ในช่วงนี้ยังต้องเป็นกำลังใจให้กับผู้เพาะเลี้ยงปลากะพงไทยทุกท่าน ที่ต้องประคับประคองธุรกิจของตนต่อสถานการณ์ราคากลางปลากะพงกันต่อไปอีกหน่อย หวังว่าอีกไม่นานทุกท่านจะกลับมาฟื้นตัวกันได้อย่างเร็ววัน และราคาปลากะพงในวันข้างหน้าจะกลับมาดีอีกครั้ง ขอให้ทุกคนทำธุรกิจอย่างรอบคอบ เพื่อลดต้นทุนในการเลี้ยงให้มากที่สุด อาหารปลากะพง
การเพาะเลี้ยงปลากะพง
นิตยสารสัตว์น้ำ พาท่านผู้อ่านมาติดตามการเลี้ยงปลากะพงของเกษตรกรในพื้นที่ตำบลคลองโคน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ไปกันยังฟาร์มผลิตปลากะพงไซซ์เกรดพรีเมี่ยมอีกฟาร์มหนึ่ง โดยพามาพบกับ คุณพิพัฒน์ กิ่งแก้ว หรือคุณพัฒน์ เซียนผลิตปลากะพงมากประสบการณ์
โดยได้อยู่ในวงการปลากะพงมากว่า 6 ปี เริ่มต้นตั้งแต่เลี้ยงปลากะพงด้วยเหยื่อสดอยู่ประมาณ 4 ปี และได้หันมาเลี้ยงด้วยอาหารเม็ดทดแทน เพราะช่วยลดค่าการจัดการของส่วนเหยื่อสด ลดแรงงาน ประหยัดเวลา จึงหันมาเลี้ยงด้วยอาหารเม็ด 100% เพราะช่วยตอบโจทย์ที่ทางฟาร์มต้องการได้ และช่วยเร่งอัตราการเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี ทำให้สามารถส่งผลผลิตสู่ตลาดได้มากยิ่งขึ้น ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมากอีกด้วย
สภาพพื้นที่เลี้ยงปลากะพง
พิพัฒน์ฟาร์ม ตั้งอยู่ที่ 2/5 ม.5 ตำบลคลองโคน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ภายในฟาร์มแบ่งออกเป็นบ่อเลี้ยงทั้งหมด 6 บ่อ เนื้อที่บ่อละประมาณ 2.5 ไร่ โดยล้อมรอบด้วยแหล่งน้ำธรรมชาติ มีทางน้ำเข้าและทางน้ำออกคนละสาย ทำให้สะดวกต่อการนำเข้ามาใช้ภายในฟาร์มเป็นอย่างมาก ซึ่งถือว่าเป็นทำเลการตั้งฟาร์มที่เหมาะสมในการเลี้ยงปลากะพงในระดับดีเลยทีเดียว และยังมีอากาศถ่ายเทอย่างสะดวก ทำให้อากาศเข้าถึงบ่อ ช่วยให้อุณหภูมิน้ำกำลังดี ร่วมกับภายในบ่อมีการเครื่องตีน้ำอย่างเพียงพอ ช่วยเพิ่มออกซิเจนในน้ำได้อย่างดี ส่งผลทำให้ปลาภายในบ่อมีสุขภาพที่แข็งแรงและเจริญเติบโตได้ดีอีกด้วย
คุณพัฒน์กล่าวให้เราฟังว่า “ข้อดีของการใช้เหยื่อสด คือ การได้โปรตีนเต็มๆ ปลาโตเร็ว แต่การจัดการยุ่งยาก ต้องนำปลามาสับเอง น๊อคน้ำแข็งเอง ตอนที่เปลี่ยนมาใช้อาหารเม็ดยังเกิดความกังวลบ้าง เพราะไม่เคยเลี้ยงมาก่อน ทำให้ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ เลยเริ่มจากเลี้ยงอาหารเม็ดก่อน 1 บ่อ ผลปรากฏว่าช่วยประหยัดแรงงาน ต้นทุน คุณภาพปลาก็ดี ความแน่นไขมันปลาก็ดี เนื้อปลาดี จึงหันมาใช้เป็นอาหารเม็ดทั้งหมด”
เทคนิคการเลี้ยงปลากะพง ฉบับ “พิพัฒน์ฟาร์ม”
การเลี้ยงปลากะพงนั้นต้องอาศัยการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างมาก เพราะเป็นปลาที่เลี้ยงค่อนข้างยาก โดยแต่ละฟาร์มต่างต้องมีเทคนิคในการเลี้ยงเป็นของตนเอง โดยในปัจจุบันพิพัฒน์ฟาร์มสามารถผลิตปลากะพงคุณภาพให้มีอัตรารอดมากกว่า 80%
ใช้ระยะเวลาการเลี้ยงประมาณ 5 เดือน จะได้ไซซ์ 700-1,000 กรัม/ตัว ได้ผลผลิตประมาณ 15 ตัน/บ่อ และเลี้ยงได้ FCR ไม่เกิน 1.2 ซึ่งทางฟาร์มนั้นมีเทคนิคง่ายๆ ในการเลี้ยงปลากะพงให้ได้คุณภาพ ด้วยการดูแลเอาใจใส่ตั้งแต่การนำปลามาลงในวันแรกจนถึงวันจับขายเลยทีเดียว
