บริษัท อะเมซอน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เนื่องจากเป็นอาหารปลากะพงที่มีโปรตีนสูง 43-44% เหมาะสมกับปลากะพงขาวที่ตนเลี้ยงเป็นอย่างมาก โดยสังเกตจากลักษณะตัวปลาที่กินอาหารจะเห็นว่า ปลาโตเร็ว เนื้อแน่น ทรงสวย สีเกล็ดสวย การปั้นเม็ดค่อนข้างดี ทำให้น้ำไม่เสียง่าย
“เราใช้อาหารปลามาหลายยี่ห้อนะ แต่พอมาเจอของ “Uni-President” เราก็หยุดอยู่ที่เจ้านี้เลย เพราะของเขาดีจริง เราใช้มาหลายปีแล้ว จุดเด่นของอาหาร“Uni-President” คือ มาตรฐานอาหารคงที่ ไม่เปลี่ยนแปลง อีกทั้งเรื่องของราคาและคุณภาพ เมื่อเทียบกับเจ้าอื่นๆ ถือว่าเหมาะสมที่สุด เราถึงไม่เคยนอกใจไปใช้ยี่ห้ออื่นเลย ที่สำคัญหลังจากที่ใช้อาหารไปแล้ว FCR ที่ฟาร์มลดลงค่อนข้างต่ำ เพียง 1.1-1.3 เท่านั้น”
สภาพพื้นที่เลี้ยงปลากะพง
เช่นเดียวกับ คุณสิริพร นิชการ หรือที่รู้จักกันดีในนามว่า “เจ๊ตั๊ก” เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากะพงคุณภาพ ในพื้นที่ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ที่มีจำนวนบ่อปลากะพงมากถึง 14 บ่อเลี้ยง โดยเน้นการเลี้ยงปลากะพงผสมกับกุ้งขาว เพื่อสร้างรายได้ในช่วงปลาเล็ก เจ๊ตั๊กได้เล่าความเป็นมาของตนว่า เดิมทีตนเป็นคนจังหวัดนครปฐม เมื่อแต่งงานจึงย้ายมาอยู่บ้านแฟน ซึ่งในช่วงแรกตนประกอบอาชีพรับซื้อของเก่า ควบคู่กับการเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม แต่เมื่อถึงปีที่กุ้งเกิดโรคระบาดจึงเลิกเลี้ยงไป และหันมาเลี้ยงปลากะพงขาวแทน เพราะพี่ชายแฟนเป็นคนแนะนำให้เลี้ยง เนื่องจากปลากะพงช่วงนั้นเลี้ยงง่าย โตเร็ว และราคาขายค่อนข้างสูง สามารถสร้างรายได้แทนการเลี้ยงกุ้งได้เป็นอย่างดี
ด้วยเหตุนี้เจ๊ตั๊กจึงเข้ามาศึกษาการเลี้ยงปลากะพงกับพี่เขยอย่างใกล้ชิด ก็ได้เห็นว่าปลากะพงนั้นเลี้ยงไม่ยาก เพียงแต่ต้องกักปลาเล็กให้อยู่ในคอก และฝึกกินอาหารเม็ดให้ได้ รวมไปถึงการดูแลเรื่องน้ำและออกซิเจนในบ่อให้เพียงพอกับจำนวนปลาแค่นั้น ก็สามารถสร้างเม็ดเงินเข้ากระเป๋าได้เป็นกอบเป็นกำ โดยใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้นเอง ด้วยเหตุนี้เจ๊ตั๊กจึงตัดสินใจทดลองเลี้ยงปลากะพงขาว โดยใช้บ่อเลี้ยงกุ้ง 1 บ่อ เป็นบ่อทดลอง ซึ่งในครั้งแรกนั้นเจ๊ตั๊กปล่อยปลาประมาณ 10,000 ตัว/บ่อ 2 ไร่ โดยองค์ความรู้ในการเลี้ยงทั้งหมดเจ๊ตั๊กยอมรับว่าเอามาจากพี่เขย และประสบการณ์ล้วนๆ “ความรู้ในการเลี้ยงปลาของเราก็เอามาจากที่เคยเลี้ยงกุ้ง คิดว่ามันน่าจะคล้ายๆ กัน แต่พอมาเลี้ยงนานวันเข้ามันเริ่มมีข้อแตกต่าง