22การทำธุรกิจไม่จำเป็นต้องตรงกับสายที่เรียนมา เราสามารถแตกยอดความรู้ต่อได้ อย่างเช่น หนุ่มนักวิเคราะห์ระบบโปรแกรมเมอร์คนนี้ ที่ได้แตกยอดความรู้ผันตัวมาทำอาชีพด้านการเกษตร คุณดลรวี ภัทรกุลพิมล หรือ คุณลี เจ้าของฟาร์มแพะนม “ ดลรวีฟาร์ม ” ที่เริ่มเลี้ยงแพะจากความชอบ สู่การสร้างรายได้อีกช่องทางหนึ่ง
จุดเริ่มต้นการเลี้ยงแพะ
“ตอนเริ่มแรกไม่ได้คิดจะเลี้ยง ตอนนั้นทำงานเป็นฟรีแลนซ์เกี่ยวกับด้านงานวิเคราะห์ระบบคอมพิวเตอร์และโปรแกรมเมอร์ งานเริ่มเครียดและคิดว่าชีวิตต้องมีอะไรผ่อนคลาย ด้วยพื้นเพเดิมที่เป็นคนชอบอยู่กับธรรมชาติ พอดีมีเพื่อนบ้านนำเข้าแพะพันธุ์ซาแนนจากออสเตรเลีย เราเลยตัดสินใจนำแพะมาเลี้ยง”คุณลีเผยถึงที่มาของการเลี้ยงแพะ
หลังจากเลี้ยงได้ซักพักแพะเริ่ม ออกลูก ออกหลาน ให้ผลผลิตน้ำนม ตอนนั้นก็นำมาบริโภคกันเองในครอบครัว จนเริ่มมีคนมาติดต่อขอซื้อแพะ ซื้อนมแพะ จนเริ่มกลายมาเป็นธุรกิจ ซึ่งคุณลีได้เผยว่าตอนนั้นยังไม่คิดถึงเรื่องของการสร้างรายได้หรือธุรกิจจากแพะ เพียงแต่ซื้อมาเลี้ยงเพราะความชอบ
“ก็เหมือนอย่างที่เขาบอกว่า เรารักอะไรแล้วสิ่งนั้นจะตอบแทนเรา ก็คือ ธุรกิจวันนี้เหมือนสิ่งที่เรารัก เริ่มทำจากความชอบ จนมีผลผลิตและสร้างรายได้ให้กับเรา และโชคดีอย่างหนึ่งที่เราได้พ่อแม่พันธุ์ดีมา ทำให้ขยายออกมาได้จนถึงทุกวันนี้”
เมื่อธุรกิจไปได้ดี คุณลีจึงเริ่มศึกษาเกี่ยวกับแพะนมมากขึ้น ดลรวีฟาร์มดำเนินธุรกิจฟาร์มแพะนมมานานกว่า 17 ปี ที่เริ่มต้นจากแพะ 2 ตัว ปัจจุบันขยายมาเป็น 73 ตัว
“เราเลี้ยงที่ไม่ได้เน้นเชิงธุรกิจ แต่เราเลี้ยงด้วยใจรัก ทำไปเรื่อยๆ เพราะถ้าเราไปเน้นอุตสาหกรรมมากไป สิ่งที่เกิดขึ้น คือ สัตว์จะไม่ได้ใช้ชีวิตในวิถีของเขา เพราะเราต้องการผลประโยชน์จากเขามากเกินไป เราควรให้เขาอยู่กับเราแล้วมีความสุข แล้วสิ่งที่เขาจะให้เรา คือ น้ำนมที่มีคุณภาพ” คุณลีเผยถึงแนวคิดการดำเนินธุรกิจ
แต่ละธุรกิจไม่ได้ดำเนินมาง่ายๆ ย่อมมีปัญหาและอุปสรรคต่างๆ สำหรับคุณลีปัญหาที่เจอ คือ เรื่องของ “ความรู้” เพราะตอนเริ่มเลี้ยงตอนแรกๆ ยังไม่มีองค์ความรู้ พอแพะเริ่มมีจำนวนเพิ่มขึ้นปัญหาเริ่มตามมา คุณลีจึงได้ไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
“เนื่องจากแพะเป็นสัตว์ที่มาจากเมืองหนาว พอมาอยู่ในเมืองไทยที่อากาศร้อนชื้น พออากาศเปลี่ยนแพะก็ไม่สบาย เราก็ไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม และดีตรงที่เรามี รุ่นพี่ รุ่นน้อง และเพื่อนๆ ที่เป็นสัตวแพทย์อยู่หลายคน เราก็ได้ไปปรึกษามา ได้ความรู้มาระดับหนึ่งด้านปรับปรุงพันธุ์ และได้ไปศึกษาเพิ่มเติมด้านเกษตร ที่เขาจะให้ความรู้ด้านการเลี้ยง และเรื่องปัจจัยของน้ำนม”คุณลีกล่าวเพิ่มเติมถึงความรู้ที่ได้ในการเลี้ยงแพะ
