ในปี 2563 นี้ เป็นข่าวดีของเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่เนื้อในประเทศไทย เนื่องด้วยราคาไก่เนื้อหน้าฟาร์มปีที่ผ่านมาประมาณ 35-36 บาท/กก. สูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว และราคาขายในปัจจุบัน อยู่ที่ 35 บาท/กก. และการส่งออกไก่สดแช่แข็ง และเนื้อไก่แปรรูป มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โรงเรือนเลี้ยงไก่ระบบปิด
ซึ่งอาจเป็นอานิสงส์จากโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร และคนส่วนใหญ่ซึ่งใส่ใจสุขภาพมากยิ่งขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ตลาดไก่เนื้อเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา
จุดเริ่มต้นการเลี้ยงไก่เนื้อ
วันนี้ นิตยสารสัตว์บก จึงถือโอกาสเข้ามาสัมภาษณ์เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่เนื้อแห่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี รายหนึ่ง ถึงกลยุทธ์ในการเลี้ยงไก่เนื้อ และแนวความคิดเกี่ยวกับการเลี้ยงไก่เนื้อในระบบคอนแทรคกับบริษัทเอกชน อย่าง บริษัท บิ๊กฟู้ดส์ จำกัด
คุณอรรถพล เอกลาภ หรือเรียกสั้นๆ ว่า คุณอัด เจ้าของฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อ ดาวเหนือฟาร์ม ซึ่งเข้ามาสานต่อธุรกิจการเลี้ยงไก่เนื้อต่อจากคุณพ่อ คุณอรรถพลย้อนเล่าย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นในการทำฟาร์มเมื่อ 20 ปีก่อนว่า คุณพ่อมีอาชีพทำนามาก่อน แล้วจึงหันมาขุดบ่อเลี้ยงปลา และได้มีโอกาสศึกษาการเลี้ยงไก่จากผู้ที่เคยเลี้ยงในพื้นที่ใกล้เคียง
จึงลองมาเลี้ยงดูบ้าง เริ่มต้นขุดบ่อขนาด 7 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมด 13 ไร่ และสร้างโรงเรือนเป็นแบบเล้าน้ำ (สร้างโรงเรือนบนบ่อปลา) แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องด้วยโรงเรือนมีขนาดใหญ่เกินไป ทำให้น้ำเสียมากกว่า ปลาไม่โต จนมีคนมาแนะนำคุณพ่อให้ขุดบ่อหมดทั้ง 13 ไร่ เลยผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ คือ ไก่โต ปลาโต ได้กำไรทั้งสองทาง คุณพ่อจึงตัดสินใจซื้อที่เพิ่มอีก 10 ไร่ และสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่อีกเช่นเดิม 4 ปีต่อมา คุณอรรถพลเข้ามารับช่วงต่อเป็นทายาทรุ่นที่ 2
สภาพพื้นที่เลี้ยงไก่เนื้อ
คุณอรรถพลยังกล่าวเพิ่มเติมว่า แต่ก่อนตนเลี้ยงกับเซนทาโกร ตอนนั้นเป็นเล้าน้ำขนาด 7,000 ตัว ได้รับความรู้และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญของบริษัท จนประสบความสำเร็จ เลี้ยงได้กำไรดีมาก จึงตั้งใจขยายเพิ่ม โดยเริ่มต้นกู้เงินจาก ธ.ก.ส. จำนวนเงินกว่า 8.5 ล้านบาท และทำการถมบ่อเลี้ยงปลา และสร้างเป็นโรงเรือนระบบอีแว็ปขึ้นมาแทนจำนวน 2 หลัง ขนาด 24×100 เมตร รองรับไก่ 20,000 ตัว บนพื้นที่ 10 ไร่
ปัจจุบันดาวเหนือฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อในระบบคอนแทรคกับ บริษัท บิ๊กฟู้ดส์ จำกัด ซึ่งคุณอรรถพลเพิ่งเปลี่ยนมาเลี้ยงได้เป็นรุ่นแรกเท่านั้น คุณอรรถพลยอมรับว่าทางบริษัทส่งทีมสัตวแพทย์เข้ามาช่วยดูแลเป็นอย่างดีและสม่ำเสมอ หากมีปัญหาก็สามารถปรึกษาหมอได้ทันที
“ผมเพิ่งเริ่มต้นในการเลี้ยงไก่ได้ไม่นาน อาศัยการศึกษาจากคุณพ่อ และหมอที่มาดูแล และจากผู้ที่เคยเลี้ยงมาก่อน ก็มีประสบปัญหาบ้างแต่ก็ไม่หนักหนาอะไร ต้องขอบคุณคุณหมอ (สัตวแพทย์) ของบริษัท เซนทาโกร ที่เข้ามาช่วยดูแลและให้คำปรึกษาตลอดมา แต่ตอนนี้ผมย้ายมาเลี้ยงกับทางบริษัท บิ๊กฟู้ดส์ แทน ด้วยเหตุผลในเรื่องการขนส่ง ซึ่งระยะทางค่อนข้างไกล ทำให้ไก่สูญเสียมาก และที่ตั้งฟาร์มอยู่ใกล้กับโรงเชือดของทางบิ๊กฟู้ดส์มากกว่า
ผมมองว่าเรื่องราคาประกันนั้นทุกบริษัทไม่ต่างกัน ขึ้นกับปัจจัยอื่นมากกว่า อาทิ ลูกไก่ที่มาลงในแต่ละล๊อต อาหารที่มาส่ง และระยะทางขนส่ง เป็นต้น ส่วนเรื่องการจัดการพวกวัคซีน การใช้ยาต่างๆ นั้นไม่แตกต่างกันเลย ผมจึงตัดสินใจเลือกความสะดวกสบาย และการจัดการที่ง่ายเป็นหลัก ” คุณอรรถพลกล่าวถึงการเลี้ยงในระบบคอนแทรคกับบริษัทเอกชน
การบริหารจัดการโรงเรือนไก่เนื้อ
นอกจากได้ความรู้จากคุณพ่อ และสัตวแพทย์ แล้ว คุณอรรถพลยังอยู่ในกลุ่มไลน์ผู้เลี้ยงไก่เนื้อจากทั่วประเทศ และกลุ่มผู้เลี้ยงไก่เนื้อแห่งประเทศไทย จึงได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่ในนั้น และได้รับข่าวสารการจัดสัมมนาเกี่ยวกับการเลี้ยงไก่เนื้อทุกปีๆ ละ 1 ครั้ง เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ซึ่งกันและกัน
อาชีพหลักของคุณอรรถพล คือ เลี้ยงไก่เนื้อ และทำบ่อเลี้ยงปลาร่วมด้วย เพื่อให้มีรายได้เข้ามาในช่วงพักเล้า ปลาในบ่อจะเป็นปลาเบญจพรรณ อาหารที่ให้ คือ ขี้ไก่ ส่วนในบ่อ 13 ไร่นั้น จะเลี้ยงเป็นปลานิลหมัน ซึ่งจะโตเร็วกว่าเลี้ยงปลานิลทั่วไป ใช้เวลาเลี้ยงเพียง 7 เดือน เท่านั้น ก็สามารถจับขายได้ ขนาด 2-3 ตัว/กิโลกรัม ราคา 28 บาท
และในการสร้างโรงเรือนในระบบปิด (Evap) ได้จ้างช่างรับเหมาเข้ามาโดยเป็นการสร้างแบบพร้อมเลี้ยง คิดราคาตารางเมตรละ 2,600 บาท พร้อมติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น พัดลม คูลลิ่งแพค รางอาหารและน้ำ ระบบไฟสำรอง ถังไซโลอาหาร ซึ่งวัสดุอุปกรณ์ส่วนใหญ่จะเป็นของ บริษัท การุณ บราเธอร์ส จำกัด สามารถมั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้ว่ามีคุณภาพจริง รวมเงินลงทุนต่อหนึ่งหลังประมาณ 3.2 ล้านบาท ลักษณะโรงเรือนจะกว้าง สามารถบรรจุไก่ได้มาก ระบายอากาศได้ดี
เทคนิคการเลี้ยงไก่เนื้อ ฉบับดาวเหนือฟาร์ม
