ถึงแม้ว่าจะเป็นฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีดที่เกิดขึ้นใหม่เมื่อไม่นาน แต่รายได้และรูปแบบการทำฟาร์มการันตีความสำเร็จทวนกระแสเศรษฐกิจในขณะนี้ อันเนื่องมาจากยังมีความต้องการของตลาดและผู้บริโภคสูงอยู่ ผลิตเท่าไหร่ก็ไม่พอ แถมราคาขายก็ดีอีกด้วย
สภาพพื้นที่เลี้ยงจิ้งหรีด
คุณพงศธร นุชโพธิ์พันธ์ เจ้าของ “ไทยเดิมฟาร์ม” อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง เล่าถึงชีวิตก่อนที่มาเลี้ยงจิ้งหรีดว่า ตนมีอาชีพขายเสื้อผ้าตามตลาดนัด มีวันหนึ่งหาที่ขายไม่ได้ คุณพิเชษฐ์ บุญสว่าง (พี่เขย) เจ้าของ “บ้านชายฟาร์ม” โทรมาบอกให้ไปดูการเลี้ยงจิ้งหรีดที่เขาเลี้ยง ทำให้ตนกลับมาคิดและปรึกษากับครอบครัว
จากนั้นจึงสร้างโรงเรือนและเลี้ยงจิ้งหรีดในบ่อปูนซีเมนต์ แต่เนื่องจากปัญหาปูนซีเมนต์มีความชื้นสูง และการจัดการที่ยุ่งยาก จึงเปลี่ยนมาเลี้ยงในกล่องยิปซัมแผ่นเรียบ (สมาร์ทบอร์ด) แทน
“เริ่มแรกมีทุนไม่มาก จึงทำกล่องสมาร์ทบอร์ดขนาด 1.20×2.40 เมตร สูง 80 ซม. เพื่อจะเรียงแผงไข่กระดาษได้ 2 ชั้น และวางขันไข่จิ้งหรีดได้มากขึ้น เมื่อถึงเวลาจับขายก็จะได้จิ้งหรีดเป็นจำนวนมาก จากนั้นก็จะนำรายได้บางส่วนมาต่อยอด อีกทั้งเป็นการใช้พื้นที่จำกัดให้คุ้มค่าที่สุด”
สาเหตุที่ทำฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีด เพราะเป็นงานอิสระ และไม่ได้เป็นลูกน้องใคร ที่สำคัญเป็นอาชีพที่มั่นคง เพราะมีตลาดรองรับ และมีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น ส่วนเรื่องรายได้จากการเลี้ยงจิ้งหรีดก็ถือว่าคุ้มค่ากว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือน ที่กว่าจะได้เงินก็ต้องรอจนถึงสิ้นเดือน
“สำหรับผมปัจจุบันอายุ 22 ปี มีเงินหมุนเวียนในบัญชีเดือนละ 30,000-40,000 บาท มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะสามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้” คุณพงศธร แสดงความรู้สึกกับอาชีพนี้
คุณพงศธรกล่าวต่อว่า “ในฐานะที่เป็นน้อง มีพี่หาอาชีพมาแนะนำให้ทำ จึงรู้สึกดีใจมาก เพราะเมื่อก่อนขายของตามตลาดนัดต้องไปจองพื้นที่ตั้งแต่เช้าเพื่อรอขายตอนเย็น บางครั้งต้องรอท่ามกลางแสงแดด บางวันคนน้อย ขายของไม่ได้ หรือบางวันพอตั้งร้านเสร็จฝนตก ทำให้ข้าวของเกิดความเสียหาย
