จะเรียกว่าเป็นกระแสที่กำลังมาแรงก็ว่าได้ สำหรับการปลูกเห็ด ไม่แน่ใจว่า “เห็ด” โด่งดังขึ้นมาด้วยเรื่องอะไร แต่ความเป็นจริงเกษตรกรที่ปลูกเห็ดเขาก็มีมานานแสนนาน ช่วงที่ไม่ค่อยตื่นตัว คนปลูกเห็ดก็ยังมีต่อเนื่อง แต่มาระยะหลังคนหันมาสนใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้นหรืออย่างไร ชื่อของเห็ดก็เลยขายดีตามไป จนทุกวันนี้กระแสความแรงก็ยังไม่ตกแนวโน้มมีแต่จะพุ่งขึ้นๆ ด้วยซ้ำไป
คนที่ปลูกเห็ดทุกวันนี้จึงมีเยอะแยะมากมายราวกับเป็นดอกเห็ดยังไงยังงั้น แต่เมื่อทุกคนมีการเพาะกันมาก เห็ดก็ต้องมีมากในตลาด ก็ต้องมาว่าเรื่องราคากันอีกที จุดนี้บางทีก็ต้องพลิกแพลงสร้างความแตกต่าง เพราะถ้ายังใช้รูปแบบการเพาะแบบเดิมๆ คือ การขายเห็ดสดให้พ่อค้า ก็ดูว่าจะไม่ทันกับกระแสตลาด ที่สำคัญจะไปซ้ำซากกับใครอีกมากมาย
แต่หากพัฒนาสร้างจุดเด่นให้ดีกว่า นำเห็ดที่มีมาแปรรูปสร้างมูลค่า ทิศทางของเรื่องนี้ยังน่าจะไปได้อีกไกล เพราะแบรนด์เห็ดแปรรูปทุกวันนี้ยังถือว่ามีไม่มาก หรือบางทีก็มีเพียงแค่การประยุกต์ธรรมดา ไม่ได้ทำเป็นธุรกิจ หรือสร้างเป็นแบรนด์เพื่อการค้า เรียกว่าถ้าใครรีบจับจุดตรงนี้ได้โอกาสขยายฐานลูกค้าสร้างความเป็นผู้นำในตลาดเห็ดแปรรูปยังเปิดกว้างอย่างสดใสทีเดียว
การปลูกเห็ด
ด้วยเหตุนี้เราจึงขอนำท่านผู้อ่านเดินทางมาที่นี่ “ฟาร์มเห็ดภูตะวัน” เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อดูว่าเขาปลูกเห็ดอย่างไร แต่เรามาที่นี่เพื่อดูว่าเขาแปรรูปเห็ดอย่างไร มีการทำการตลาดอย่างไร และทุกวันนี้ผลิตภัณฑ์เห็ดแปรรูปของฟาร์มภูตะวันเดินหน้าไปได้ไกลแค่ในตลาดสุขภาพ รวมถึงอนาคตข้างหน้ามีแผนการจะต่อยอด การแปรรูปเห็ด อย่างไร ทุกอย่างล้วนแต่น่าสนใจ ถ้าอย่างงั้นลองไปถามรายละเอียดกันเลยดีกว่าครับ
คุณศรชัย นุชแหยม เจ้าของฟาร์มเห็ดภูตะวัน รุ่นปัจจุบัน บอกเล่าให้ทีมงานเราฟังว่า ฟาร์มเห็ดภูตะวันนี้เริ่มทำเห็ดกันมาตั้งแต่ประมาณ 15 ปีก่อน ในยุคของคุณพ่อ โดยที่คุณศรชัยในขณะนั้นยังไม่ได้เข้ามาบริหารจัดการอะไรมากนัก ด้วยความที่มีธุรกิจอยู่ที่กรุงเทพฯ จึงไปๆ มาๆ ระหว่างกรุงเทพฯ-สระบุรีซะเป็นส่วนมาก การเพาะเห็ดสมัยก่อนมีเห็ดฟางเป็นหลัก ก็เน้นการขายดอกสดผ่านพ่อค้าคนกลาง ราคาก็ขึ้น-ลงตามตลาด เรียกว่าทำเห็ดขายมาก แต่กำไรก็ไม่ได้มาก ที่สำคัญมีต้นทุนที่ค่อนข้างสูงทีเดียว
การบริหารจัดการโรงเห็ด
มาถึงประมาณ 4 ปีที่ผ่านมา ที่คุณศรชัยเริ่มเข้ามาบริหารจัดการฟาร์มเห็ดภูตะวันอย่างเต็มตัว ซึ่งการเข้ามาบริหารจัดการเต็มตัวคราวนี้ คุณศรชัยก็ตั้งเป้าที่จะพัฒนาการเพาะเห็ดในยุคใหม่ นั่นคือ ไม่เน้นการขายดอกเห็ดสดผ่านพ่อค้าคนกลาง แต่มองดูการทำเห็ดยุคใหม่ที่เน้นการทำก้อนเชื้อจำหน่าย ที่สำคัญ คือ การแปรรูปผลิตภัณฑ์ ที่ถือว่ามีความน่าสนใจในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก
