การปลูกข่าแดง พืชสมุนไพร สร้างรายได้ เทคนิคปลูก 1 กอ ได้น้ำหนัก 8-10 กิโลกรัม

โฆษณา
AP Chemical Thailand

“ข่า” เป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์ มีสรรพคุณช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร และโรคผิวหนังได้ มีประโยชน์ทางโภชนาการ นำมาทำเครื่องปรุงอาหาร ทำน้ำพริก แกงได้หลายชนิด เพราะฉะนั้นข่าจึงเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่เกษตรกรสามารถปลูกเพื่อจำหน่ายสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว ซึ่งเป็นช่องทางทำมาหากินได้อีกหนึ่งช่องทาง “ข่า” ที่เกษตรกรไทยนิยมปลูกมากที่สุด คือ ” การปลูกข่าแดง ” (บางท้องที่เรียก ข่าหยวก ข่าใหญ่ ข่าหลวง เป็นต้น) ในขณะที่สายพันธุ์ข่าที่พบในบ้านเราจะแบ่งออกได้ 4 ชนิด คือ

  • ข่าลิง ซึ่งเป็นข่าที่มีเหง้าขนาดเล็ก และมีกลิ่นฉุน
  • ข่าเหลือง จัดเป็นข่าใหญ่ที่มีเนื้อสีเหลือง กลิ่นไม่ฉุน บางท้องที่นิยมนำมาใส่ในต้มข่าไก่
  • ข่าหลวง จัดเป็นข่าที่มีขนาดใหญ่ มีสีขาวอวบ เนื้อสีขาว และมีกลิ่นอ่อน
  • ข่าแดง จัดเป็นข่าใหญ่ขนาดกลาง มีกลิ่นฉุน และเป็นข่าที่เกษตรกรไทยนิยมปลูกมากที่สุด

“ข่า” ยังจัดเป็นพืชสมุนไพร หรือเครื่องแกงพื้นบ้าน ที่นำมาเป็นส่วนประกอบของน้ำพริกนานาชนิด ประโยชน์ทางด้านการแพทย์แผนไทย มีสรรพคุณช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร และโรคผิวหนังได้

1.คุณอี๊ด ขจรกิดาการ (ซ้าย) และน้องสาว (ขวา)
1.คุณอี๊ด ขจรกิดาการ (ซ้าย) และน้องสาว (ขวา)

การปลูกข่าแดง

ที่บ้านเลขที่ 857 ม.5 ต.หนองใหญ่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี เป็นอีกแหล่งหนึ่งที่มีการ “ปลูกข่าจำหน่าย” เป็นอาชีพเสริมนานมากว่า 10 ปี ด้วยเพราะข่าแดงบางที่เรียกข่าหยวก เป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งที่ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก

คุณอี๊ด ขจรกิดาการ เป็นเกษตรกรที่ผู้เขียนได้รู้จักผูกพันกับครอบครัวของท่านมานานกว่า 30 ปี ท่านมีประสบการณ์ปลูกข่าจำหน่ายมานานกว่า 20 ปี ท่านเล่าให้ฟังว่า แต่ก่อนสมัยที่คุณยายทุม (คุณแม่ของท่าน) มีอาชีพทำไร่ ทำนา เท่านั้น ส่วนข่านั้นยังไม่ได้สนใจปลูกจริงจังเท่าไหร่ ต่อมาได้มีโรงงานน้ำตาลเข้ามาก่อตั้งในอำเภอ

คุณยายทุมจึงนำพันธุ์ข่ามาปลูก และนำไปจำหน่ายให้กับพนักงานในโรงงาน สมัยนั้นปลูกไว้ไม่กี่กอ ก็สามารถนำไปจำหน่าย เป็นการเพิ่มรายได้จากการทำไร่ ทำนา ได้เป็นอย่างดี และต่อมาก็เลิกปลูกไประยะหนึ่ง เนื่องจากลูกๆ โตและไปทำงานที่อื่นกันหมด

พี่อี๊ดเล่าว่ามาเริ่มทดลองปลูกกันใหม่ตอนที่มีหลาน และต้องเลี้ยงหลานอยู่กับบ้าน ไม่มีอะไรทำ คุณยายทุมจึงแนะนำให้ลองปลูกข่าไว้จำหน่ายใหม่ เริ่มปลูกไม่กี่กอ จนสามารถขยายพันธุ์ปลูกได้ถึง 1 ไร่เศษ จากนั้นก็มีการปลูกจำหน่ายเป็นรายได้เสริมมาจนทุกวันนี้

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ผู้เขียนเองเห็นว่าการปลูกข่านั้นเป็นรายได้เสริมที่ดี จึงได้นำเรื่องราวการปลูกข่าเพื่อจำหน่ายเป็นรายได้เสริมมานำเสนอในคอลัมน์นี้

