ราคาหมู ที่ผ่านมา ทำให้คนเลี้ยงหมูใจชื้น ดูมีอนาคตสดใสขึ้นมาบ้าง แต่ในทางกลับกันหากในช่วงที่ราคาหมูตกต่ำ ภาพคนเลี้ยงหมู โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อย ต้องนั่งน้ำตาตก เพราะต้นทุนการเลี้ยงสูง แต่ขายราคาขาดทุนตัวละหลายพันบาท ยังคงวนเวียนให้เห็นจนชินตา
การเปิดช็อปจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อหมู
เพราะฉะนั้นแนวทางการแก้ไขปัญหาสำหรับคนเลี้ยงหมู คือ ลดต้นทุน แปรรูป และเปิดช็อปหรือหน้าร้านจำหน่ายเนื้อหมูสดเอง โดยไม่ผ่านเขียงหรือพ่อค้าคนกลาง เช่นเดียวกับ คุณจารุต โชคนำตระกูล หรือ “เฮียฮก” เจ้าของร้านหมู “โชคนำ อินเตอร์ฟู้ดส์” ที่ปัจจุบันลุยเปิดช็อปหน้าร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อหมูดี มีคุณภาพ สดใหม่ สะอาด แม้ช็อปดูพรีเมียม แต่ราคาไม่แพงอย่างที่คิด
โดยปัจจุบันขยายเป็น 3 ช็อป ตั้งอยู่ที่ อ.กบินทร์บุรี ในตัวเมือง จ.สระบุรี ล่าสุดนี้ได้เปิดช็อปใหม่ที่หินกอง สระบุรี และกำลังจะเปิดสำนักงานใหญ่ที่นครนายก ซึ่งแนวความคิดการเปิดช็อปหน้าร้านจำหน่ายเนื้อหมูนั้น คุณจารุตเปิดเผยกับทีมงานนิตยสารสัตว์บกว่า การสร้างหน้าร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์หมูถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด ช่วยแก้ปัญหาวิกฤต ราคาหมู ตกต่ำ โดยการทำแปรรูปให้ครบวงจรมากขึ้น ช่วยเพิ่มรายได้เป็นอย่างดี สร้างความมั่นคง หากคิดจะอยู่ในธุรกิจสุกรต่อไปอย่างยั่งยืน
“ผมตั้งใจขยายช็อปให้ได้ 9 สาขา ภายใต้การบริหารจัดการอย่างค่อยเป็นค่อยไป และในทำเลพื้นที่ที่การคมนาคมสะดวก ได้แก่ จ.ปราจีนบุรี จ.สระแก้ว จ.สระบุรี จ.นครนายก กล่าวคือ สามารถบริหารจัดการได้อย่างทั่วถึงในทุกๆ สาขา
ทั้งนี้สำหรับยอดขายหน้าช็อปในปัจจุบันคิดเป็นค่าเฉลี่ยในขณะนี้ประมาณไม่ต่ำกว่า 10 ตัวต่อสาขา โดยมีผลิตภัณฑ์คุณภาพจำหน่ายในช็อปหลากหลาย อาทิ ผลิตภัณฑ์เนื้อหมู รวมทั้งผลิตภัณฑ์ไก่ ไส้กรอก ไข่ไก่ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ของแบรนด์อื่นๆ ชั้นนำที่ได้คุณภาพวางจำหน่ายอีกด้วย ได้แก่ คาร์กิลล์ ไทยฟู้ดส์ และเบทาโกร เป็นต้น” คุณจารุตกล่าว
ด้านตลาดและช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อหมู