การเกษตรในยุคใหม่ต้องเน้นตลาดเป็นสำคัญ อย่างเรื่องของเห็ดที่ถือว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอยู่แล้ว แต่การเพาะเห็ดสมัยก่อนต้นทุนสูง ขั้นตอนเยอะ แต่มีตลาดที่ไม่กว้าง ทำให้ราคาไม่ดี ทำแล้วกำไรไม่ดีเท่าไหร่ ด้วยเหตุนี้ไอเดียหลักๆ ของคุณศรชัยจึงตั้งใจไว้ว่าไม่ต้องการขายเห็ดสด แต่ให้น้ำหนักเรื่องการแปรรูปมากกว่า
เนื่องจากเห็ดที่มีในฟาร์มค่อนข้างหลากหลายสายพันธุ์ และแต่ละพันธุ์ก็มีคุณค่าทางการตลาดแตกต่างกันไป ถ้าเป็นตลาดพื้นๆ ก็พวกเห็ดนางรม นางฟ้า หรือว่าเห็ดขอน ที่เป็นเห็ดทานสด ส่วนเห็ดที่เป็นยาก็จำพวกเห็ดหลินจือ จำเป็นต้องตีโจทย์ให้แคบว่าเห็ดที่มีจะสามารถนำไปแปรรูปทำอะไรได้บ้าง
พอดีกับได้ไปศึกษาดูงานที่วังน้ำเขียว ที่ถือเป็นแหล่งเพาะเห็ดที่ใหญ่อันดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่ฟาร์มเห็ดวังน้ำเขียวส่วนหนึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร จึงมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเห็ดมากมาย ที่สำคัญมีกลุ่มลูกค้าให้ความสนใจค่อนข้างมาก ที่หาซื้อผลิตภัณฑ์จากเห็ดเพื่อเป็นของฝาก จากจุดนี้เองที่คุณศรชัยได้แรงบันดาลใจที่มองเห็นตลาดเห็ดแปรรูปว่าสามารถเติบโตได้อีกไกล ไม่ว่าจะส่งขายตามสถานที่ท่องเที่ยว หรือตามห้างสรรพสินค้า ยังถือว่าเปิดกว้าง เพราะคู่แข่งตลาดด้านนี้ยังมีน้อย เมื่อเทียบกับการขายดอกเห็ดสดๆ
การจำหน่ายผลิตภัณฑ์เห็ดแปรรูป
กว่าที่จะเริ่มทำผลิตภัณฑ์แปรรูปตัวแรกออกมาได้ก็ต้องมีการหาความรู้เพิ่มเติมอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะวิธีการทำ และเทคนิค เคล็ดลับ ในการแปรรูป ซึ่งก็ต้องเริ่มเดินสายศึกษาตามสถานที่ต่างๆ มากขึ้น เพื่อรวบรวมความรู้ให้มากที่สุด แล้วเอามาลองผิดลองถูกทำกินเองบ้าง แจกให้คนอื่นกินบ้าง จนแน่ใจในเรื่องวิธีการและรสชาติว่าสามารถวางจำหน่ายได้แน่ๆ จึงเริ่มเปิดตัวสินค้าเห็ดแปรรูปตัวแรก
โดยเริ่มจาก “แหนมเห็ด” วางขายเป็น Shop ธรรมดา ที่ร้านเค้กบ้านสวน ผลปรากฏว่าได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาด จึงเป็นกำลังใจที่ดีในการต่อยอดทำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อมาวางจำหน่าย โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์เห็ดแปรรูปของฟาร์มเห็ดภูตะวัน นอกจากแหนมเห็ดก็ยังมีน้ำเห็ด และเห็ดทอดกรอบ ซึ่งเห็ดทอดกรอบก็สามารถแยกได้อีก 3 รสชาติ คือ เห็ดทอดกรอบโนริสาหร่าย เห็ดทอดกรอบสมุนไพร และเห็ดทอดกรอบ 3 รส