ด้วยความที่คุณอรรถพลคลุกคลีกับการเลี้ยงไก่มาด้วยกันกับคุณพ่อและการได้ก้าวเข้าสู่วงการไก่เนื้อ ทำให้คุณอรรถพลมีประสบการณ์ในการเลี้ยงไก่มาพอสมควร และสำหรับคุณอรรถพลสิ่งสำคัญในการเลี้ยงไก่เนื้อ คือ การจัดการโรงเรือนที่ดี จะนำมาสู่ผลผลิตที่ดี
แรกต้นตั้งแต่ลูกไก่ที่รับเข้ามาต้องมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และมีมาตรฐาน โดยเป็นลูกไก่จากบริษัท ไทยฟู้ดส์ จำกัด ซึ่งทางบริษัทจะมีการแจ้งสายพันธุ์และรายละเอียดลูกไก่ก่อนนำมาส่ง อัตราการสูญเสียนั้นขึ้นอยู่ที่ลูกไก่ที่ได้นั้นเป็นลูกไก่แบบใด ยกตัวอย่าง รุ่นล่าสุดที่ลงเป็นลูกไก่ A ซึ่งเป็นไข่ฟองใหญ่ ลูกไก่มีขนาดตัวใหญ่ แข็งแรง สุขภาพดี อัตราการสูญเสียแทบไม่มีเลย แต่หากเป็นลูกไก่ a เป็นไข่ฟองเล็ก ลูกไก่ที่ออกมาน้ำหนักน้อย และอ่อนแอมากกว่า ทำให้การสูญเสียนั้นสูง แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
“หลังลงลูกไก่จะกกไฟทันทีประมาณ 5-7 วัน ช่วง 3 วันแรกนับว่าสำคัญที่สุด ควรควบคุมอุณหภูมิให้ได้ 35-37 องศาเซลเซียล และมีการเสริมกลูโคส โดยผสมลงในน้ำให้ไก่กิน เพื่อให้ไก่สดชื่นบ้าง เช้าวันถัดมาก็เริ่มให้วัคซีนตามโปรแกรมของสัตวแพทย์” คุณอรรถพลกล่าวถึงการดูแลลูกไก่
สิ่งสำคัญต่อมาคือ สูตรอาหาร ดาวเหนือฟาร์มเลือกใช้อาหารไก่เนื้อที่ผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน อย่าง บริษัท ไทยฟู้ดส์ อาหารสัตว์ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี โดยสูตรอาหารแบ่งเป็น 3 ระยะ ดังนี้
-ระยะที่ 1 ลูกไก่แรกเข้าจนถึงอายุ 21 วัน
-ระยะที่ 2 ไก่อายุ 22 วัน ถึง 36 วัน
-ระยะที่ 3 ไก่อายุ 36 วันขึ้นไป จนกระทั่งจับขาย
“สูตรอาหารของทุกบริษัทไม่แตกต่างกันนัก ทุกบริษัทก็มีข้อดีของตนเอง ทั้งด้านคุณภาพและโภชนาการ ของไทยฟู้ดส์ก็เป็นเช่นนั้น ต้องยอมรับว่าอาจมีบ้างบางครั้งที่วัตถุดิบในการผสมอาหารขาดแคลน เช่น ข้าวโพด จึงใส่มันเส้นมาแทน จากการทดลองเกี่ยวกับโปรตีนอาจเท่ากัน สามารถใช้ทดแทนกันได้ แต่ประสิทธิภาพของอาหารดีไม่เท่าส่วนผสมอย่างข้าวโพด ไก่ไม่ค่อยโต การสร้างเนื้อไม่ค่อยดี ” คุณอรรถพลกล่าวถึงคุณภาพของสูตรอาหารไก่เนื้อในปัจจุบัน
ส่วนสำคัญอีกหนึ่งอย่าง คือ โปรแกรมแสง และการระบายอากาศ ไก่เนื้อจะโตดีหรือไม่ขึ้นกับการจัดการโรงเรือนของฟาร์มเองเป็นหลักด้วย ในช่วงแรกของการเลี้ยง คนเลี้ยงต้องใส่ใจลูกไก่มากเป็นพิเศษ ด้วยความที่ลูกไก่ยังเล็ก และภูมิต้านทานยังไม่ดีเท่าไก่ใหญ่ คำแนะนำที่ดีที่สุด คือ ทำตามโปรแกรมที่สัตวแพทย์แนะนำ คุณอรรถพลกล่าวเสริม
อีกว่าการเลี้ยงไก่ในช่วงฤดูฝนเป็นอะไรที่ยากที่สุด ด้วยสภาพอากาศที่ในหนึ่งวันมีทั้งอากาศร้อนอบอ้าว (ช่วงก่อนฝนตก) อากาศเย็นและชื้นมาก (ขณะฝนตก) และอากาศเย็นจัด (หลังฝนหยุด) ด้วยสภาพอากาศเช่นนี้ทำให้ไก่ป่วยได้ง่าย และการควบคุมระบบความเย็นภายในโรงเรือนก็เป็นไปได้ยากตามมาด้วย
