การให้ วิตามินสัตว์ ในฟาร์มไก่ไข่
การเลี้ยงสัตว์ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นสัตว์บก หรือสัตว์น้ำ ปัจจัยสำคัญที่เกษตรกรในอดีตมักมองข้าม นั่นคือ การให้ “ วิตามินสัตว์ ” เสริม เพราะมองว่าเป็นการเพิ่มต้นทุน แต่ในปัจจุบันวิตามินนั้นเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะในฟาร์มไก่ไข่ และไก่พ่อแม่พันธุ์ เพื่อสุขภาพที่ดีของสัตว์ และผลผลิตที่จะออกมาในอนาคต ถึงแม้ว่าปัจจุบันโรงงานผลิตอาหารสัตว์จะมีการเสริมวิตามินไปในสูตรอาหารบ้างแล้ว แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของสัตว์
เนื่องจากคุณค่าของวิตามินบางส่วนได้ถูกทำลายไปจากกระบวนการผลิตอาหารที่ต้องใช้ความร้อนสูง ด้วยเหตุนี้เกษตรกรจึงจำเป็นต้องหาซื้อวิตามินมาเสริมให้กับสัตว์ของตนนั่นเอง
คุณสมบัติของวิตามิน
วิตามิน เป็นสารอินทรีย์ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของสัตว์ ถึงแม้จะใช้ในปริมาณที่น้อย แต่จำเป็นต้องใช้ เนื่องจากมีวิตามินบางตัวที่สัตว์ไม่สามารถผลิตเองได้ หรือผลิตได้ในปริมาณที่น้อย ส่งผลให้สัตว์ไม่แข็งแรง รวมถึงผลผลิตไข่ที่ออกมายังมีคุณภาพและปริมาณที่น้อย สาเหตุจากการขาดวิตามิน
วิตามินสามารถแบ่งออกได้ 2 กลุ่ม ดังนี้ คือ
- วิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น วิตามินเอ ดี อี และเค
- วิตามินที่ละลายได้ในน้ำ เช่น วิตามินบีรวม และวิตามินซี เป็นต้น
ข้อดีของวิตามิน
วิตามินเอ
มีหน้าที่ช่วยในการเจริญเติบโตของสัตว์ ช่วยสร้างกระดูกให้แข็งแรง ช่วยบำรุงสายตาของสัตว์ ช่วยทำให้เยื่อบุต่างๆในร่างกายแข็งแรง เช่น เยื่อบุลูกตา ผิวหนัง อวัยวะย่อยอาหาร อวัยวะหายใจ ท่อขับถ่าย และอวัยวะสืบพันธุ์ ซึ่งจะช่วยให้เนื้อเยื่อดังกล่าวมีความชุ่มชื้น และมีลักษณะเป็นมัน ช่วยป้องกันหรือขัดขวางไม่ให้แบคทีเรียหรือเชื้อโรคเข้าไปได้ง่าย และอาการของการขาดวิตามินเอ คือ การเจริญเติบโตช้าลง, ผลผลิตไข่ลดลง รวมถึงอัตราการฟักออกลดลง, มีปัญหาเกี่ยวกับระบบตา เกิดโรคตาบอดในที่มืด, กระจกตาแห้ง และมีหนองข้นขาวในตา, ผิวหนังแห้งเป็นเกล็ด-ตุ่ม และความต้านทานโรคลดลง
วิตามินดี
มีหน้าที่ช่วยกระตุ้นการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยในการสร้างกระดูกและเปลือกไข่ และอาการของการขาดวิตามินดี คือ ผลผลิตไข่ลดลง ไข่เปลือกบาง เกิดโรคกระดูกอ่อนในลูกไก่ และโรคกระดูกเปราะในไก่ใหญ่ รวมถึงการเจริญเติบโตที่ช้าลง
วิตามินอี
มีหน้าที่ป้องกันการเสื่อมของกล้ามเนื้อ และการตายของเซลล์ตับ ช่วยป้องกันการเกิด Oxidation ของวิตามินเอในร่างกาย อาการของการขาดวิตามินอี คือ หากพบในไก่เพศผู้ ไก่จะเป็นหมัน และในไก่เพศเมียจะให้ไข่ลดลง รวมถึงการฟักออกไข่ต่ำลง หากขาดวิตามินอีในปริมาณที่มากจะมีอาการเป็นอัมพาตที่ขา ที่ปีก และคอ และยังมีโอกาสเป็นกล้ามเนื้อฝ่อเล็ก และลีบ ในที่สุด
วิตามินเค
มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเกล็ดเลือด หากสัตว์ขาดวิตามินเค โดยเฉพาะในแม่ไก่ไข่ จะทำให้ไข่ที่ออกมาไม่สมบูรณ์ และเมื่อนำไข่นั้นไปฟักจะทำให้ลูกไก่ที่ออกมาไม่แข็งแรง เกิดมีบาดแผล และทำให้เลือดไหลไม่หยุดอาจถึงตายได้
วิตามินบี 1
มีหน้าที่ช่วยในการทำงานของระบบทางเดินอาหาร เกี่ยวข้องกับระบบการย่อยอาหารและการขับถ่าย รวมถึงป้องกันโรคสันนิบาตในสัตว์ปีกได้อีกด้วย หากสัตว์ขาดวิตามินบี 1 ในลูกไก่ จะทำให้การเจริญเติบโตช้า มีอาการทางประสาท แสดงอาการเดินหมุน คอเป็นอัมพาต ในไก่ไข่ หรือไก่พันธุ์ อัตราการให้ไข่ลดลง
วิตามินบี 2
มีหน้าที่ช่วยป้องกันการอักเสบของผิวหนัง มุมปาก และระบบประสาท หากสัตว์ขาดวิตามินบี 2 สัตว์จะแสดงอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร และน้ำหนักลด ในลูกไก่จะมีอาการเป็นโรคง่อย และเจริญเติบโตช้า ลูกไก่จะเดินด้วยข้อเท้า และนิ้วเท้าจะงอพับเข้าข้างใน ส่วนในไก่ไข่จะทำให้การออกไข่ลดลง และเปอร์เซ็นต์การฟักออกต่ำ
วิตามินบี 3
มีหน้าที่เป็นองค์ประกอบที่สำคัญต่อการ Metabolism ของคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน วิตามินบี 3 เป็นวิตามินที่ละลายตัวได้ยาก ทนต่อความร้อน และกรด-ด่าง ได้เป็นอย่างดี หากขาดวิตามิน บี 3 ในไก่จะทำให้ลิ้นมีสีดำ และมีแผลอักเสบภายในช่องปาก และส่วนบนของหลอดคอ นอกจากนี้ไก่จะลดปริมาณการกินอาหาร ส่งผลให้การเจริญเติบโตช้าลง การงอกของขนช้า เกิดอาการของโรคเอ็นเคลื่อน ทำให้ข้อขาบวมหรือผิดรูป
วิตามินบี 5
มีหน้าที่จำเป็นในการสร้างพอร์ไพริน และเกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล สังเคราะห์พวกสเทอรอยด์ ออร์โมน กรดไขมัน และเป็นสาระสำคัญในขบวนการเมตาบอลิซึมของเซลล์ต่างๆ ที่จำเป็นต่อระบบประสาทและผิวหนัง หากสัตว์ขาดวิตามินบี 5 จะทำให้การเจริญเติบโตช้า การงอกของขนไม่ดี มุมปากแตก และตกสะเก็ด แล้วลามไปที่เท้า ในลูกไก่มักเป็นในอายุ 3 สัปดาห์ แล้วจะตายภายในสัปดาห์ที่ 4-5 ในไก่พันธุ์ ทำให้การฟักออกลดลง และลูกไก่ที่ฟักออกมาจะตายภายใน 2-3 วัน
วิตามินบี 6
มีหน้าที่เป็นส่วนประกอบของโคเอนไซม์ในขบวนการเมตาโบลิซึมของโปรตีน กรดอะมิโน และกรดไขมันในร่างกาย จำเป็นต่อสุขภาพของผิวหนัง หากขาดวิตามินชนิดนี้ไปในลูกไก่จะโตช้า วิ่งไปทั่วไม่มีจุดหมาย มีอาการชักกระตุก และอาการทางประสาทอื่นๆ และตายในที่สุด