2.แปลงปลูกข่า
2.แปลง การปลูกข่าแดง

สภาพพื้นที่ปลูกข่าแดง

ใน การปลูกข่าแดง ให้ประสบผลสำเร็จ ประการแรก คือ สภาพดินปลูกควรจะเป็นดินร่วนปนทราย และจะต้องไม่มีน้ำท่วมขัง ไม่ควรปลูกข่าในสภาพพื้นที่ดินเหนียว เพราะจะลงหน่อน้อย เริ่มต้นจากการเตรียมดิน คือ ไถดะ ไถแปร และไถพรวน  ชักร่องเหมือนกับการปลูกอ้อย  ระยะปลูกที่แนะนำ คือ ระหว่างกอและระหว่างแถว 80×80 เซนติเมตร  พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ประมาณ 2,500 หลุม (เกษตรกรบางรายมีพื้นที่น้อยอาจจะปลูกระยะชิดกว่านี้ อาจจะปลูกถึง 3,000 หลุม ก็ได้)

ในการเตรียมต้นพันธุ์ข่าแดง จะใช้เหง้าอ่อนหรือเหง้าแก่ก็ได้ มีข้อดี ข้อด้อย ต่างกัน คือ เมื่อใช้เหง้าอ่อนปลูกจะพบการแตกเหง้า และเจริญเติบโตเร็ว แต่จะใช้เงินลงทุนในการซื้อพันธุ์สูง ในพื้นที่ปลูกข่าแดง 1 งาน จะต้องใช้เงินลงทุนในการซื้อเหง้าอ่อนถึง 6,000 บาท แต่ถ้าจะใช้เหง้าแก่ทำพันธุ์จะพบว่าต้นเจริญเติบโตช้ากว่า

แต่จะประหยัดค่าพันธุ์ปลูกกว่าใช้เหง้าอ่อนถึงเท่าตัว เหง้าข่าที่นำมาปลูกนั้นจะใช้ที่ขุดมาจากแปลงและสลัดดินออก แยกเหง้าไปปลูกได้เลย หรือเกษตรกรบางรายยอมเสียเวลานำเหง้าที่ขุดมาจากแปลงนำมาตัดรากเก่าทิ้งเพื่อให้รากใหม่เจริญออกมาเต็มที่ก่อน แล้วค่อยนำไปปลูกก็มี

3.การให้น้ำแบบวิธีปล่อยเข้าร่อง
3.การให้น้ำแบบวิธีปล่อยเข้าร่อง

การให้น้ำและปุ๋ยต้นข่า

ในการปลูกข่าให้ขุดหลุมลึกประมาณ 1 หน้าจอบ รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยอินทรีย์พวกมูลสัตว์ต่างๆ วางเหง้าข่าลงหลุมแล้วกลบดินให้เรียบร้อย รดน้ำให้ชุ่ม  การปลูกข่าแดง จะมีการให้น้ำแบบวิธีปล่อยเข้าร่องเหมือนกับการปลูกอ้อย หรือข้าวโพด การให้น้ำจะเน้นในช่วงฤดูแล้ง จะให้น้ำ 5-7 วัน หลักการกว้างๆ ของการให้น้ำ ก็คือ อย่าให้หน้าดินแห้ง ในช่วงฤดูฝนการให้น้ำไม่มีความจำเป็น ใน การปลูกข่าแดง 1 หลุม จะใช้เหง้าข่าประมาณ 0.5-1 กิโลกรัม

สำหรับพี่อี๊ดมีประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากคนอื่น คือ ไม่ใส่ปุ๋ยมากนัก  เพราะจะทำให้ข่ามีขนาดโตเกินไป ทำให้ขายยาก แม่ค้าที่รับซื้อชอบข่าที่มีเหง้า หรือหัวเล็กๆ เพราะเวลานำไปมัดเป็นกำจะทำให้ดูสวย และขายง่าย การดูแลรักษาข่าของพี่อี๊ดจึงง่ายมาก ไม่ต้องใช้ปุ๋ยอะไรเลย เนื่องจากดินที่ปลูกเป็นดินดี มีแร่ธาตุอยู่แล้ว

โฆษณา
AP Chemical Thailand

อย่างไรก็ตามปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักมีความสำคัญต่อการปลูกข่า ถ้าสภาพดินมีอินทรียวัตถุน้อยควรใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ในช่วงเตรียมแปลงก่อนปลูก ใน การปลูกข่าแดง ช่วงแรกอาจจะพบปัญหาเรื่องหญ้า จะต้องกำจัดวัชพืชก่อน มีการใช้แรงงานคนถางหญ้าเพียง 3 ครั้ง เท่านั้น เมื่อกอข่าเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว ใบข่าจะปกคลุมดิน ปัญหาเรื่องวัชพืชจะลดน้อยลง หลังจากที่ลงแปลงปลูกข่าได้ประมาณ 3 เดือน ก็เริ่มเก็บหน่อข่าอ่อนได้แล้ว
แต่ข่าจะให้หน่ออ่อนเต็มที่เมื่อข่าอายุได้ประมาณ 8 เดือน-1 ปี และสามารถเก็บได้ยาวไปจนถึง 10 ปี