เมื่อกล่าวถึงทิศทางราคาสุกรในตลาดสด คุณจารุตแสดงความคิดเห็นว่าจะเปลี่ยนแปลงแปรผันไปอีกแน่นอน ยกตัวอย่าง ทุกวันนี้ผู้บริโภคหันมากินอาหารที่มีประโยชน์ ‘กินคลีน’ กันมากขึ้น โดยผู้บริโภคฉลาดกิน ฉลาดเลือก และเริ่มมองหาว่าสินค้าตัวใดที่มีกระบวนการผลิตที่ได้คุณภาพ จากต้นน้ำ กลางน้ำ ถึงปลายน้ำ อย่างแท้จริง เพราะฉะนั้นในฐานะเจ้าของฟาร์มหรือคนเลี้ยงหมูจึงต้องสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค โดยการรักษามาตรฐานในทุกขั้นตอนให้ได้
“ช็อปหรือหน้าร้านของผมที่เปิดให้บริการทั้งหมด 3 สาขา ในปัจจุบันมองดูรูปแบบพรีเมียมก็จริง แต่เราขายไม่แพง ในทุกผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายราคาระดับกลางๆ ไม่แพงเกินไป แต่คุณภาพและมาตรฐานของสินค้าเรียกว่าระดับพรีเมียม 100%
ทั้งนี้ในส่วนเรื่องของราคาจำหน่าย เรายึดเกณฑ์และอ้างอิงตามราคาของหมูเป็นในตลาด ซึ่งผมมองว่าการทำช็อปได้ประโยชน์หลายอย่าง ทั้งสำหรับผู้บริโภคได้เลือกซื้อ และบริโภคผลิตภัณฑ์ที่สดใหม่ สะอาด ปลอดภัย ในราคาไม่แพง เพราะซื้อตรงจากหน้าร้าน ไม่ผ่านคนกลาง อีกทั้งในมุมของเจ้าของฟาร์มถ้าเรามีความพร้อมสามารถจัดสร้างช็อปก่อนจะได้เปรียบคู่แข่งขัน” คุณจารุตกล่าวเสริม
การบริหารจัดการฟาร์มหมู
ย้อนกลับมาในเรื่องการพัฒนาสายพันธุ์แม่สุกร 18 เต้า ซึ่งสร้างชื่อให้กับคุณจารุตเป็นอย่างมาก ซึ่งได้ทดลองพัฒนาสายพันธุ์อย่างจริงจังตั้งแต่ปี พ.ศ.2560 และตอนนี้ก็ยังทำอยู่และพัฒนาไปแล้วกว่า 40% ภายในฟาร์ม โดยคุณจารุตกล่าวต่อว่าในฟาร์มที่ อ.กบินทร์บุรี ฟาร์มที่เลี้ยงสุกรจะเป็น “หมูขุน” (จำนวนร่วมหมื่นกว่าตัว) และในส่วนฟาร์มที่ จ.นครนายก จะเป็น “พ่อแม่พันธุ์” (แม่พันธุ์กว่า 2,000 ตัว และพ่อพันธุ์ประมาณ 60 ตัว) โดยสายพันธุ์ที่ใช้ คือ พันธุ์ดูร็อคเจอร์ซี่ สายพันธุ์เดนมาร์ก เหตุเพราะให้ลูกดก
สำหรับการผสมพันธุ์ใช้การผสมเทียมเป็นหลัก ส่วนน้ำเชื้อจะสั่งซื้อมาจากคนรู้จักกัน เป็นน้ำเชื้อสายพันธุ์เดนมาร์ก 100% ที่มีผู้นำเข้ามาจากต่างประเทศอีกทอดหนึ่ง แต่คุณจารุตจะขอแบ่งซื้อลูกหมูเป็นตัวๆ ที่ผ่านการผสมแล้วนำเข้ามาเลี้ยง โดยเหตุผลที่แบ่งลูกหมูเข้ามาเพราะได้ราคาไม่แพง และได้ความแข็งแกร่ง เพราะลูกหมูสามารถปรับสภาพอยู่ในประเทศไทยได้แล้ว