แต่พอมาทำฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีดทำให้มีเวลามากขึ้น สามารถทำอย่างอื่นได้ เพราะการเลี้ยงจิ้งหรีดจะดูแลเฉพาะช่วงเช้าและเย็นเท่านั้น อีกอย่างสามารถคำนวณรายได้คร่าวๆ ในแต่ละเดือนได้”
จุดเริ่มต้นการเลี้ยงจิ้งหรีด
ด้านคุณพิเชษฐ์ บุญสว่าง เจ้าของ “บ้านชายฟาร์ม” เลขที่ 100 ม.3 ต.องครักษ์ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง คนแนะนำให้คุณพงศธรเลี้ยงจิ้งหรีด เปิดเผยที่มาของการสร้างเครือข่ายว่า เดิมทีตนมีอาชีพขับรถตู้รับเหมา ช่วงที่ว่างก็จะอยู่บ้าน พอดีเห็นคุณอาเลี้ยงจิ้งหรีด คิดว่าจิ้งหรีดจะทำรายได้มากเท่าไหร่ เพราะเห็นว่าจิ้งหรีดมีขนาดเล็ก
แต่เมื่อจับขายได้น้ำหนักถึง 80 กิโลกรัม หักค่าใช้จ่ายแล้วมีรายได้เลี้ยงครอบครัวแบบสบายๆ เลยทำให้กลับมาคิด จากนั้นเริ่มทดลองเลี้ยงในบ่อปูนซีเมนต์ขนาด 7.50×2.40 เมตร ลงไข่จิ้งหรีด 120 ขัน และสามารถจับจิ้งหรีดได้ 110 กิโลกรัม นับเป็นการเริ่มต้นตั้งแต่นั้นมา
หลังจากที่ได้ทดลองเลี้ยงเห็นว่าจิ้งหรีดเลี้ยงง่าย รายได้ดี และคืนทุนเร็ว จึงแนะนำให้ญาติพี่น้องเลี้ยง และเริ่มสร้างเครือข่าย เพื่อปริมาณผลผลิตที่มากขึ้น เนื่องจากความต้องการของตลาดและความคุ้มค่าต่อการขนส่ง ขณะเดียวกันก็ศึกษาการลดต้นทุน วิธีการเลี้ยง และปัญหาต่างๆ ตลอดจนพฤติกรรมของจิ้งหรีดด้วย ปัจจุบันกลายเป็นอาชีพหลักและสร้างรายได้ให้กับครอบครัว
ด้านตลาดและช่องทางจำหน่ายจิ้งหรีด
“ตลาดที่รับซื้อจิ้งหรีดถือว่าเป็นตลาดที่มั่นคง ทางฟาร์มจะนำไปส่งให้พ่อค้าเจ้าประจำที่จังหวัดนครสวรรค์ ครั้งละ 200-300 กิโลกรัม โดยลักษณะจิ้งหรีดที่ส่งขาย จะเป็นจิ้งหรีดต้มสุก สะอาด และปลอดสารพิษ”
สำหรับจิ้งหรีดที่ทางฟาร์มและเครือข่ายเลี้ยง มีอยู่ 2 ชนิด คือ พันธุ์ทองแดง-ทองดำ และจิ้งโกร่ง ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ตลาดต้องการ ส่วนระยะเวลาในการเลี้ยง จิ้งหรีดจะใช้เวลาประมาณ 35 วัน จึงโตเต็มวัยพร้อมที่จับขายได้ ขณะที่จิ้งโกร่งจะใช้เวลาเกือบ 2 เดือน ถึงจะโตเต็มที่ แต่ราคาขายดีกว่าจิ้งหรีด
การบริหารจัดการบ่อเลี้ยงจิ้งหรีด
ทั้งนี้ระยะเวลาในการเลี้ยงจิ้งหรีดต้องขึ้นอยู่กับการจัดการและอาหารด้วย ซึ่งมีขั้นตอนการเลี้ยงดังนี้ หลังจากที่เรียงแผงไข่ในบ่อเสร็จแล้วจะนำไข่จิ้งหรีดมาวางไว้ในกล่องตามจำนวนที่ต้องการ
