หนุ่มวิศวะผู้ที่ชื่นชอบการเลี้ยงสัตว์เคี้ยวเอื้อง โดยมีเริ่มต้นจากการเลี้ยงโคก่อน จากนั้นจึงเปลี่ยนมาเลี้ยงแพะ “ จินดารัตน์ฟาร์ม ” ฟาร์มแพะขนาดใหญ่ จังหวัดสตูล บริหารจัดการโดย คุณวีระศักดิ์ ดุกสุขแก้ว หรือ “คุณเอ็ม”
การเลี้ยงแพะ
สำหรับฟาร์มแพะเริ่มทำมาได้ปีที่ 2 โดยคุณเอ็มได้ให้เหตุผลที่เลิกเลี้ยงโคแล้วหันมาเลี้ยงแพะว่า “การเลี้ยงวัวก็ดีครับ แต่แพะมันดีกว่า เพราะวัวเป็นสัตว์ที่ตัวใหญ่ ใช้พื้นที่ในการเลี้ยงเยอะ พื้นที่สำหรับเลี้ยงวัว 1 ตัว ใช้เลี้ยงแพะได้ 10 ตัว และการจัดการวัวก็ยากกว่า เช่น เวลาวัวไม่สบาย ต้องมีซองบังคับในการจับฉีดยา คนๆ เดียวไม่สามารถทำได้ต้องใช้ 2 คนขึ้นไป และการขยายฝูงของแพะนั้นเร็วกว่าวัว 2-3 เท่า”
การให้ลูกของแพะ ในหนึ่งปีจะได้ 1.5 รอบ ถ้าฟาร์มมีแม่แพะ 10 ตัว ในปีนั้นจะได้ลูกแพะอย่างน้อย 15 ตัว ถ้าเป็นโคมีแม่โค 10ตัว ในระยะเวลา 1-2 ปี ถึงจะได้ลูกโค 10 ตัว ซึ่งใช้ระยะเวลามากกว่า และพื้นที่มากกว่าแพะ เมื่อเปรียบเทียบในจำนวนที่เท่ากัน
สายพันธุ์แพะ
ทางจินดารัตน์ฟาร์มเลี้ยงแพะเป็นเกรดพ่อแม่พันธุ์ทั้งหมด โดยลูกแพะที่ได้จากทางฟาร์มจะขายเป็นพ่อแม่พันธุ์ โดยแพะที่ฟาร์มนำเข้าจะเป็นพันธุ์บอร์จากประเทศแอฟริกาใต้ทั้งหมด ครั้งแรกนำเข้ามา 68 ตัว และได้ขายออกไป 40 ตัว ส่วนที่เหลือจะนำมาเลี้ยงที่ฟาร์ม แล้วก็มาขยายพันธุ์ที่ฟาร์ม
นอกจากแพะบอร์แล้ว ทางฟาร์มยังมีสายพันธุ์คาลาฮารีเรด และได้นำเข้าแกะสายพันธุ์ซัฟฟอล์ค ไวท์ดอร์เปอร์ แวนรอย และพันธุ์ล่าสุดที่กำลังนำเข้ามา มีทมาสเตอร์ ปัจจุบันทางฟาร์มมีแพะอยู่ประมาณ 300 ตัว ส่วนแกะมีประมาณ 50 ตัว
ส่วนลูกแพะที่ฟาร์มนั้นเมื่อคลอดออกมาก็จะมีคนมาจอง โดยราคาจะเริ่มที่ 50,000-200,000 บาท แล้วแต่คุณภาพและพันธุกรรม ถ้าตัวไหนมีลักษณะดี ทรงสวย ราคาจะสูง ส่วนแกะก็จะขายเป็นสายพันธุ์เช่นเดียวกับแพะ
การบริหารจัดการฟาร์มแพะ
ฟาร์มเลี้ยงแพะของจินดารัตน์นั้นจะมี 2 ฟาร์ม คือ ฟาร์มที่อยู่ใกล้บ้าน ซึ่งปรับเปลี่ยนจากฟาร์มเลี้ยงโคเนื้อมาเป็นฟาร์มเลี้ยงแพะ โดยมี 3-4 โรงเรือน ที่อยู่ติดๆ กัน รวมทั้งมีคอกเลี้ยงแกะนมอยู่ติดกันด้วย และอีกฟาร์มหนึ่งอยู่ในสวนปาล์ม เป็นฟาร์มที่ออกแบบคอกแพะขึ้นมาใหม่
คุณเอ็มจะแบ่งการดูแลจัดการฟาร์มเป็น การจัดการ 80% พันธุกรรม 10% และอาหาร 10% โดยให้เหตุผลว่า“สัตว์พวกนี้เราไปฝืนธรรมชาติ โดยการนำสัตว์จากสภาพแวดล้อมแอฟริกาใต้มาเลี้ยงที่ประเทศไทย ซึ่งสิ่งแวดล้อมที่โน่นกับที่บ้านเรามันไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาพอากาศ สิ่งแวดล้อม หรือความชื้น ซึ่งความชื้นจะมีผลต่อสัตว์พวกนี้มาก ผมจึงบอกว่าแม้ว่าเราจะได้พันธุกรรมที่ดีมา หรืออาหารที่ดี แต่ถ้าการจัดการไม่ดีก็มีความเสี่ยงสูง”
การจัดการที่ดีคืออะไร การจัดการเริ่มตั้งแต่การจัดการคอก การวางแผนคอก เรื่องการถ่ายเทของลม เรื่องความเครียดของสัตว์ การจัดการเวลาเกิดโรค การวางแผนยังไงให้สัตว์ท้อง เมื่อท้องแล้วควรวางแผนยังไงต่อ เพื่อให้ลูกที่คลอดมาแข็งแรง ถ้าแม่แพะที่คลอดให้นมน้อยควรจัดการอย่างไรกับลูกที่คลอดออกมา
