ทิปโก้ ผู้นำแห่งยางมะตอยผสมยางพารา
เมื่อพูดถึงยางมะตอย ในประเทศไทยต้องรู้จักชื่อของ “ทิปโก้แอสฟัลท์” ผู้ผลิตยางมะตอยรายใหญ่ของไทย และของภูมิภาคเอเชีย ก่อตั้งโดยคนไทยที่ชื่อ ประสิทธิ์ ทรัพย์สาคร ตั้งแต่ปี 2522 ก่อนจะกางปีขยายธุรกิจสู่โรงกลั่นยางมะตอยในประเทศมาเลเซีย ด้วยกำลังการผลิตถึง1.2 ล้านตัน/ปี นับเป็นผู้ผลิตยางมะตอยรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย
แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงถนนยางมะตอยผสมยางพารา ทิปโก้ย่อมจะเป็นผู้นำอย่างไม่ต้องสงสัยทิปโก้เป็นผู้นำเทคโนโลยีการปูยางมะตอยในประเทศไทย ด้วยวิธีการฉาบผิวแบบสเลอรีซีล (Slurry Seal) และ Micro-surfacing หรือที่รู้จักกันแพร่หลายในชื่อ พาราสเลอรี่ซิล (Para Slurry Seal)
ทีมงานจะพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกับบริษัทแห่งนี้ รวมถึงรู้จักยางมะตอยผสมยางพารา สำหรับงานก่อสร้างและซ่อมถนนให้มากขึ้น
รู้จักทิปโก้แอสฟัลท์ ผู้นำการผลิตยางมะตอยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางมะตอย เพื่อใช้ในงานก่อสร้างและซ่อมบำรุงทาง
ทิปโก้ฯ มีโรงงานผลิตและคลังเก็บยางมะตอยที่ตั้งอยู่หลายจังหวัดในประเทศไทย แต่ละจังหวัดเป็นจุดยุทธศาสตร์พร้อมในการให้บริการอย่างทั่วถึงและรองรับความต้องการของลูกค้าในทุกภูมิภาค
การมีโรงงานที่กระจายไปตามภูมิภาคเช่นนี้ ทำให้บริษัทสามารถส่งสินค้าให้กับประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างสะดวกรวดเร็วด้วยรถขนส่งยางมะตอยของบริษัทที่มีมากกว่า 300 คัน จนทำให้ทิปโก้ฯเป็นผู้นำธุรกิจยางมะตอยในประเทศ
นอกจากนี้ ทิปโก้ฯยังเป็นเจ้าของเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศขนาดใหญ่ 7 ลำ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศตลอดจนสำหรับการนำเข้ายางมะตอยสู่ประเทศไทยในยามขาดแคลนด้วยเช่นกัน
บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) มีโรงกลั่นยางมะตอยอยู่ที่เมือง Kemamanในประเทศมาเลเซียซึ่งดำเนินการโดยบริษัทย่อยชื่อ Kemaman Bitumen Company Sdn. Bhd. โรงกลั่นแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า26 เฮคเตอร์ ในเขตอุตสาหกรรม Telok Kalong มีกำลังการกลั่นน้ำมันดิบมากถึง30,000บาร์เรลต่อวันหรือประมาณ 10.8ล้านบาร์เรลต่อปี เทียบเท่ากับปริมาณนํ้ามันดิบ 1.7ล้านตันต่อปี ซึ่งสามารถผลิตยางมะตอยได้ถึงปีละ 1.2ล้านตัน
กรรมการผู้จัดการ ให้ข้อมูลว่า บริษัทฯมีผลิตภัณฑ์ยางมะตอย หรือ แอสฟัลต์ ที่มีส่วนผสมของยางพาราเป็นส่วนผสมที่ใช้งานตามข้อกำหนดของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบททั้ง2 ชนิด คือ