ประโยชน์ของนมแพะ
นมแพะนับเป็นนมอีกชนิดที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหาร โดยมีปริมาณโปรตีนสูงสุด เมื่อเทียบกับนมชนิดอื่นๆ นมแพะ 1 แก้ว ให้โปรตีน 9 กรัม ไขมันอิ่มตัว 7 กรัม แคลเซียมประมาณร้อยละ 35 ของปริมาณที่ต้องการในแต่ละวัน รวมพลังงานทั้งหมด 170 แคลอรี่
นอกจากนี้คุณลียังได้เผยว่าทำไมนมแพะจึงเหมาะสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ “เพราะจะไปเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาว กรณีที่สอง คือ มีกรดไขมันที่มีประโยชน์ ย่อยง่าย คือ นมแพะเมื่อเราดื่มเข้าไปจะใช้เวลาประมาณ 20 นาที ในการย่อย แต่นมชนิดอื่นจะใช้เวลาประมาณ 2 – 4 ชั่วโมง”
ทั้งนี้นมแพะยังมีโปรตีน CPP หรือ Casein Phosphopeptides เป็นโปรตีนที่พบในนมแพะ มีคุณสมบัติพิเศษ คือ เป็นโปรตีนที่มีมวลโมเลกุลขนาดเล็ก นุ่ม ร่างกายสามารถดูดซึมแร่ธาตุสำคัญได้อย่างรวดเร็ว แร่ธาตุสำคัญ ได้แก่ แคลเซียม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก และ สังกะสี
ที่สำคัญแพะยังมีกระบวนการสร้างน้ำนม ที่มีลักษณะเช่นเดียวกับนมแม่ ที่มีชื่อเรียกว่า อะโพไครน์ (Apocrine) กระบวนการสร้างน้ำนมในรูปแบบนี้ ทำให้เยื่อหุ้มเซลล์น้ำนมหลุดออกมากับน้ำนมในปริมาณสูง น้ำนมจึงมีสารอาหารธรรมชาติสูง มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ย่อยง่าย
ซึ่งระบบสร้างน้ำนมแบบอะโพไครน์ จะพบในนมแม่และนมแพะเท่านั้น เพราะฉะนั้นการเลือกนมแพะที่มีกระบวนการสร้างน้ำนมเสมือนนมแม่แบบอะโพไครน์ (Apocrine) ย่อมทำให้ได้นมที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับนมแม่มากที่สุดนั่นเอง
ด้านตลาดและช่องทางจำหน่าย นมแพะ
“นมแพะ“ ยังเป็นนมที่เหมาะกับ ลูกสุนัข และ แมว มากที่สุด รองจากนมจากเต้าของ แม่สุนัข และ แม่แมว เพราะนมแพะสามารถให้ทั้ง โปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินบี 2 ทำให้สุนัขและแมวที่กินนมแพะเจริญเติบโตได้ดี เหมือนกับการได้กินนมของแม่ของเขา
และในกรณีที่สุนัขบางตัวไม่มีเอนไซม์สำหรับย่อยน้ำตาลแลคโตสในนมโคได้ เมื่อกินไปแล้วอาจทำให้สุนัขท้องเสียและอาเจียนได้ และในกรณีที่เป็นลูกสุนัขที่ยังไม่หย่านม ถ้าหากแม่สุนัขมีน้ำนมน้อย หรือไม่สามารถให้นมแก่ลูกสุนัขได้ ไม่ควรให้กินนมโค แต่ควรให้นมแพะแทนนมแม่สุนัข