โดยเทคนิคที่ควรใส่ใจดังนี้
คำนวณอัตราความหนาแน่น โดยทางฟาร์มจะเลือกใช้อัตราการปล่อยลูกปลาที่ความหนาแน่นประมาณ 10,000 ตัว/ไร่ จะปล่อยลูกปลาไซซ์ 3-4 นิ้ว จะเป็นขนาดที่ได้อัตราการรอดที่สูงกว่าเลี้ยงปลาไซซ์เล็ก
การทรีตน้ำสะอาดก่อนเข้าบ่อเลี้ยง โดยทางฟาร์มนำน้ำเข้าจากคลองเก็บไว้ในบ่อพักน้ำ จากนั้นทรีตน้ำประมาณ 10 วัน ก่อนลงลูกปลา การเลี้ยงจะฉีดเลนทุกรอบ หลังจากนั้นตากบ่อ ก่อนนำน้ำเข้าบ่อเลี้ยงต้องผ่านการฆ่าเชื้อโดยการหว่านปูนเพื่อฆ่าเชื้อ หลังจากนั้นตากแดด เมื่อพร้อมจึงนำน้ำเข้าให้ความเค็มอยู่ที่ประมาณ 25-30 ppt. และปล่อยลูกปลาต่อไป
การจัดการของเสีย ส่วนมากทางฟาร์มจะใส่ปูนกลางบ่อทุกๆ 2-3 วัน เริ่มใส่ตอนปลาอายุ 3 เดือนขึ้นไป โดยไม่มีดูดของเสียออก เพราะไม่อยากให้พื้นบ่อฟุ้งขึ้นมา และอาจทำให้แก๊สระเบิดขึ้นได้ ตั้งแต่ใช้อาหารเม็ดทางฟาร์มไม่พบเรื่องของน้ำเสียสักเท่าไหร่
การให้อาหาร ทางฟาร์มเลือกให้อาหารในช่วงเวลาเช้าและเย็นเป็นหลัก ช่วงเช้าจะให้กินจนอิ่ม และเสริมบางส่วนตอนเย็น เพราะถ้าให้ปลากินมากในช่วงเย็น ปลาอาจจะแน่นท้อง ทำให้ตกกลางคืนจะขับของเสียยาก และถ้าเกิดเหตุกลางคืนไฟดับ ปลาจะขาดออกซิเจนอย่างรวดเร็ว
การเพิ่มอากาศภายในน้ำ ฟาร์มใช้เครื่องใบพัดตีน้ำและเครื่องอากาศใต้น้ำอย่างเต็มที่ โดยจะติดตั้งเครื่องตีน้ำให้เพียงพอและตีน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ปลาได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ โดยคำนึงจากปริมาณจำนวนปลาที่ปล่อยเป็นหลัก ถ้าออกซิเจนเพียงพอจะทำให้ปลากินอาหารเก่ง เจริญเติบโตดี มีคุณภาพ
การเลือกใช้ อาหารปลากะพง ที่มีคุณภาพ
เคล็ดลับของพิพัฒน์ฟาร์มอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ การเลือกใช้อาหารปลากะพงที่มีคุณภาพ สามารถให้คุณประโยชน์ต่อปลาได้อย่างสมบูรณ์ ช่วยให้ปลาโตเร็ว มีน้ำหนักที่ดี พร้อมกับมีคุณภาพ อย่างที่เลือกใช้อาหารปลากะพง Uni-President (กะพงทอง) ซึ่งเป็นอาหารปลากะพงที่ผลิตจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ใช้ปลาป่นคุณภาพจากประเทศชิลี มีจุลินทรีย์ที่ช่วยย่อยในระบบการย่อยสลายอาหาร ผลิตและจัดจำหน่ายโดยผู้ผลิตอาหารสัตว์น้ำรายใหญ่ของไต้หวัน
โดยมีศูนย์การผลิตจากประเทศเวียดนาม มีกระบวนการผลิตที่ได้รับมาตรฐานการตรวจสอบจากกรมประมง พร้อมทั้งมีเบอร์อาหารให้เลือกตามความต้องการของเกษตรกรได้อีกด้วย โดยการันตีจากการผลิตอาหารสัตว์น้ำที่มีคุณภาพ สามารถครองใจเกษตรกรได้อย่างมากมาย
สำหรับท่านใดที่สนใจสอบถามข้อมูลอาหารปลากะพง Uni-President (กะพงทอง) เพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ AMAZON International Co.,Ltd. โทร.091-7400584 คุณอัลเบิร์ต และ 083-2474400 คุณโอ็ต ได้เลย
ขอบคุณข้อมูลการเลี้ยงจาก คุณพิพัฒน์ กิ่งแก้ว หรือคุณพัฒน์ ติดต่อสอบถาม โทร.081-852-6533 ที่ตั้ง2/5 ม.5 ต.คลองโคน อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม