คุณค่าทางโภชนาการของมะระรูปหัวใจ
บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด ผู้นำตลาดเมล็ดพันธุ์พืชเขตร้อนชื้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่รู้จักกันดีในชื่อ “ศรแดง” ได้พัฒนาสายพันธุ์มะระจีนจนกลายมาเป็นมะระรูปหัวใจ สินค้านวัตกรรมพันธุ์พืช ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ที่มีจำนวนคนในครอบครัวน้อยลง จึงเหมาะกับการทำอาหารในมื้อเดียวโดยไม่เหลือ ดังนั้นพืชผักที่มีขนาดเล็กลงจึงเป็นที่ต้องการในการปรุงอาหารในครอบครัวเล็กๆ แถมยังมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วนเหมือนสายพันธุ์เดิมอีกด้วย
อีกทั้งการปรับปรุงพันธุ์ มะระหัวใจ ยังสามารถปรับปรุงพันธุ์ให้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยสามารถเก็บผลผลิตไว้ได้นานขึ้น รสชาติดีขึ้น และนำมาประกอบอาหารได้เหมือนมะระทั่วไป เช่น กุ้งแช่น้ำปลา ต้มจืดมะระยัดไส้หมู หรือผัดมะระกับไข่ เป็นต้น
การพัฒนาสายพันธุ์มะระ
คุณอิสระ วงค์อินทร์ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด กล่าวว่า มะระรูปหัวใจเป็นมะระอีกสายพันธุ์หนึ่งของมะระจีน ที่มีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีรูปทรงคล้ายลักษณะรูปหัวใจ และมีขนาดเล็กกว่ามะระจีน มะระพันธุ์นี้สามารถปลูกได้ทั่วประเทศ และปลูกได้ตลอดทั้งปี
เมล็ดพันธุ์ที่ได้ทดลองปลูกมะระรูปหัวใจเป็นที่แรก คือ โครงการหลวง ทั้งนี้เพื่อให้ผู้บริโภคที่สนใจทดลองซื้อรับประทานดู และเป็นการเปิดตลาดให้กับมะระสายพันธุ์นี้ โดยการหาตลาดวางในห้างสรรพสินค้า ถ้าผลตอบรับจาก ผู้บริโภคมีมากขึ้น ก็จะทำการส่งเสริมให้เกษตรกรในที่ต่างๆ ปลูกจำหน่ายต่อไป เพื่อเป็นแนวทางสร้างอาชีพกับ สายพันธุ์มะระรูปหัวใจแบบยั่งยืนต่อไป
ลักษณะเด่นของมะระรูปหัวใจ
ลักษณะเด่นของ “มะระรูปหัวใจ” อยู่ที่รูปทรงผลที่มีลักษณะคล้ายรูปหัวใจ มีขนาดผลประมาณ 8-10 เซนติเมตร น้ำหนัก 200 กรัม สีเขียวสด รสชาติขมปานกลาง พอเหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก อายุการเก็บเกี่ยวจะอยู่ประมาณ 45-50 วัน แล้วแต่สภาพอากาศ ปลูกได้ตลอดทั้งปี การทำค้างของมะระพันธุ์เพียงแต่ใช้ไม้ไผ่ปักไว้ก็สามารถเลื้อยขึ้นไปได้ เพราะผลไม่ใหญ่มาก เหมือนมะระจีนที่ต้องทำค้างอย่างแน่นหนาเพราะมีผลใหญ่
การปลูกและการบำรุงดูแลมะระรูปหัวใจ
การปลูกมะระรูปหัวใจจะปลูกคล้ายกับการปลูกมะระจีน เพียงแต่การทำค้างนั้นไม่ต้องทำแน่นหนามากนัก เพราะผลมีขนาดเล็กกว่า และเหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำนวนจำกัด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนรุ่นใหม่ที่มีที่พักอาศัยอยู่ในเมือง แค่มีกระถางประมาณ 8-9 นิ้ว พร้อมวัสดุปลูก เมล็ดพันธุ์มะระรูปหัวใจก็สามารถปลูกในพื้นที่ อย่าง คอนโดฯ บ้านจัดสรร หรือระเบียงนอกห้องได้ตามต้องการ
วิธีการปลูก ต้องนำเมล็ดมะระรูปหัวใจมาเพาะกล้าประมาณ 14 วัน หลังจากนั้นนำกล้าที่เพาะลงไปปลูกในกระถางที่เตรียมไว้ รดน้ำทุก 4 วัน วันละ 1 ครั้ง พออายุได้ประมาณ 15-20 วัน ก็นำปุ๋ยมาใส่เพื่อบำรุงต้น ถ้าปลูกรับประทานเองก็สามารถนำปุ๋ยชีวภาพ ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยสูตรเสมอ มาใช้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ปลูก เมื่อต้นเริ่มโตสูงขึ้นจึงนำไม้ไผ่มาปักเพื่อให้ต้นมะระเลื้อย บำรุงดูแลประมาณ 45-50 วัน ก็จะสามารถเก็บผลผลิตมารับประทานได้
การเก็บเกี่ยวผลผลิตมะระรูปหัวใจ