ในอนาคตข้างหน้าที่จะตามมาอีก คือ ข้าวเกรียบเห็ด และไส้กรอกเห็ด ที่ตอนนี้กำลังศึกษาเรื่องสูตรการทำเพื่อปรับปรุงรสชาติให้ดีที่สุด ก่อนที่จะผลิตจำหน่ายมาวางขายกันต่อไป
ขั้นตอน การแปรรูปเห็ด
ถ้าเป็นแหนมเห็ดส่วนมากเป็นงานแฮนด์เมดซะส่วนใหญ่ อย่างพอดึงเห็ดสดมาเอามาฉีกเป็นฝอย ก็เอาไปลวกให้สุก แล้วเอามาใส่ส่วนผสม เช่น ข้าวกล้อง กระเทียม เกลือ คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วบรรจุถุง แล้วเอาเข้าเครื่องดูดอากาศเพื่อเก็บรักษาไว้ได้นานๆโดยที่ไม่เสื่อมคุณภาพและรสชาติ และถ้าเป็นเห็ดทอดกรอบ อุปกรณ์หลักๆ ก็คือ กระทะ จะเริ่มจากฉีกเป็นชิ้นแล้วเอามาทอด หลังจากทอดก็ต้องมาเอาเข้าเครื่องสะบัดน้ำมัน เพื่อแยกน้ำมันออกจากเห็ด ป้องการการหืน และเหนียว พอสะบัดจนแห้งก็เอามาเข้าเครื่องอบเป็นตู้อบลมร้อน จะอบประมาณ 4-5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความชื้นของเห็ด แล้วก็บรรจุหีบห่อ ซึ่งก็ต้องมีการเติมไนโตรเจนก่อนบรรจุ การทำเห็ดทอดกรอบนี้ถือว่ามีอุปกรณ์เยอะที่สุดในผลิตภัณฑ์เห็ดแปรรูปทั้งหมด แต่ก็เป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดด้วยเช่นกัน
ส่วนน้ำเห็ด หลักๆ ก็คือ หม้อ และตะแกรง มีอุปกรณ์สำคัญก็อยู่ที่การฆ่าเชื้อ ตรงนี้ใช้หม้อนึ่งความดันฆ่าเชื้อประมาณ 40 นาที อุณหภูมิ 121 องศาเซลเซียส แต่งรสให้ออกหวานด้วยน้ำผึ้งจากเชียงใหม่เท่านั้น หลังผ่านการฆ่าเชื้อ น้ำเห็ดนี้สามารถเก็บไว้ได้เป็นปี โดยที่ไม่เสื่อมและไม่เสียคุณภาพ
ด้านตลาดผลิตภัณฑ์เห็ดแปรรูป
แม้ว่าปัจจุบันผลิตภัณฑ์เห็ดแปรรูป จะมีวางขายในท้องตลาดค่อนข้างมาก การหาจุดเด่นเพื่อสร้างความแตกต่าง ให้ ผู้บริโภคได้รู้ว่าถ้าต้องการทานเห็ดแปรรูปต้องของฟาร์มภูตะวันเป็นเรื่องที่ยากที่จะทำ คุณศรชัยยอมรับว่าในเรื่องรสชาติถือว่าไม่ได้แตกต่างกัน ถ้าจะมองหาจุดเด่น คือ ต้องสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคได้รู้ถึงความสะอาด ปลอดภัย นั่นก็คือ เน้นเรื่องแพคเกจจิ้งเป็นสำคัญ แพคเกจจิ้งของเห็ดแปรรูปฟาร์มภูตะวัน ไม่ว่าจะซองใส่เห็ดทอดกรอบ บรรจุภัณฑ์สุญญากาศของแหนมเห็ด หรือขวดล็อคที่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์ของน้ำเห็ด ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจว่า นอกจากรสชาติที่ดี กรรมวิธีการผลิตของฟาร์มเห็ดภูตะวันยังสะอาด ปลอดภัย รับประทานแล้วได้ประโยชน์ต่อสุขภาพแน่ๆ
