แฟนต้าฟาร์ม ผลิตและจำหน่ายลูกสุกร 3 สายคุณภาพ เผยเทคนิคการให้อาหาร ลดระยะเวลาเลี้ยง เพิ่มรอบการผลิต
จากคนไม่มีประสบการณ์ ได้ศึกษาเรียนรู้วิธีการเลี้ยงมาเรื่อยๆ ลองผิดลองถูกมาหลายครั้ง จนสามารถสานต่อฟาร์มสุกรของคุณพ่อได้มาจนถึงปัจจุบัน นิตยสารสัตว์บกฉบับนี้จะพามารู้จักกับ คุณเอกสิทธิ์ กิ่งก้าน หรือ คุณแฟนต้า เจ้าของ “แฟนต้าฟาร์ม”
จุดเริ่มต้นการเลี้ยงหมู
จากพ่อค้าขายของชำ ขายของตามตลาดนัด และช่างภาพฟรีแลนซ์ ที่ผันตัวมาเป็นเกษตรกรคนเลี้ยงหมู ซึ่งคุณแฟนต้าได้เผยว่าแต่ก่อนฟาร์มสุกรนั้นคุณพ่อเป็นคนดูแล ซึ่งตนไม่เคยดูแลจัดการเลย แต่พอคุณพ่อเสียจึงได้กลับบ้านมาอยู่กับคุณแม่ และสานต่ออาชีพที่คุณพ่อได้สร้างไว้
“ผมเริ่มเข้ามาทำได้ 2 ปี เดิมทีคุณพ่อทำฟาร์มหมูขุนเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว พอคุณพ่อเสียผมจึงเข้ามาสานต่อ เพราะเห็นว่ามีพื้นที่ มีอุปกรณ์อยู่แล้ว ตอนที่เริ่มเลี้ยงก็มีเพื่อนสนิท และญาติๆ ที่เลี้ยงหมูอยู่แล้ว ได้เข้ามาให้คำแนะนำ และเรียนรู้เองเพิ่มเติมจากตำรา แต่จริงๆ แล้วการเรียนรู้จากตำราไม่ดีเท่าการลงมือปฏิบัติจริง เจอปัญหาจริง และได้แก้ไขด้วยตัวเอง” คุณแฟนต้ากล่าวถึงที่มาของการทำฟาร์ม
สายพันธุ์หมู
สำหรับสายพันธุ์ลูกสุกรที่แฟนต้าฟาร์มจะเป็นสุกร 3 สาย ที่เกิดจากพ่อสุกรพันธุ์ดูร็อค กับแม่ลูกผสม แลนด์เรซ -ลาร์จไวท์ ซึ่งสุกรลูกผสมจะถูกพัฒนาสายพันธุ์ให้เลี้ยงง่าย โตเร็ว และทนต่อสภาพแวดล้อม สภาพอากาศ ของประเทศไทย มากกว่าสุกรพันธุ์แท้สายเลือดเดียว
ทางฟาร์มจะขยายสายพันธุ์โดยวิธีการผสมเทียมทั้งหมด ซึ่งการผสมเทียมเป็นวิธีป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคต่างๆ ที่เกิดได้ง่ายจากการผสมพันธุ์โดยธรรมชาติ เช่น แท้งติดต่อ วัณโรค และยังช่วยขจัดปัญหาแตกต่างระหว่างขนาดของพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ปัจจุบันทางฟาร์มมีพ่อแม่พันธุ์ทั้งหมดประมาณ 20 ตัว
ระยะเวลาการปลดพ่อแม่พันธุ์นั้นจะขึ้นอยู่กับสุขภาพของสุกร และประสิทธิภาพการให้ผลผลิต นอกจากการใช้พ่อพันธุ์ในฟาร์มแล้ว คุณแฟนต้าเผยว่ายังต้องสั่งน้ำเชื้อจากข้างนอกมาใช้ เพื่อป้องกันการเกิดเลือดชิดภายในฟาร์ม
การบำรุงดูแลรักษาหมู
หลังจากลูกสุกรคลอดออกมาจะให้อยู่ในคอกคลอดจนถึงหย่านมประมาณ 28 วัน แล้วจึงย้ายมาคอกอนุบาลจนอายุได้ประมาณ 45 วัน สำหรับการดูแลจัดการในระหว่างนี้จะให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพลูกสุกรเป็นหลัก ลูกสุกรท้องเสียหรือไม่ รูปร่างลักษณะสมบูรณ์หรือไม่ ซึ่งก่อนจะนำเข้าโรงขุนต้องให้ลูกสุกรอนุบาลสมบูรณ์ที่สุด แข็งแรง กินเก่ง และทำวัคซีนให้เรียบร้อย ก่อนนำไปจำหน่ายแก่เกษตรกร