มีปัญหาให้เราแก้แทบทุกวัน ในช่วงแรกๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาพอากาศที่ทำให้ปลาไม่กินอาหาร เรื่องการดูแลโรค โดยเฉพาะ “เห็บระฆัง” ที่ระบาดหนักในพื้นที่ ทำให้ปลาตายไปเยอะ จนต้องเอาน้ำ เอาตัวปลา ไปตรวจที่แล็ปเอกชน ถึงได้รู้ว่าปลาเราถูกเห็บระฆังเกา จนตัวเป็นแผล ทำให้เชื้อโรคเข้าและตายลงในที่สุด”
การให้อาหารปลากะพง Uni-President
เจ๊ตั๊กได้เล่าอีกว่าตนเลี้ยงปลาครั้งแรกใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงทั้งหมด 6 เดือน จากนั้นคว่ำบ่อขาย ซึ่งสำหรับการเลี้ยงปลากะพงรอบแรกของเจ๊ตั๊กนั้นถือว่าประสบความสำเร็จ ลงปลาไป 10,000 ตัว สามารถจับปลาขึ้นได้น้ำหนักถึง 6 ตันกว่า ด้วยประสบการณ์และองค์ความรู้ที่เจ๊ตั๊กเก็บเกี่ยวมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้ฟาร์มปลากะพงแห่งนี้เติบโตขึ้นทุกปี มีการขุดบ่อเลี้ยงปลาเพิ่มมากขึ้น จาก 1 บ่อ จนถึง 14 บ่อในวันนี้ ใช้ระยะเวลาเพียง 4 – 5 ปี เท่านั้น แต่สิ่งสำคัญที่เจ๊ตั๊กยอมรับว่ากว่าจะมาถึงทุกวันนี้ได้นั้น คือ เรื่องของ “อาหารปลา”
ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการเลี้ยงปลากะพง เพราะปลากะพงเป็นปลาที่กินอาหารเก่ง อาหารที่ให้ต้องมีกลิ่นที่เชิญชวนให้ปลากิน อีกทั้งอาหารต้องมีโปรตีนที่สูง เพื่อสร้างเนื้อให้กับตัวปลา ช่วยให้ปลาโตเร็ว ที่สำคัญเศษอาหารก้นบ่อต้องน้อย เพื่อรักษาคุณภาพของน้ำในบ่อเลี้ยงด้วย ที่ผ่านมาเจ๊ตั๊กยอมรับว่าแต่ละเดือนตนเสียเงินซื้ออาหารปลากะพงค่อนข้างสูง แต่ผลที่ได้กับตัวปลาแทบไม่เห็น เมื่อตรวจวัด FCR พบว่าค่อนข้างสูง นั่นหมายถึงค่าการสูญเสียอาหาร ซึ่งเจ๊ตั๊กยอมรับว่าตนเปลี่ยนอาหารปลามาหลายยี่ห้อ แต่ก็ยังไม่ถูกใจเท่าที่ควร โดยสังเกตจากการกินอาหารของปลา และน้ำหนักปลาเมื่อจับขึ้นมา
จนกระทั่งพี่เขยได้แนะนำอาหารปลากะพงคุณภาพ “Uni-President” ที่มี บริษัท อะเมซอน อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด เป็นผู้จัดจำหน่าย โดยพี่เขยให้เซลล์ในพื้นที่เข้าพูดคุยกับเจ๊ตั๊กถึงคุณภาพอาหารที่เหมาะสมสำหรับปลากะพง โดยเฉพาะโปรตีนที่อยู่ในอาหารที่มีสูงถึง 44% อีกทั้งยังเป็นโปรตีนจากปลาป่นเป็นส่วนใหญ่ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ปลากะพงกินอาหารเก่ง เพราะเนื้ออาหารมีกลิ่นเฉพาะที่ปลาชอบ อีกทั้งในเม็ดอาหารยังมีจุลินทรีย์ที่ช่วยระบบการย่อยของปลา ทำให้ปลาท้องไม่อืด นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีกระบวนการผลิตที่ได้คุณภาพมาตรฐาน