วิตามินบี 7
มีหน้าที่เป็น Co-enzyme ในระบบการเคลื่อนย้ายคาร์บอนไดออกไซด์ให้แก่สารเมตตาบอไลท์ต่างๆ และยังเป็นไบโอตินช่วยป้องกันโรคเอ็นเคลื่อน และป้องกันโรคผิวหนังตกสะเก็ดในสัตว์ปีก หากขาดวิตามินในลูกไก่ทำให้เกิดอาการเอ็นเคลื่อน
วิตามินบี 9
เป็นกรดโฟลิก มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการสังเคราะห์ Purines และ Pyrimidines ซึ่งเป็นสารประกอบที่สำคัญที่จะนำไปสร้าง Nucleic Acid ถ้าร่างกายมี Nucleic Acid ไม่เพียงพอจะกระทบต่อการสร้างเม็ดเลือด กรดโฟลิคเป็นวิตามินที่คงตัว ไม่ถูกทำลายง่าย หากขาดวิตามิน บี 9 ในลูกไก่จะทำให้การเจริญเติบโตช้า โลหิตจาง และในไก่พันธุ์จะทำให้การฟักออกเป็นตัวลดลง
วิตามินบี 12
มีหน้าที่ช่วยในการสร้างฮีโมโกลบิน และการเจริญเติบโตของเม็ดเลือด และยังเป็นโคเอนไซม์ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาในขบวนการเมตาลิซึมของโปรตีน ไขมัน และคาร์ไบไฮเดรต หากวิตามินนี้จะทำให้การเจริญเติบโตชะงัก แต่ไม่กระทบกระเทือนต่อการให้ไข่ แต่จะทำให้เปอร์เซ็นต์การฟักออกต่ำ ในลูกไก่ที่ฟักออกมาใหม่ๆ ถ้าขาดวิตามินนี้จะทำให้มีกระดูกผิดปกติคล้ายๆ กับการเป็นโรคเอ็นเคลื่อน
โคลีน
มีหน้าที่เป็นส่วนประกอบของ phospholipid lecithin ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเซลล์และเนื้อเยื่อในร่างกาย ดังนั้นโคลีนจึงจำเป็นสำหรับการสร้างและบำรุงรักษาเซลล์ และยังเป็นส่วนประกอบของเลซิติน ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวพาไขมันออกจากตับป้องกันการสะสมไขมันในตับ หากขาดโคลีนจะทำให้ไก่มีการเจริญเติบโตช้า มีไขมันสะสมในตับในรูปของไตรกลีเซอไรด์
วิตามินซี
มีหน้าที่ช่วยรักษาผนังเส้นเลือดฝอยให้มีความเหนียวนุ่ม และยืดหยุ่นดี ช่วยให้ประสาทหรือเนื้อเยื่อที่ชำรุดกลับคืนสู่สภาวะเดิมได้รวดเร็วขึ้น และวิตามินซียังจำเป็นต่อการสร้างกระดูก หากขาดวิตามินซีจะมีอาการโลหิตจาง กระดูกอ่อน และข้อต่อบวม
ด้านตลาดและช่องทางจำหน่ายวิตามินสำหรับสัตว์
ปัจจุบันในท้องตลาดมีวิตามินมากมายหลากหลายยี่ห้อที่วางจำหน่ายอยู่ แต่การคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดี และมีคุณภาพนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย วันนี้นิตยสารสัตว์บกขอแนะนำบริษัทน้องใหม่ในวงการปศุสัตว์ ได้แก่ บริษัท เอชพีเอส เทรด จำกัด ผู้จัดจำหน่ายหัวอาหารไก่ไข่คุณภาพ และวิตามินคุณภาพมาตรฐานจากประเทศเบลเยียม โดยมีผลิตภัณฑ์ดังนี้
–VITA FERTIFOR : มีส่วนผสมของวิตามินเค, วิตามินบีรวม, โคลีน คลอไรด์ และกรดอะมิโน มีส่วนช่วยเพิ่มกระบวนการเมทาโบลิซึม ช่วยเพิ่มจำนวนไข่มีเชื้อ ช่วยในการพักฟื้นตัวของสัตว์ให้เร็วขึ้น และยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของสัตว์ อัตราการใช้ในไก่พ่อแม่พันธุ์ สัดส่วน 100-200 มล./น้ำ 1,000 ลิตร
–VITA LEVO : มีส่วนผสมของซอร์บิทอล (สารให้ความหวาน) โคลีน คลอไรด์ กรดอะมิโน สารสะกัดจากอาร์ติโค และวิตามินบี 1, 6, 12 มีส่วนช่วยเพิ่มการช่วยย่อยอาหาร และเพิ่มความอยากอาหาร ช่วยในการพักฟื้นตัวของสัตว์ให้เร็วขึ้น ช่วยเพิ่มกระบวนการเมทาโบซึม ป้องกันโรคไขมันที่สะสมในตับ อัตราการใช้ในสัตว์ปีก สัดส่วน 250-1,000 มล./น้ำ 1,000 ลิตร
–VITA ACID LIQUID : มีส่วนผสมของกรดฟอร์มิก กรดโพรพิโอนิก แอมโมเนียมฟอร์เมท แร่ธาตุ ทองแดง และสังกะสี มีส่วนช่วยปรับปรุงสุขอนามัยของน้ำดื่ม ช่วยในการย่อยอาหารของสัตว์ โดยลดค่า pH ภายในระบบทางเดินอาหาร เพิ่มความสามารถในการย่อยสารอาหารในลำไส้ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ในน้ำดื่ม อัตราการใช้ในสัตว์ปีก สัดส่วน 300-500 มล./น้ำ 1,000 ลิตร
–VITA BIOTIC LIQUID : มีส่วนผสมของกรดลอริก กรดไพพิโอนิก โมโนกลีเซอร์ไรด์ อินนูลิน น้ำมันหอมระเหย ออริกาโน มีส่วนช่วยส่งเสริมจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในลำไส้ ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อโรคในลำไส้ รักษาอัตราการเจริญเติบโตและสุขภาพที่ดีของสัตว์ อัตราการใช้ในสัตว์ปีก สัดส่วน 1-2 ลิตร/น้ำ 1,000 ลิตร
–VITA DRY LITTER : มีส่วนผสมของทองแดง กรดซิตริก มีส่วนช่วยลดการติดเชื้อในลำไส้ และยังมีส่วนผสมที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของสัตว์ ช่วยลดความเครียดจากความร้อนในกรง ช่วยการทำงานของระบบลำไส้ของสัตว์ อีกทั้งทองแดงยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนาของกระดูกที่เหมาะสม และคุณภาพของเปลือกไข่ อัตราการใช้ สัดส่วน 150-300 มล./น้ำ 1,000 ลิตร
–VITA ESSENTIAL PLUS : มีส่วนผสมของน้ำมันยูคาลิปตัส เมนทอล น้ำมันโอริกาโน น้ำมันไทม์ วิตามินซี ช่วยป้องกันและรักษาอาการเครียดจากความร้อน ช่วยต้านเชื้อจุลินทรีย์ และเชื้อรา ช่วยต้านทานโรคที่เกิดจากความผิดปกติของระบบทางเดินหายใจ ช่วยเพิ่มน้ำหนักตัว อัตราการใช้ 100-200 มล./น้ำ 1,000 ลิตร หรือ 200 มล./น้ำ 10 ลิตร/ไก่ 20,000 ตัว ด้วยการสเปรย์
–VITA VIT Ese 200/50 : มีส่วนผสมของวิตามินอี 200,000 มิลลิกรัม และยังมีซิลิเนียม 50 มิลลิกรัม มีส่วนช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพป้องกันความเครียด และช่วยเพิ่มผลผลิต เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มประสิทธิภาพการเจริญเติบโต อัตราการใช้ 250-1,000 มล./น้ำ 1,000 ลิตร