4.การปลูกข่าแดง ขุดขึ้นมาเพื่อนำมาตัดแต่งให้ดูดี
4.การปลูกข่าแดง ขุดขึ้นมาเพื่อนำมาตัดแต่งให้ดูดี

ด้านตลาดและช่องทางจำหน่ายข่า

สำหรับเกษตรกรที่คิดจะปลูกข่าแดงจะต้องทราบข้อมูลเบื้องต้นก่อนว่าหลังจากปลูกข่าลงดิน เมื่อต้นข่ามีอายุต้นได้ 8 เดือน-1 ปี ข่าที่ขุดได้ในช่วงอายุนี้จะเป็นข่าอ่อนทั้งหมด ซึ่งตลาดรับซื้อส่วนใหญ่ต้องการข่าอ่อนเป็นหลักก็จริง แต่กอข่าที่มีอายุระหว่าง 8 เดือน-1 ปี นั้น ยังมีขนาดกอเล็ก เมื่อขุดข่าขึ้นมาจะได้น้ำหนักเฉลี่ย 3-5 กิโลกรัม ต่อกอเท่านั้น

ช่วงที่เหมาะต่อการขุดข่าแล้วได้กำไรสูงสุด ควรขุดข่าที่มีอายุต้น 1 ปี ถึง 1 ปีครึ่ง ซึ่งใน 1 กอ จะขุดข่าได้น้ำหนักเฉลี่ย 8-10 กิโลกรัม และมีสัดส่วนของข่าอ่อนประมาณ 70% และข่าแก่อีก 30% แต่ถ้าเกษตรกรขุดข่าที่มีอายุกอตั้งแต่ปีครึ่งขึ้นไป จะได้ข่าแก่ที่มีสัดส่วนมากขึ้นตามลำดับ

5.ข่าที่เก็บได้แล้ว
5.ข่าที่เก็บได้แล้ว

ฝากถึงผู้ที่สนใจปลูกข่า

ก่อนจบในคอลัมน์นี้  ผู้เขียนก็อยากจะฝากอาชีพการปลูกข่าไว้ให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของเกษตรกรไทย ซึ่งเชื่อว่าขณะนี้มีกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยพื้นที่ที่ปลูกในเชิงพาณิชย์ ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา อ่างทอง เพชรบุรี ราชบุรี อุบลราชธานี และนครสวรรค์ เป็นต้น ในสภาพของความเป็นจริง “ข่า” เป็นพืชสวนครัวอีกชนิดหนึ่งที่ใช้เงินลงทุนน้อย ถ้ามีการจัดการที่ดี ไม่จำเป็นจะต้องใช้สารฆ่าแมลงฉีดพ่น แต่ถ้าจะปลูกข่าในเชิงพาณิชย์ให้ประสบความสำเร็จ ตัวเกษตรกรจะต้องมีความขยัน และใจเย็น

6.นำข่ามาล้างในบ่อซีเมนต์
6.นำข่ามาล้างในบ่อซีเมนต์

สรรพคุณของข่า

และสุดท้ายเป็นของแถมค่ะ คือสรรพคุณของข่าแดงซึ่งเก็บมาฝากกันเล็ก ๆ น้อย ๆ ดังนี้

  • เป็นยาแก้ท้องขึ้น ท้องอืดเฟ้อ ขับลม
  • แก้อาหารเป็นพิษ
  • เป็นยาแก้ลมพิษ
  • เป็นยารักษากลากเกลื้อน โรคผิวหนัง ติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา

วิธีและปริมาณที่ใช้

รักษาท้องขึ้น ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม แก้ท้องเดิน (ที่เรียกโรคป่วง) แก้บิด อาเจียน ปวดท้อง
ใช้เหง้าข่าแก่สดยาวประมาณ 1 นิ้ว ตำให้ละเอียด เติมน้ำปูนใส ใช้ดื่มวันละ 3 เวลา หลังอาหาร

โฆษณา
AP Chemical Thailand

รักษาลมพิษ
ใช้เหง้าข่าแก่ๆ ที่สด 1 แง่ง ตำให้ละเอียด เติมเหล้าโรงพอให้แฉะๆ ใช้ทั้งเนื้อและน้ำทาบริเวณที่เป็นลมพิษบ่อยๆ จนกว่าจะดีขึ้น

รักษากลากเกลื้อน โรคผิวหนัง
ใช้เหง้าข่าแก่เท่าหัวแม่มือ ตำให้ละเอียด ผสมเหล้าโรง ทาที่เป็นโรคผิวหนังหลายๆ ครั้งจนกว่าจะหาย

สนใจติดต่อที่ คุณอี๊ด ขจรกิดาการ 857 ม.5 ต.หนองใหญ่ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี 20190 โทร.087-7609-3911

อ้างอิง : นิตยสารพลังเกษตร