แอสฟัลต์ซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพด้วยยางธรรมชาติ (Natural Rubber Modified Asphalt Cement) หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าพาราเอซี หรือพาราแอสฟัลต์ซีเมนต์ นำไปใช้ทำผิวทางชนิดแอสฟัลต์คอนกรีต (Asphalt Concrete) โดยมีความหนาประมาณ 5 เซนติเมตร เหมาะสำหรับการซ่อมและบูรณะผิวทางที่มีปริมาณการจราจรสูง สามารถรองรับการใช้งานได้ดีกว่า ผิวจราจรมีความแข็งแรงและมีอายุการใช้งานที่นานกว่าแอสฟัลต์คอนกรีตที่ใช้ยางมะตอยเอซีธรรมดาทั่วไป
พาราแอสฟัลต์อิมัลชัน(Natural Rubber Modified Asphalt Emulsion) หรือที่เรียกว่ายางมะตอยน้ำผสมยางพารา หรือที่รู้จักกันในชื่อ CSS-1h (EMA) หรือ CSS-1hP นำไปใช้ในงานฉาบผิวทางแบบพาราสเลอรีซีล (Para Slurry Seal) โดยมีความหนาประมาณ 1.0-1.5 เซนติเมตรเหมาะสำหรับฉาบทับรอยแตกและปรับสภาพบนผิวจราจรที่ใช้งานไปแล้วและการต้านทานการลื่นไถล (Skid Resistance) ลดลง ลื่นและไม่ปลอดภัยในการขับขี่การฉาบผิวด้วยวิธีพาราสเลอรีซีล (Para Slurry Seal) จะช่วยทำให้ผิวจราจรหยาบและมีความฝืดมากขึ้นเพิ่มความสามารถในการขับขี่ที่ปลอดภัยมากขึ้นรวมทั้งสามารถเปิดการจราจรได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง1 ชั่วโมง ในขณะที่การฉาบผิวทางแบบเดิมที่ใช้ยางมะตอยน้ำทั่วไป ใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมงทำให้เกิดความไม่สะดวกต่อผู้ใช้ทาง
ทิปโก้ฯ ผู้พัฒนาเทคโนโลยี ยางมะตอยด้วยยางพารา
การนำยางมะตอยผสมกับยางพารา เป็นเทคโนโลยีการผลิตเฉพาะของบริษัททิปโก้แอสฟัลต์ โดยการนำน้ำยางพาราเข้มข้นมาผสมกับยางแอสฟัลต์ซีเมนต์หรือยางเอซีเกรด 60-70 เนื้อยางพาราที่เข้าไปกระจายตัวในยางมะตอย ทำให้ยางมะตอยมีคุณสมบัติทางวิศวกรรมที่ดีขึ้นและดีกว่าคุณสมบัติของยางมะตอยเอซีธรรมดา เช่น จุดอ่อนตัว (Softening Point) สูงขึ้น, การยืดหยุ่นตัว (Elastic Recovery) มากขึ้น ความสามารถในการยึดเกาะตัว(Cohesion) และความแข็งแรง (Toughness and Tenacity) สูงขึ้น
ผลงาน ถนนยางพารากว่า 100 โครงการ
ทิปโก้ฯเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายยางพาราเอซี (Para AC) รายแรกของประเทศเพื่อนำไปใช้ในการปูแอสฟัลต์คอนกรีต จำนวนมากว่า100 โครงการแล้วตั้งแต่กรมทางหลวงได้กำหนดเป็นมาตรฐานในการนำไปใช้งานในปี 2556 อาทิเช่น ทางหลวงหมายเลข 304 ตอน รังสิต–นครนายก จ.ปทุมธานี, ทางหลวงหมายเลข 4 ตอน หงาว-อ่าวเคยจ.ระนอง, ทางหลวงหมายเลข 24 ตอน สี่แยกปักธงชัย-สี่แยกโชคชัยจ.นครราชสีมา และทางหลวงหมายเลข 21 ตอน สะพานพุแค–ทางแยกไปพัฒนานิคม จ.ลพบุรี เป็นต้นรวมทั้งถนนในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบทและหน่วยงานท้องถิ่นทั่วประเทศ ทิปโก้ฯยังเป็นผู้จำหน่ายยางพาราเอซีเพื่อนำไปใช้กับโครงการถนนกาญจนาราเมศร์ บ้านเกาะหมี อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นถนนสายแรกของอบจ.สงขลาที่ใช้ราดด้วยยางมะตอยผสมยางพารา ความยาว 2.50 กิโลเมตรอีกด้วย
โรงงานผลิตกระจายทั่วประเทศ เน้นใช้ยางพาราในพื้นที่ เพิ่มรายได้เกษตรกร
แนวโน้มการใช้ถนนยางพารามีมากขึ้น ทั้งจากหน่วยงานของรัฐ เช่นกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น อบจ.สงขลา และอบจ.ตรัง เป็นต้น บทบาทของบริษัทต่อนโยบายถนนยางพารามากน้อยแค่ไหน
นายชัยวัฒน์ให้ข้อมูลว่า บริษัทฯมีนโยบายที่ชัดเจนในการผลิตยางมะตอยผสมยางพาราทั้งสองประเภท โดยในปัจจุบันบริษัทมีโรงงานกระจายอยู่ทุกภูมิภาค ได้แก่ โรงงานพิษณุโลก, โรงงานนครราชสีมา, โรงงานระยองและโรงงานสุราษฎร์ธานี โดยมีความมั่นใจว่า สามารถรองรับความต้องการการใช้ยางมะตอยผสมยางพาราของหน่วยงานภาครัฐทั้งสามหน่วยงานได้อย่างเพียงพอและไม่ขาดแคลน
อีกทั้งกำลังการผลิตของทุกโรงงานรวมกันยังสามารถรองรับการเพิ่มขึ้นของความต้องการใช้ได้มากกว่าเท่าตัวของการใช้ในปัจจุบัน
บริษัทฯส่งเสริมให้มีการนำยางพาราไปใช้ในการผลิตอย่างทั่วถึงโดยเน้นการจัดซื้อน้ำยางพาราภายในท้องถิ่นพื้นที่ที่โรงงานตั้งอยู่เพื่อสนับสนุนและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร บริษัทฯยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพของยางมะตอยผสมยางพาราเพื่อให้มีคุณภาพดียิ่งๆขึ้นไปในเวลาเดียวกันให้สามารถดำเนินการได้โดยมีต้นทุนของผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม
นอกจากนั้น บริษัทฯยังเห็นความสำคัญของคุณภาพถนนที่ทำด้วยางมะตอยผสมยางพาราที่จะมีการนำไปใช้ในการก่อสร้างและบำรุงรักษาผิวทางของหน่วยงานต่างๆที่ทางรัฐบาลมีนโยบายและให้การส่งเสริม บริษัทฯจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญด้านงานทางเข้าไปร่วมให้ความรู้กับบุคคลกรที่เกี่ยวข้องรวมทั้งช่วยเหลือทางด้านเทคนิคกับผู้รับเหมางานในวาระและโอกาสต่างๆ เพื่อให้ผิวทางที่ใช้ยางมะตอยผสมยางพาราได้คุณภาพและมีอายุการใช้งานที่นาน
tags: ยางมะตอย ยางมะตอยสําเร็จรูป แอสฟัลท์ ลาดยางมะตอย ถนนยางพารา ยางพารา ทิปโก้แอสฟัลท์ ยางมะตอย ยางมะตอยสําเร็จรูป แอสฟัลท์ ลาดยางมะตอย ถนนยางพารา ยางพารา
[wpdevart_like_box profile_id=”112152085551102″ connections=”show” width=”300″ height=”220″ header=”big” cover_photo=”show” locale=”th_TH”]