และจากบรรจุภัณฑ์ที่ดีเหล่านี้ก็ทำให้มีต้นทุนในการทำที่ค่อนข้างเยอะ หลังหักลบต้นทุน กำไร ของเห็ดแปรรูปแต่ละอย่างของฟาร์มเห็ดภูตะวันเฉลี่ยอยู่ที่ 20% ต่อชิ้น อย่างเช่น แหนมเห็ด ราคาขายปลีก 100 บาท แต่ทางฟาร์มส่งให้ตัวแทนจำหน่าย 70 บาท หักต้นทุนของแหนมเห็ดอยู่ที่ประมาณ 50 บาท จึงเหลือเป็นกำไร/ชิ้น 20 บาท เป็นต้น รวมๆ แล้วในแต่ละเดือนมีออเดอร์ค่อนข้างมาก ตัวแทนจำหน่ายสำคัญๆ ก็มีที่กรุงเทพฯ ส่วนที่โคราชก็มีที่ปากช่อง และไร่สุวรรณ (ไร่ข้าวโพดของ ม.เกษตรศาสตร์) ยอดจำหน่ายต่อเดือนอาจจะไม่แน่นอนนัก แต่ช่วงที่ดีที่สุด คือ ฤดูท่องเที่ยว ที่มียอดขายกว่า 90,000 บาท เลยทีเดียว
คุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณของเห็ด
เห็ดเป็นแหล่งอาหารโปรตีนจากธรรมชาติ ที่มีวิวัฒนาการมาจากการประสานเส้นใยจำนวนมากของเชื้อราชั้นสูง และถึงแม้เห็ดจะขาดกรดอะมิโนบางตัวไปบ้าง แต่ในเรื่องของรสชาติและเนื้อสัมผัสนั้นรับรองว่าเห็ดไม่เป็นรองใครแน่ๆ ที่สำคัญเห็ดยังให้คุณค่าทางโภชนาการ และมีสรรพคุณทางยา ซึ่งมีคุณสมบัติที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย และช่วยลดอัตราความเสี่ยงจากโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง เบาหวาน อัลไซเมอร์ หลอดเลือดหัวใจอุดตัน และความดันโลหิตสูง
เห็ดจัดเป็นอาหารประเภทผักที่ปราศจากไขมัน มีปริมาณน้ำตาลและเกลือค่อนข้างต่ำ และยังเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี เมื่อเทียบกับผักอีกหลายชนิด อีกทั้งยังมีรสชาติและกลิ่นที่ชวนรับประทาน ซึ่งรสชาติที่โดดเด่นนี้มาจากการที่เห็ดมีกรดอะมิโนกลูตามิคเป็นองค์ประกอบ โดยกรดอะมิโนตัวนี้จะทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นประสาทการรับรู้รสอาหารของลิ้นให้ไวกว่าปกติ และทำให้มีรสชาติคล้ายกับเนื้อสัตว์
นอกจากนี้เห็ดยังอุดมไปด้วยวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินบีรวม (ไรโบฟลาวิน) และไนอาซิน ซึ่งจะช่วยควบคุมการทำงานของระบบย่อยอาหาร ในส่วนของเกลือแร่ เห็ดจัดเป็นแหล่งเกลือแร่ที่สำคัญ โดยมีเกลือแร่ต่างๆ เช่น ซิลิเนียม ทำหน้าที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน โปแตสเซียม ทำหน้าที่ควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ สมดุลของน้ำในร่างกาย การทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาทต่างๆ ลดการเกิดโรคความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ และอัมพาต ส่วนทองแดง ทำหน้าที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของธาตุเหล็ก