ทางฟาร์มจะทำการกกลูกสุกรตั้งแต่หลังคลอดจนถึงลูกสุกรอนุบาล โดยคุณแฟนต้าได้ให้ความเห็นว่า “ผมว่าลูกสุกรที่ได้รับการกกไฟกับไม่ได้กกมันต่างกันนะ สังเกตได้จากขนลูกหมู ถ้าหมูไม่กกไฟขนมันจะดูยาวๆ หยาบๆ เหมือนหมูสุขภาพไม่ดี ซึ่งต่างจากลูกหมูที่ได้รับการกก และนอกจากการกกไฟแล้ว ควรมีแผ่นยางปูรองให้ลูกหมูด้วย”
ส่วนเรื่องการดูแลจัดการฟาร์มนั้น คุณแฟนต้าเป็นคนดูแลเองทั้งหมด จึงไม่มีปัญหาเรื่องแรงงาน และคุณแฟนต้าได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “จริงๆ แล้วหมูที่ฟาร์มไม่เยอะเกินไปก็พอดูแลได้ และอีกอย่างเราทำฟาร์มหมูเป็นงานหลักก็สามารถดูแลได้เต็มที่ เพื่อให้ผลผลิตออกมาดี เกษตรกรจะได้มีลูกหมูที่ดีสำหรับขุนต่อไป และมีรับผสมเทียมให้กับเกษตรกรที่มีแม่พันธุ์แต่อาจไม่มีเงินพอที่จะซื้อพ่อพันธุ์ดีๆ ได้ เราก็จะรีดน้ำเชื้อพ่อพันธุ์จากฟาร์มเราไปผสมให้ เพื่อให้เกษตรกรมีลูกสุกรสายพันธุ์ที่ดี”
การบริหารจัดการภายในฟาร์มหมู
นอกจากนี้คุณแฟนต้ายังมีแนะนำเกษตรกรในเรื่องวิธีการเลี้ยง การดูแลจัดการสุกร สำหรับเกษตรกรที่เพิ่งเริ่มเลี้ยงยังไม่มีประสบการณ์ พร้อมให้ความรู้เพื่อให้เกษตรกรได้ผลผลิตที่ดี และหากสุกรป่วยก็พร้อมเข้าไปดูแลให้คำปรึกษาเต็มที่
การจัดการในแต่ละวันนั้นจะเริ่มด้วยการให้อาหารคอกพ่อแม่พันธุ์ ตามด้วยเก็บมูลแล้วนำมาตากแดด ซึ่งจะช่วยให้คอกไม่มีกลิ่น และไม่มีแมลงวัน ต่อมาจะทำการล้างรางอาหารทุกรางในตอนเช้า เพื่อไม่ให้เกิดการหมักหมมของเชื้อรา เมื่อเสร็จจากการล้างคอกพ่อแม่พันธุ์ จะตามด้วยการดูแลจัดการคอกสุกรอนุบาล
“หากมีการหมักหมมของเชื้อราในรางอาหารแม่พันธุ์ จะส่งผลกระทบต่อแม่หมูที่ตั้งครรภ์ หากหมูกินอาหารที่มีการปนเปื้อนของเชื้อราตามรางอาหารที่ล้างไม่สะอาด เมื่อกินเข้าไปจะส่งผลต่อลูกในครรภ์ เมื่อคลอดออกมาจะเจอปัญหาลูกกรอก ลูกตายในครรภ์ หรืออาจแท้งได้” คุณแฟนต้ากล่าวถึงความสำคัญความสะอาดของรางอาหาร
การให้อาหารหมู
นอกจากความสำคัญเรื่องความสะอาดแล้ว คุณแฟนต้ายังให้ความสำคัญในเรื่องของการให้อาหาร โดยคุณแฟนต้าจะไม่เททิ้งไว้ให้เป็นมื้อ แต่จะคอยเติมให้เรื่อยๆ คือ จะเทให้สำหรับกินพอหมด แล้วจะคอยเติมให้ถี่ๆ ช่วยให้อาหารสดใหม่น่ากิน เป็นการกระตุ้นการกิน และช่วยให้สุกรกินอาหารได้เยอะขึ้น การเจริญเติบโตก็ดีขึ้น
“เพราะบางทีการเทอาหารทิ้งไว้ แล้วหมูกินไม่หมด อาหารอาจจะโดนลม โดนน้ำ ทำให้อาหารเสียรสชาติ หมูก็อาจจะไม่กิน ก็เหมือนเราเวลากินขนม ถ้ากินไม่หมด เปิดทิ้งไว้กลิ่นหอมรสชาติขนม ความกรอบก็เปลี่ยนไปได้ ก็ทำให้เราไม่อยากกิน ก็เหมือนกันกับอาหารหมูที่เราให้ทิ้งไว้” คุณแฟนต้ากล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับการให้อาหารสุกรทิ้งไว้