1 ต้น ของมะระสายพันธุ์นี้จะให้ผลผลิตประมาณ 40-50 ลูก ซึ่งผลผลิตก็จะสามารถออกผลให้ได้เก็บรับประทานอยู่เป็นระยะ เหมาะสมสำหรับคนเมืองที่ไม่ต้องการผลผลิตพืชผักที่ใหญ่จนเกินไป แถมยังได้สารอาหารครบถ้วน และที่สำคัญปลอดภัยต่อสุขภาพ 100% เพราะสามารถปลูกเองได้
แต่สำหรับเกษตรกรที่สนใจปลูกมะระรูปหัวใจก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับผู้บริโภคที่ชอบความแปลกใหม่ การลงทุนในการปลูก 1 ไร่ จะสามารถปลูกมะระรูปหัวใจได้ประมาณ 800 ต้น เมล็ดพันธุ์จะจำหน่ายอยู่ที่ 5 บาท/เมล็ด ซึ่งถ้าคิดประมาณเงินทุน เกษตรกรสามารถลงทุนปลูกได้ เพราะผลกำไรที่จะได้รับนั้นขึ้นอยู่กับตลาดที่รับซื้อ ในช่วงแรกถ้าคิดจำหน่ายผลผลิตเป็นลูก ลูกละ 20 บาท 1 ต้น สามารถผลิตได้ 40-50 ลูก/ 1 ต้น สามารถทำเงินได้ถึง 800 บาท ตรงนี้ขึ้นอยู่กับตลาด และราคา ในอนาคตถ้าผู้บริโภคมีจำนวนมากขึ้น เกษตรกรก็สามารถปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจได้อย่างแน่นอน
โรคและแมลงที่พบในมะระชนิดนี้ ประกอบด้วยราน้ำค้าง ราแป้ง และแมลงหวี่ขาว เป็นต้น สาเหตุส่วนใหญ่ของโรคราแป้งและราน้ำค้างจะเกิดจากสภาพอากาศมีความชื้นมากจนเกินไป และแมลงหวี่ขาวก็จะเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคไวรัสตามมา
ดังนั้นทาง บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด จึงต้องเพิ่มบุคลากรเพื่อเข้าไปให้ความรู้แก่เกษตรกรในเรื่องการป้องกันและการกำจัดโรคและแมลงต่างๆ ทำให้เกษตรกรลดการเสียหายของผลผลิตได้มากขึ้น อีกทั้งเกษตรกรก็มีความรู้ในการจัดการสวนของตนอีกด้วย
ประโยชน์ของ มะระรูปหัวใจ
มะระรูปหัวใจที่มีขนาดเล็กและมีรสขมที่เกิดจากสารโมโมดิซิน (Momodicine) ซึ่งมีประโยชน์ช่วยเจริญอาหาร และช่วยระบายท้อง มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสในการบำรุงกระดูกและฟัน บำรุงสมองและกล้ามเนื้อ มีวิตามินซีที่ช่วยให้ผิวพรรณสดใส มีเบต้าแคโรทีนในปริมาณสูง ช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันโรค และปกป้องเซลล์จากการทำลายของสารก่อมะเร็งอีกด้วย
อนาคตผู้บริโภคมะระรูปหัวใจต้องมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุผล 2 ประการ คือ
1.ในปัจจุบันผู้บริโภคหันมารักษาสุขภาพกันมากขึ้น การปลูกพืชรับประทานเองก็มีส่วนช่วยในการรับสารพิษน้อยลง เมื่อเทียบกับการซื้อจากตลาดมารับประทาน
2.มะระรูปหัวใจสามารถปลูกได้ในพื้นที่หลักๆ ตามบ้านเรือน ดังนั้นจึงเป็นการง่ายที่จะให้ผู้บริโภคหันมาปลูก มะระรูปหัวใจ รับประทานเอง
นอกจาก มะระรูปหัวใจ แล้ว เมล็ดพันธุ์ในแบรนด์ศรแดง ยังมีให้เลือกปลูกกันถึง 90 ชนิด ตัวหลักๆ จะเป็นข้าวโพด ข้าวเหนียว พืชตระกูลแตง พริก มะเขือ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์จะมีการปรับปรุงให้ต้านทานโรคและแมลง เพราะเป็นปัจจัยหลักที่เกษตรกรต้องพบเจอปัญหาเหล่านี้ การที่พืชมีความต้านทานต่อโรคและแมลง จะช่วยลดการเสียหาย และลดต้นทุนในการซื้อยามากำจัดอีกด้วย และที่สำคัญที่สุดผู้บริโภคจะได้รับสารเคมีน้อยลง ได้ประโยชน์จากพืชผักชนิดต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
หากเกษตรกร หรือท่านผู้อ่าน ท่านใดสนใจเมล็ดพันธุ์ หรือข้อมูลของ มะระรูปหัวใจ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด 50/1 หมู่ 2 ถนนไทรน้อย-บางบัวทอง ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี 11150 โทร.0-2831-7777