“ผมใช้เวลาในการเลี้ยงไก่หนึ่งรุ่นประมาณ 42 วัน น้ำหนักจับขายอยู่ที่ 2.5-2.7 กิโลกรัมต่อตัว ในราคาประกัน 32.70 บาท/ตัว เนื่องจากระยะทางขนส่งใกล้ ทำให้ราคาต่ำ แต่ภายหลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วยังพอเหลือกำไรประมาณตัวละ 12 บาท ทำให้พอจะเลี้ยงปากท้องต่อไปได้ และในไก่ที่เลี้ยงทุกรุ่นจะไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะ มีเพียงการเสริมอาหารเท่านั้น และก่อนจะจับขายจะมีการส่งพิสูจน์ซากก่อนทุกครั้ง ตรวจโดยศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุ์สัตว์หนองกวาง ต.เขาชะงุ้ม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี
ในส่วนของแรงงานลูกจ้างจะจ้างเป็นแบบครอบครัว โดยลูกจ้างทำหน้าที่หลัก คือ ให้อาหารและน้ำเพิ่มเท่านั้น รายได้จะได้รับหลังจบรอบการเลี้ยงคิดราคาตัวละ 0.80 บาท” คุณอรรถพลกล่าวเสริมถึงการเลี้ยงไก่ในแบบดาวเหนือฟาร์ม
ปัญหาและอุปสรรคใน โรงเรือนเลี้ยงไก่ระบบปิด
การใช้ยาหรือสารกำจัดกลิ่นที่ไม่เป็นมิตรต่อสัตว์คงไม่ใช่เรื่องที่ดี ตัวเลือกที่น่าสนใจ คือ จุลินทรีย์ ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก ปรับตัวเก่ง สามารถอยู่ได้ในทุกสภาวะ บาง Species สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย และไม่ทิ้งสารตกค้าง จุลินทรีย์ดับกลิ่นเหม็นไมโคร-เบลส (Micro-Blaze) ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศ จัดจำหน่ายโดย บริษัท ไมโคร เอ็นไวรอนเมนทัล จำกัด Micro-Blaze จะเป็นตัวช่วยในการกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในฟาร์ม หากสนใจผลิตภัณฑ์สามารถติดต่อผ่านทาง Website : microenvi.in
“ใช้จุลินทรีย์ตัวนี้มาตั้งแต่เริ่มเลี้ยงไก่รุ่นแรก ผลิตภัณฑ์กำจัดกลิ่นได้ดีจริง และไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์ สามารถนำมาผสมน้ำสะอาดในอัตราส่วนที่กำหนดข้างขวด แล้วฉีดพ่นบริเวณพื้นโรงเรือนได้เลย หากใครถามเรื่องกลิ่นผมก็อยากจะแนะนำผลิตภัณฑ์ตัวนี้” คุณอรรถพลยืนยันจากผู้ใช้งานจริงมานานกว่า 4 ปี
แนวโน้มในอนาคต
สุดท้ายคุณอรรถพลยังมีแผนจะขยายต่อเติมโรงเรือนเพิ่มจากเดิมเพื่อรองรับลูกไก่มากขึ้นในอนาคตและยังฝากข้อความเล็กๆ ถึงพี่น้องเกษตรกรที่เลี้ยงไก่ในระบบคอนแทรคว่า การเลี้ยงในระบบคอนแทรคนั้นก็มีข้อดี ยิ่งหากไม่มีประสบการณ์ด้วยแล้ว การเลี้ยงกับบริษัทก็ย่อมมีประโยชน์มากกว่า เหมือนได้เพื่อนที่คอยให้คำแนะนำและช่วยเหลือ เป็นที่ปรึกษาในยามที่เราประสบปัญหา หากอยากลองเลี้ยงให้เริ่มต้นจากเล็กๆ ก่อน สัก 5,000-6,000 ตัว เพราะมีปัญหาจะได้ไม่เสียเงินทุนมากจนเกินไป
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก คุณอรรถพล เอกลาภ ที่อยู่ 29 ม.7 ต.คุ้งพยอม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี 70110 โทร.095-248-2292 (คุณอัด)