นำเข้าจากประเทศเวียดนาม ได้รับการตรวจสอบจากกรมประมง อีกทั้งยังมีเบอร์อาหารให้เลือกหลากหลายเบอร์ ตั้งแต่ปลาเล็กยันปลาขนาดใหญ่ ที่สำคัญเมื่อปลากินอาหารไปแล้วจะช่วยเพิ่มน้ำหนักของตัวปลา เกล็ดจะแข็ง เวลาจับปลาจากบ่อเกล็ดไม่หลุดร่วงง่าย สภาพเนื้อปลาค่อนข้างแน่น จับตัวเป็นก้อน ไม่ยุ่ย ทรงสวย สันหนา และผล FCR ต่ำ เพียง 1.1-1.2 เท่านั้น
ด้านตลาดและช่องทางจำหน่ายปลากะพง
ด้วยคุณภาพอาหารปลาตามข้างต้น จึงทำให้เจ๊ตั๊กเปิดใจทดลองใช้อาหารปลากะพง “Uni-President” เพื่อพิสูจน์ว่าอาหารปลาจะได้คุณภาพดังที่กล่าวหรือไม่ ซึ่งหลังจากทดลองใช้ไปแล้วนั้นปรากฏว่าปลากะพงของตนนั้นโตเร็ว น้ำหนักดี จับได้เร็วก่อนกำหนดใช้เวลาเลี้ยงเพียง 4 เดือน เท่านั้น จากเดิม 6-7 เดือน (ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการบ่อ และจำนวนปลาที่ปล่อย) อีกทั้ง FCR ต่ำ เพียง 1.1-1.2 เท่านั้น ปลาที่จับสามารถทำขนาดได้ โดยสามารถแบ่งจับได้ 2 รอบ จึงจะคว่ำบ่อ ปลาทรงสวย เกล็ดแข็งแรง ไม่หลุดง่ายเหมือนแต่ก่อน ตัวปลามีสีเหลืองทอง ซึ่งสีแบบนี้ตลาดต้องการเป็นอย่างมาก และปัจจัยสำคัญที่สุด คือ เรื่องของราคา หากเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ แล้ว ถือว่าอาหารปลากะพง “Uni-President” ราคาต่ำกว่า แต่คุณภาพมาตรฐานเหมาะสมกับการเลี้ยงปลากะพงที่สุด
“ถามว่าตอนนี้มีเซลล์มาติดต่อขายอาหารให้เจ๊เยอะนะ หลายบริษัท แต่ที่เจ๊ไม่หันไปที่อื่นเพราะว่าของ “Uni-President” เขาดีอยู่แล้ว ทั้งเรื่องคุณภาพอาหาร ราคา การบริการหลังการขาย ดีทุกอย่าง ที่สำคัญเจ๊ไปดูโรงงานผลิตที่เวียดนามมาแล้ว ถึงได้รู้ว่าของเค้าดีจริง ไม่งั้นเจ๊ไม่กล้าออกมาการันตีให้แน่นอน”
ท้ายนี้ Mr.Edmond Lai ผู้บริหาร บริษัท อะเมซอน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้กล่าวไว้ว่า “จุดแข็งของเรา คือ ลูกค้าต้องได้กำไร เลี้ยงปลา จับปลาแล้วต้องขายได้ เพราะถ้าลูกค้าอยู่ได้ เราก็อยู่ได้ ดังนั้นเราก็ต้องหาของที่ดีที่สุดเท่านั้นมาให้ลูกค้าของเรา”
สนใจอาหารปลากะพงขาวเกรดคุณภาพ มีส่วนผสมจากธรรมชาติ โปรตีนสูง
ติดต่อได้ที่ บริษัท อะเมซอน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ที่อยู่ 89/7 หมู่ 2 ต.กาหลง อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร 74000
โทร : 091-740-0584 คุณอัลเบิร์ต, 083-247-4400 คุณโอ๊ต
ขอขอบคุณเจ้าของข้อมูล
เจ๊หน่อย คุณไฉไล เกตุใจ (หน่อย) ไฉไลฟาร์ม 089-018-9635
เจ๊ตั๊ก คุณสิริพร นิชการ 081-424-3537