เรื่องของอาหาร คุณจารุตใช้การผสมอาหารเองทั้งหมด และมีใช้ผลิตภัณฑ์อาหารของยี่ห้ออื่นๆ บ้าง (ยูไนเต็ด และคาร์กิลล์) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพ และในส่วนระยะจับ สำหรับหมูขุนระยะจับ 145 วัน หรือไม่เกิน 150 วัน น้ำหนักค่าเฉลี่ยต้องได้ขั้นต่ำ 105 กก.ต่อตัวขึ้นไป ซึ่งจะใช้เกณฑ์ดังกล่าวในการรับซื้อคืนจากลูกเล้าในพื้นที่ให้เป็นไปตามาตรฐานเดียวกันทั้งหมด
ด้านการดูแลสายแม่พันธุ์ ที่ฟาร์มของคุณจารุตไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่ก็เน้นเรื่องความใส่ใจภายในฟาร์มเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ความสำคัญเรื่อง “การคัดพันธุ์” เพื่อให้ได้น้ำนม 18 เต้า กล่าวคือ พ่อและแม่พันธุ์ก็ต้องมี 18 เต้า ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่คุณจารุตสามารถทำได้มาตั้งแต่ปี 2560 อย่างที่กล่าวไป แม้ว่าทุกวันนี้ยังมีแกว่งๆ บ้าง แต่ก็เกิดข้อผิดพลาดน้อยลง
ในด้านการส่งเสริมเกษตรกร หรือลูกเล้า ในพื้นที่ คุณจารุตเผยว่าเป็นไปด้วยดี โดยปัจจุบันมีลูกเล้ากว่า 30 หลังคาเรือน โดยเราการันตีการรับซื้อคืน ส่วนเรื่องการดูแลโรคร้ายต่างๆ ที่เกิดกับสุกรนั้นได้เตรียมการป้องกันแบบสูงสุด และเฝ้าระวังมากที่สุดทั้งในฟาร์มของตนเองและลูกเล้าทุกราย
แนวโน้มในอนาคตของ ราคาหมู
ปัจจุบันคุณจารุตยังคงใช้บริการโรงเชือดในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี โดยกระจายส่งมาให้ที่ช็อปแต่ละสาขา ค่าเฉลี่ยประมาณ 10 ตัว/วัน อย่างไรก็ดีการทำโรงเชือดของตัวเองอยู่ในแนวทางการขยายธุรกิจสุกรของคุณจารุตอย่างแน่นอน 100% ซึ่งแนวโน้มคาดการณ์น่าจะก่อสร้างโรงเชือดของตนเองแล้วเสร็จประมาณปี 2563 นี้
คุณจารุตบอกด้วยว่าหากโรงเชือดแล้วเสร็จ ตั้งเป้ากำลังการผลิตขั้นต่ำ 200 ตัว/วัน และต้องมากกว่า เพราะต้องเผื่อไว้ในช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ ด้วย นอกจากนี้ได้มองการแปรรูปเนื้อสุกรไว้อย่างแน่นอนในอนาคต โดยขยับขยายทีละก้าว ทีละสเตป อย่างมั่นคง ไม่รีบร้อน
ทั้งนี้คุณจารุตบอกด้วยว่าคนที่เลี้ยงหมูแล้วจะประสบความสำเร็จได้นั้น การมีชัยภูมิที่ตั้งนั้นสำคัญที่สุด และเป็นตัวแปรของความสำเร็จ ซึ่งเป็นอีกเรื่องที่สำคัญมากสำหรับการทำธุรกิจสุกรที่ได้มาตรฐานครบวงจร เพราะถึงคุณจะมีการจัดการที่ดีมากแค่ไหน แต่ถ้าเจอโรคระบาด คุณก็ไม่สามารถผลักดันผลผลิตให้ได้ตามเป้า เพราะพาหะนำโรคเป็นอุปสรรคสำคัญมาก และมาจากหลากหลายช่องทาง เช่น จากนก รถ หรือแม้แต่คน