–VITA MULTI VITA STRESS PLUS : มีส่วนผสมของวิตามินเอ 45,000,000 IU, วิตามินดี 3 10,000,000 IU, วิตามินอี 3 3,250 มิลลิกรัม, วิตามินเค, วิตามินบีรวม, วิตามินซี และกรดอะมิโนจำเป็นหลากหลายชนิด มีส่วนช่วยชดเชยการดูดซึมสารอาหารที่น้อยในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฟักออก ป้องกันการขาดวิตามิน และกรดอะมิโน ปรับปรุงประสิทธิภาพของสัตว์ อัตราส่วนที่ใช้ 1 มล./น้ำ 10 ลิตร
–VITA PHOSCAL : มีส่วนผสมของแคลเซียม ฟอสฟอรัส โคลีน คลอไรด์ แมกนีเซียม โซเดียม แมงกานีส สังกะสี เหล็ก และทองแดง วิตามินชนิดนี้มีส่วนช่วยรองรับความต้องการของแร่ธาตุที่จำเป็นในแต่ละวัน มีความสำคัญต่อการสร้างเปลือกไข่ และยังจำเป็นสำหรับการพัฒนาโครงกระดูก และการสร้างกระดูกในสัตว์ที่กำลังเจริญเจริญเติบโต และยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการให้ผลผลิตอีกด้วย อัตราการใช้ 1,000 มล./น้ำ 1,000 ลิตร
–VITA TF GOLD PLUS : มีส่วนผสมของผนังเซลล์ยีสต์ วิตามินบีรวม น้ำมันโอริกาโน กรดซิตริก ทองแดง มีส่วนช่วยทำให้สัตว์ฟื้นตัวจากการได้รับสารพิษจากเชื้อรา หรือจากสภาวะความเครียดจากความร้อน ป้องกันผลกระทบด้านลบของการกินอาหารที่ลดลง ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน และการตอบสนองต่อการฉีดวัคซีน ป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อรา และลดอัตราการเกิดโรค อัตราการใช้ 1 มล./น้ำ 2-4 ลิตร
–VITA-VIT AD3E 100/20/40 : มีส่วนผสมของวิตามินเอ 100,000,000 IU, วิตามินดี 3 20,000,000 IU, วิตามินอี 40,000 มิลลิกรัม มีส่วนช่วยการป้องกันและรักษาอาการขาดวิตามิน A, D3 และ E ช่วยป้องกันหรือรักษาความเครียด เพิ่มประสิทธิภาพการใช้อาหาร (FCR) ชดเชยการดูดซึมสารอาหารที่น้อยในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังฟักออก อัตราการใช้ 250-500 มล./น้ำ 1,000 ลิตร
–VITA VIT COMPLEX PLUS : มีส่วนผสมของวิตามินเอ 50,000,000 IU, วิตามินดี 20,000,000 IU, วิตามินอี 30,000 มิลลิกรัม วิตามินเค วิตามินบีรวม วิตามินซี โคลีน คลอไรด์ มีส่วนช่วยในการได้รับหรือการดูดซึม ป้องกันการขาดวิตามิน ปรับปรุงประสิทธิภาพของสัตว์โดยรวม อัตราการใช้ 100-150 มล./น้ำ 1,000 ลิตร
หากสนใจหรือสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ติดต่อ บริษัท HPS TRADE จำกัด โทร.02-223-3194
อ้างอิง : นิตยสารสัตว์บก ฉบับที่ 316/2562