การให้อาหารแพะ
ส่วนอาหาร ทางฟาร์มจะแบ่งเป็นสองมื้อ เช้าและเย็น ส่วนตอนเที่ยงจะปล่อยให้แพะนอนเคี้ยวเอื้อง และปล่อยเดินเล่นเพื่อให้แพะได้ผ่อนคลาย ไม่ควรขังคอกตลอดเวลา เพราะแพะจะเป็นสัดพร้อมผสม เมื่อแพะรู้สึกสบายตัว ผ่อนคลาย ถ้าแพะถูกขังคอกตลอดเวลาจะเกิดความเครียด ความสมบูรณ์พันธุ์จะต่ำ ส่งผลต่อการเป็นสัดและการผสมติด
ทางฟาร์มเลือกใช้อาหารยี่ห้อ ORV BOERGOAT FEED มีส่วนผสมของ กากอาหารสัตว์ ถั่วอัลฟัลฟ่า ธัญพืชแปรรูป น้ำตาล โปรตีนพืช ไนโตรเจนที่ไม่ใช่โปรตีน (NPN) แร่ธาตุและวิตามิน มีคุณสมบัติ ประกอบด้วยแอมโมเนียมคลอไรด์สำหรับป้องกันนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งปลอดภัยต่อสัตว์สี่กระเพาะ
“ทางด้านอาหารที่ใช้จะเป็นอาหารสำเร็จรูปที่นำเข้ามาจากประเทศแอฟริกาใต้ เป็นสูตรที่ทางฟาร์มที่โน่นใช้อยู่แล้ว แต่จริงๆ แล้วอาหารใช้ของภายในประเทศก็ได้ ที่สามารถหาได้ง่าย เพราะจริงๆ ควรให้ความสำคัญที่การจัดการมากกว่า ถ้าพูดถึงแพะๆ ต้องการอะไร กินอยู่ยังไง ชอบหรือไม่ชอบอะไร เวลาป่วยจะแสดงอาการอย่างไร ควรมียาอะไรประจำฟาร์ม ถ้าแพะมีอาการผิดปกติควรใช้ยาอะไรรักษา” คุณเอ็มเผยถึงความสำคัญที่สุดในการเลี้ยงแพะ
ปัญหาและอุปสรรคภายในฟาร์มแพะ
เมื่อถามถึงปัญหาที่เจอตอนนำเข้าแพะ คุณเอ็มได้เผยว่า “สำหรับตัวที่ปรับตัวได้ก็จะโตได้ ส่วนบางตัวที่ปรับตัวไม่ได้แล้วตายก็มี พ่อแม่พันธุ์รุ่นแรกที่นำเข้ามามันก็เลี่ยงไม่ได้กับความสูญเสียที่เกิดขึ้น เราก็ต้องรอรุ่นถัดไปที่คลอดที่บ้านเรา ในสภาพแวดล้อม ภูมิประเทศ บ้านเรา ซึ่งรุ่นนี้จะสามารถปรับตัวกับสภาพภูมิประเทศบ้านเราได้แล้ว”
เมื่อถามถึงอาชีพคนเลี้ยงแพะ คุณเอ็มได้ให้ความเห็นว่า“อาชีพการเลี้ยงแพะถ้าเราไม่มองว่ามันเป็นอาชีพหนึ่ง เราก็จะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ คนส่วนใหญ่มองการเลี้ยงแพะเป็นแค่อาชีพเสริม พอมันเป็นอาชีพเสริมคนส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยให้ความสำคัญของความรู้และประสบการณ์ที่ต้องเรียน ผมอยากให้มองว่าอาชีพเลี้ยงแพะเป็นอาชีพๆ หนึ่ง เหมือนอย่าง หมอ วิศวะ เพราะฉะนั้นเราต้องเรียนรู้ ถ้าเราไม่เรียนรู้คิดว่ามันง่ายแล้วเลี้ยงตามคนอื่น มันไม่ประสบความสำเร็จแน่นอน เราต้องมีการศึกษาเรียนรู้ วางแผน การหาตลาด ไม่ใช่อยู่ๆ อยากเลี้ยงแพะก็ซื้อแพะเข้ามาเลย”
ฝากถึงผู้ที่สนใจเลี้ยงแพะ
และได้ฝากทิ้งท้ายถึงคนที่สนใจอยากหันมาเลี้ยงแพะว่า “การเลี้ยงแพะไม่ว่าจะเป็นพันธุ์แท้ หรือพันธุ์ผสม ก็ควรศึกษาเรียนรู้ก่อน ไม่ว่าจะเลี้ยงปลา หมู หรือสัตว์อะไร ก็ควรศึกษาก่อน คุณอาจจะเห็นเขาเลี้ยงแล้วประสบความสำเร็จ เลยเลี้ยงตามมัน อาจจะไม่ประสบความสำเร็จก็ได้ คุณควรศึกษาก่อน หาความรู้ ดูว่ามันเหมาะกับเราไหม หรือลองไปศึกษาเรียนรู้ตามฟาร์มที่เขาเปิดให้เข้าไปศึกษาเรียนรู้ หรือใครสนใจจริงๆ ลองมาฝึกงานที่ฟาร์มผมก็ได้”
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก คุณวีระศักดิ์ ดุกสุขแก้ว หรือ “คุณเอ็ม” จินดารัตน์ฟาร์ม