ซึ่งการให้อาหารแบบนี้ช่วยลดระยะเวลาการขุนลูกสุกรช่วงอนุบาล ซึ่งแต่ก่อนอาจจะใช้ระยะเวลาขุน 4 เดือน พอเปลี่ยนมาให้อาหารแบบนี้ใช้ระยะเวลา 3 เดือนกว่า แต่ได้สุกรน้ำหนักเท่ากัน ก็จะทำให้ฟาร์มประหยัดเวลาการขุน มีรอบขุนเพิ่มขึ้น ต้นทุนอาหารลดลง รายได้เพิ่มขึ้น
ข้อดีของอาหาร แดนโกรว เจลาโต้
และสำหรับอาหารลูกสุกรที่คุณแฟนต้าเลือกใช้ “แดนโกรว เจลาโต้” บริษัท แอมโก้เวท จำกัด อาหารเลียรางพิเศษ ที่ออกแบบมาให้กินได้ตั้งแต่อายุ 3 วัน ถึงหย่านม แดนโกรว เจลาโต้ ออกแบบมาให้เหมาะสมกับระบบทางเดินอาหารของลูกสุกรแรกคลอด เพื่อให้ลูกสุกรสามารถนำสารอาหารไปใช้ได้อย่างเต็มที่ ไม่เหลือเป็นอาหารของเชื้อโรค
นอกจากนี้ยังช่วยให้ลูกสุกรกินอาหารได้เก่ง และเร็ว ช่วยลดการเกิดท้องเสียในเล้าคลอด ช่วยเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตของลูกสุกรในเล้าคลอด ทำให้น้ำหนักหย่านมของลูกสุกรสูงขึ้น ช่วยลดการชะงักการเจริญเติบโตหลังหย่านม
พอเข้าระยะอนุบาล คุณแฟนต้าเลือกใช้อาหารของ บริษัท ยูไนเด็ดฟีดดิ้ง จำกัด สูตร S80 ที่ประกอบไปด้วยวัตถุดิบที่คัดสรรเป็นพิเศษย่อยได้ดี สามารถดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้สูง มีคุณค่าทางอาหารเหมาะสมต่อความต้องการของลูกสุกร
S80 อาหารสุกรอนุบาล เหมาะสำหรับสุกรหย่านม-30 กิโลกรัม ช่วยให้ลูกสุกรเจริญเติบโตต่อเนื่องตามประสิทธิภาพสายพันธุ์ สุขภาพแข็งแรง มีอัตราการแลกเนื้อที่ดีขึ้น ระยะเวลาเลี้ยงสั้นลง รอบในการผลิตเพิ่มขึ้น ช่วยเสริมสร้างโครงสร้างกล้ามเนื้อสู่การผลิตเนื้อสุกรที่ดี มีคุณภาพสู่ผู้บริโภค
เมื่อถามถึงการระบาดของโรค ASF คุณแฟนต้าได้เผยว่าที่ฟาร์มจะป้องกันไม่ให้คนนอกเข้า-ออกฟาร์ม เพื่อป้องกันเชื้อจากภายนอก และโดยปกติแล้วทางฟาร์มจะพ่นยาฆ่าเชื้ออาทิตย์ละครั้งเพื่อป้องกันโรค แต่ในช่วงที่มีโรคระบาดจะพ่นอาทิตย์ละ 2 ครั้ง และดูแลใส่ใจในเรื่องความสะอาดของโรงเรือนเป็นพิเศษ
ฝากถึงเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู
สุดท้ายคุณแฟนต้าได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการเลี้ยงหมูสำหรับมือใหม่ว่า “ถ้าถามว่าการเลี้ยงครั้งแรกมันยากไหม ผมว่ามันก็ไม่ยากนะครับ ถ้าเรารักในสิ่งที่ทำ และตั้งใจทำมันจริงๆ มันไม่มีอะไรยากเกินไป มันศึกษาเรียนรู้กันได้ เพราะไม่มีใครเป็นมาตั้งแต่เกิดอยู่แล้ว ยังไงเราก็ต้องมาศึกษาเองอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเราตั้งใจจะทำมันรึเปล่า หากเราตั้งใจทำ สุดท้ายผลลัพธ์มันก็จะออกมาดี”
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก คุณเอกสิทธิ์ กิ่งก้าน หรือ คุณแฟนต้า 300 ม.3 บ.นาหัวบ่อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม 48190 โทร.0985687923