จากนั้นอีก 7 วัน ไข่ก็เริ่มออกเป็นตัว โดยวางไว้ประมาณ 3 วัน จึงค่อยเก็บขันไข่ออก เพราะหากปล่อยไว้นานเกินไปจะทำให้จิ้งหรีดเจริญเติบโตไม่สม่ำเสมอกัน เสร็จแล้วเตรียมน้ำให้เหมาะกับช่วงอายุของจิ้งหรีด
โดยจิ้งหรีดตัวเล็กจะใช้ขี้เถ้าแกลบผสมน้ำให้กิน เพื่อป้องกันการจมน้ำตาย พอหลังจากจิ้งหรีดอายุ 20 วัน จึงเปลี่ยนมาใช้แบบถาดน้ำใส่ก้อนหินตรงกลาง 4-5 ก้อน เพื่อให้จิ้งหรีดได้ไต่เข้ามากินน้ำได้ พอถึงช่วงวางไข่ก็จะนำภาชนะ (ขันพลาสติก) ใส่แกลบดำ พรมน้ำให้ชุ่มไปวางไว้ในบ่อ รอประมาณ 1 วัน จึงเก็บออกใช้เลี้ยงรุ่นต่อไป หรือจำหน่ายให้กับผู้ที่สนใจ หลังจากนั้นจะเลี้ยงต่อไปอีก 1-2 วัน ก็สามารถจับขายได้
การให้อาหารจิ้งหรีดจิ้งโกร่ง
ส่วนอาหารที่ใช้เลี้ยงจิ้งหรีดจะเป็นอาหารสำเร็จรูป PURE PRIDE ของ บริษัท อาหารสัตว์ไทยสระบุรี จำกัด เพราะเชื่อมั่นในคุณภาพของอาหาร ที่จิ้งหรีดกินแล้วมีน้ำหนักค่อนข้างดี
โดยให้ช่วงเช้าเพียงรอบเดียว และเสริมด้วยผักบุ้ง และผักเบี้ย (ผักโขม) ตามสัดส่วนที่พอเหมาะ เพื่อเป็นการลดต้นทุน ส่วนฟักทองจะให้จิ้งหรีดกินก่อนจับขายประมาณ 5 วัน เพื่อเป็นการล้างท้อง และให้มีรสชาติอร่อยและมัน
แนวโน้มในอนาคต
อนาคตคุณพิเชษฐ์จะขยายการเลี้ยงของฟาร์มและเครือข่ายให้มากขึ้น โดยมีอัตราการผลิตที่ 1 ตัน/เดือน เพราะมีตลาดรองรับผลผลิตที่แน่นอน
เหล่านี้แสดงให้เห็นว่านอกจากความร่วมมือระหว่าง “ไทยเดิม ฟาร์ม” “โสพิน จิ้งหรีดฟาร์ม” และ“บ้านชายฟาร์ม” ที่เป็นเครือญาติกัน ยังสร้างอาชีพให้กับชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงในรูปแบบรวมกลุ่มกัน เพื่อมีอำนาจต่อรองกับพ่อค้า และการสั่งซื้อสินค้าต่างๆ ในราคาที่ถูกลง ที่สำคัญแสดงถึงความรัก ความสามัคคี ในหมู่คณะอีกด้วย
ขอขอบคุณ
คุณพงศธร นุชโพธิ์พันธ์ (ไทยเดิมฟาร์ม) 9 ม.10 ต.แสวงหา อ.แสวงหา จ.อ่างทอง 14150 โทร.095-605-1472
คุณพิเชษฐ์ บุญสว่าง (บ้านชายฟาร์ม) 100 ม.3 ต.องครักษ์ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง 14150 โทร.086-132-0187คุณประเชิญ โสพิน (โสพิน จิ้งหรีดฟาร์ม) 46 ม.1 ต.ศรีพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง 14150 โทร.080-109-5860
จิ้งโกร่ง จิ้งโกร่ง จิ้งโกร่ง จิ้งโกร่ง จิ้งโกร่ง จิ้งโกร่ง จิ้งโกร่ง จิ้งโกร่ง จิ้งโกร่ง จิ้งโกร่ง จิ้งโกร่ง จิ้งโกร่ง