เพราะนมแพะมีขนาดของเม็ดไขมันนมเล็กกว่านมโค จึงทำให้ย่อยได้ง่ายกว่า นอกจากนั้นแล้วนมแพะยังมีคุณสมบัติต้านทานโรคภูมิแพ้ที่เกิดจากนมบางชนิดได้ ไม่ใช่เพียงแค่สุนัขและแมวเท่านั้น แต่สัตว์เลี้ยงทุกชนิดสามารถบริโภคนมแพะได้เช่นกัน
ด้วยคุณสมบัติที่มากมาย จึงทำให้ตลาดนมแพะสามารถเติบโตไปได้อีกไกล ด้วยทิศทางเศรษฐกิจของนมแพะที่ยังไปได้เรื่อยๆ แต่ด้วยความที่ทางฟาร์มไม่มุ้งเน้นไปที่อุตสาหกรรม ค่อยๆ ไปเรื่อยๆ ทีละขั้น ที่สามารถเลี้ยงเราได้ เราอยู่ได้ และแพะมีความสุข
การจำหน่ายของดลรวีฟาร์มจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม สำหรับคนบริโภค และ สำหรับสัตว์เลี้ยง ฟาร์มแมว ฟาร์มสุนัข แบ่งสัดส่วนเป็น 60:40 กลุ่มสัตว์เลี้ยง ฟาร์มแมว ฟาร์มสุนัข 60% และ กลุ่มคนนำไปบริโภค 40%
การบริหารจัดการ ในแบบดลรวีฟาร์ม
สิ่งที่สำคัญในการจัดการฟาร์ม คือ ความสะอาด เพราะเชื้อโรคมีอยู่ทุกที่ ถ้าแพะภูมิคุ้มกันตกก็อาจจะติดเชื้อได้ จึงต้องรักษาความสะอาดอยู่ตลอด ทั้งตัวโรงเรือน อาหาร ขั้นตอนการรีดนม และตัวแพะเอง และสิ่งที่ต้องระวังไม่ให้แพะป่วย คือ เรื่องของสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และการจัดหาอาหารการกินที่มีคุณภาพ
ทั้งนี้หากสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลงฉับพลัน อาจทำให้แพะป่วยได้ ต้องมีการปรับสภาพแพะ และทำโรงเรือนที่สามารถป้องกัน ลม ฝน ได้
ในขั้นตอนการรีดนม จะเน้นเรื่องความสะอาดเป็นสำคัญ ก่อนรีดนมต้องล้างเต้านมแพะให้สะอาด เช็ดด้วยผ้าสะอาด รีดนมส่วนแรกทิ้ง แล้วตรวจคุณภาพน้ำนมด้วยน้ำยา CMT เพื่อให้มั่นใจว่าแพะไม่มีปัญหาเรื่องเต้านมอักเสบ และสำหรับคนรีดนมต้องล้างมือ และต้องดูแลตัวเอง ให้สะอาดก่อนรีดนม
สำหรับหลักการในการทำธุรกิจที่คุณลียึดถือ “เราต้องลงมือทำจริงๆ เราต้องเลี้ยงเหมือนกับว่าทุกอย่างต้องเสมอ แพะต้องเป็นสายพันธุ์ดี เลี้ยงให้แพะมีความสุข อาหารที่ให้แพะต้องดี มีคุณภาพ ไม่เอาเปรียบแพะ และไม่เอาเปรียบผู้บริโภค เราจะไม่ใช้สารเคมีและฮอร์โมนเร่งการการเจริญเติบโตหรือผลผลิตแพะ ให้ผลผลิตได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น ให้เป็นไปตามวิถีทางธรรมชาติของแพะ และที่สำคัญที่เราต้องมี คือ ความอดทน เพราะไม่มีความสำเร็จใดๆ จะบังเกิดขึ้นได้ ถ้าหากเราไร้ซึ่งความอดทน”
หากท่านใดสนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ทาง Facebook : Donrawee Farm – ดลรวีฟาร์ม ฟาร์มแพะนม โทร.081-674-7954, Line ID : Donravee, เว็บไซต์ : www.DonraweeFarm.com
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก คุณดลรวี ภัทรกุลพิมล หรือ คุณลี
อ้างอิง : นิตยสารสัตว์บก ฉบับที่ 341