ฝากถึงผู้เลี้ยงหมู และผู้สนใจทำช็อปจำหน่ายผลิตภัณฑ์เนื้อหมู
นอกจากนี้คุณจารุตยังฝากถึงคนเลี้ยงหมู ตลอดจนผู้ที่มีแนวคิดอยากทำร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์หมูของตนเอง โดยคุณจารุตยินดีพร้อมให้คำปรึกษา โดยกล่าวว่า “ฝากถึงคนเลี้ยงหมู และคนที่อยากทำช็อป ถ้ามีความคิด มุ่งมั่น ตั้งใจจริง ที่อยากทำช็อป ผมยินดีให้คำปรึกษา ถ้าคิดที่จะทำ ผมพร้อมเปิดช็อปต้อนรับ พามาดูการบริหารจัดการ และแนะนำเทคนิคในการทำช็อปต่างๆ อาทิ พื้นฐานการมองหาทำเลที่ตั้งต้องอยู่ในชุมชน อยู่ใกล้ตลาด ฯลฯ
ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อยอดขายมาก หรือให้สังเกตเขียง ถ้าจำนวนเขียงเยอะแสดงว่าความต้องการของผู้ซื้อละแวกนั้ยเยอะมาก และควรทำทีละสาขา ค่อยๆ สร้างให้มั่นคง และเมื่อยอดขายอยู่ตัว พนักงานอยู่ตัว แล้วจึงค่อยขยับขยาย
การวางแผนในอนาคต
สำหรับอนาคตผมวางแผนโครงการใหญ่ในการขยายช๊อปสาขาใหม่ในพื้นที่ จ.นครนายก โดยนอกจากชั้นล่างจะสร้างเป็นช็อปจำหน่ายสินค้าหน้าร้านแล้ว ชั้นบนของทำเลที่กำลังดำเนินการสร้างนั้นจะออกแบบเป็นร้านอาหารหมูย่างสไตล์เกาหลี 100% กล่าวคือ ลูกค้าจะได้รับประทานหมูย่างเกาหลี ต้นฉบับเหมือนกับประเทศเกาหลีของแท้ เพียงแต่เราใช้หมูไทยที่ได้คุณภาพมาจำหน่าย
โดยจะสร้างกิมมิค หรือจุดเด่นของทางร้าน คือ ให้ลูกค้าซื้อเนื้อหมูจากหน้าช็อป แล้วเดินขึ้นไปร้านอาหารชั้นบน ปิ้งย่างรับประทานได้ทันที โดยร้านอาหารหมูย่างเกาหลีของแท้ 100% นี้ วางแผนการจัดสร้างให้แล้วเสร็จในปี พ.ศ.2563 นี้อย่างแน่นอน
สุดท้ายนี้สิ่งที่ผมอยากจะบอก คือ การทำธุรกิจใดๆ ก็ตามแต่ เราต้องก้าวให้ไวตลอด เพราะคู่แข่งมีอยู่แล้ว และพร้อมจะแซงคุณไปทุกเมื่อ แต่หากเราทำได้ก่อน แม้จะยังไม่สำเร็จ แต่เราย่อมได้เปรียบคนอื่นก่อน ทั้งในเรื่องของความรู้ ประสบการณ์ ฐานลูกค้า และทำเล ทั้งนี้ผมมองตัวเองว่ายังไม่ประสบความสำเร็จ เพียงแต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำอยู่ทุกวันนี้เป็นแนวทางการทำงานที่ต้องทำ เพราะที่ทำก็เพื่อให้ธุรกิจของเราอยู่รอด และอยู่ได้อย่างยั่งยืนต่อไป”
ขอขอบคุณ
คุณจารุต โชคนำตระกูล (เฮียฮก) เจ้าของร้านหมู “โชคนำ อินเตอร์ฟู้ดส์”
ที่อยู่ : ร้านหมูโชคนำ อินเตอร์ฟู้ดส์
9/9 หมู่ 8 ตำบลห้วยทราย อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี 18230