นอกจากนี้เห็ดมีองค์ประกอบของพฤกษเคมีที่ชื่อว่า “โพลีแซคคาไรด์” (Polysaccharide) จะทำงานร่วมกับแมคโครฟากจ์ (macrophage) ซึ่งเป็นเซลล์คุ้มกันขนาดใหญ่ที่ออกจากหลอดเลือดเข้าสู่เนื้อเยื่อ และจะไปจับกับโพลีแซคคาไรด์ที่บริเวณกระเพาะอาหาร และนำไปส่งยังเซลล์คุ้มกันตัวอื่นๆ โดยจะช่วยกระตุ้นวงจรการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเสริม และช่วยเพิ่มปริมาณและประสิทธิภาพของเซลล์คุ้มกันธรรมชาติ ให้ทำหน้าที่ทำลายเซลล์แปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย รวมถึงพวกไวรัส และแบคทีเรียอื่นๆ ด้วย เห็ดที่มีปริมาณสารโพลีแซคคาไรด์สูง คือ เห็ดหอม หรือเห็ดชิตาเกะ เห็ดนางรม เห็ดหูช้าง และเห็ดกระดุม เป็นต้น และเห็ดอื่นๆ ที่นิยมนำมารับประทาน ได้แก่ เห็ดหลินจือ เห็ดฟาง เห็ดหูหนู เห็ดกระดุมหรือแชมปิญอง เห็ดโคน และเห็ดเข็มทอง เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้เห็ดเป็นยาได้อีกด้วย ซึ่งสรรพคุณทางยาของเห็ดมีมากมาย เช่น ช่วยควบคุมการทำงานของอวัยวะสำคัญต่างๆ เช่น สมอง หัวใจ ปอด ตับ และระบบไหลเวียนของโลหิต เนื่องจากชาวจีนจัดเห็ดเป็นยาเย็น เพราะมีสรรพคุณช่วยลดไข้ เพิ่มพลังชีวิต ดับร้อนใน แก้ช้ำใน บำรุงร่างกาย ลดระดับน้ำตาล และคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด ลดความดัน ขับปัสสาวะ ช่วยให้หายหงุดหงิด บำรุงเซลล์ประสาท รักษาอาการอัลไซเมอร์ และที่สำคัญ คือ ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
ประโยชน์ของเห็ด
- เห็ดหอม หรือเห็ดชิตาเกะ
เป็นยาอายุวัฒนะ เพราะช่วยลดไขมันในเส้นเลือด อีกทั้งยังเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสและมะเร็งด้วย และมีกรดอะมิโนถึง 21 ชนิด มีวิตามินบี 1 บี 2 สูง พอๆ กับยีสต์ มีวิตามินดีสูงช่วยบำรุงกระดูก และมีปริมาณโซเดียมต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคไต นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก ซึ่งช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยลดความเป็นกรดในกระเพาะอาหาร ช่วยบำรุงกำลัง บรรเทาอาการไข้หวัด ชาวจีนยกให้เห็ดหอมเป็นอาหารต้นตำรับอมตะ
- เห็ดหูหนู
เป็นกลุ่มคาร์โบไฮเดรต สามารถเพิ่มความแข็งแรงให้เม็ดเลือดขาวในผู้สูงอายุ ทำให้ภูมิต้านทานร่างกายดีขึ้น รวมทั้งช่วยรักษาโรคกระเพาะและริดสีดวง เห็ดหูหนูขาวช่วยบำรุงปอดและไต
- เห็ดหลินจือ
มีสารสำคัญเบต้ากลูแคน ซึ่งมีคุณสมบัติต้านมะเร็ง คนญี่ปุ่นมักใช้ควบคู่กับการรักษาโรคมะเร็ง และโรคผู้สูงอายุ เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง และโรคความดันโลหิตสูง ปัจจุบันยังมีการนำไปเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางอีกด้วย เพราะมีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้อร้าย รวมทั้งกระตุ้นภูมิคุ้มกันไวรัส
- เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า และเห็ดเป๋าฮื้อ
เห็ดสามอย่างนี้อยู่ตระกูลเดียวกัน เจริญเติบโตเป็นช่อๆ คล้ายพัด เห็ดนางรมมีสีขาวอมเทา เห็ดนางฟ้ามีสีขาวอมน้ำตาล ขณะที่เห็ดเป๋าฮื้อจะมีสีคล้ำ และเนื้อเหนียวหนา และนุ่ม อร่อยคล้ายเนื้อสัตว์มากกว่า เชื่อว่าสามารถป้องกันโรคหวัด ช่วยการไหลเวียนเลือด และโรคกระเพาะได้
- เห็ดฟาง
เป็นเห็ดยอดนิยมของคนไทย นิยมเพาะกันบนกองฟางข้าวชื้นๆ โคนมีสีขาว ส่วนหมวกสีน้ำตาลอมเทา หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด ให้วิตามินซีสูง และมีกรดอะมิโนสำคัญอยู่หลายชนิด หากรับประทานเป็นประจำจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันการติดเชื้อต่างๆ อีกทั้งยังช่วยลดความดันโลหิต และเร่งการสมานแผล
- เห็ดเข็มทอง
เป็นเห็ดสีขาวหัวเล็กๆ ขึ้นติดกันเป็นแพ รสชาติเหนียวนุ่ม นำมารับประทานแบบสดๆ ใส่กับสลัดผักก็ได้ ถ้าชอบสุกก็นำไปย่าง ผัด หรือลวกแบบสุกี้ ถ้ากินเป็นประจำจะช่วยรักษาโรคตับ กระเพาะ และลำไส้อักเสบเรื้อรัง
- เห็ดโคน
ช่วยเจริญอาหาร บำรุงกำลัง แก้บิด แก้คลื่นไส้ อาเจียน แก้ไอ
แนวโน้มในอนาคตของ การแปรรูปเห็ด
ด้วยคุณประโยชน์ที่มากมายของเห็ดไม่ต้องสงสัยในเรื่องความต้องการ สิ่งที่ต้องเดินหน้าต่อจากนี้ของฟาร์มเห็ดภูตะวัน คือ การสร้างโรงเรือนที่เป็นโรงงานผลิตเห็ดแปรรูปอย่างชัดเจน ซึ่งตอนนี้ก็มีการวางแผนโครงการไว้ทั้งหมด และน่าจะลงมือก่อสร้างได้ คาดว่าผลผลิตชุดแรกจากโรงผลิตใหม่นี้จะสามารถวางตามจุดจำหน่ายได้ ซึ่งก็คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายให้เป็นหน้าร้านของฟาร์มเห็ดภูตะวันกระจายไปตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงในห้างสรรพสินค้าสำคัญๆ ด้วย
เหนือสิ่งอื่นใดที่เห็ดแปรรูปจากฟาร์มภูตะวันคำนึง คือ ความสะอาด ปลอดภัย และได้ประโยชน์ สำหรับผู้บริโภค ดังนั้นเรื่องมาตรฐานการันตีจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากสามารถดำเนินการจุดนี้ได้อย่างลุล่วง ก้าวต่อไป คือ ก้าวยาวๆ ที่คนไทยทั้งหลายจะได้บริโภคมังสวิรัติชั้นดีจากเห็ดแปรรูปฟาร์มภูตะวัน ที่สามารถหาทานได้ง่าย ไปที่ไหนก็พบเจอได้ทั่วประเทศ
สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเพาะเห็ด หรือการแปรรูปผลิตภัณฑ์เห็ด ติดต่อ :
ฟาร์มเห็ดภูตะวัน คุณศรชัย นุชแหยม โทร.08-6374-8967 19/1 ม.7 ต.โคกแย้ อ.หนองแค จ.สระบุรี 18230