กุ้งขาวถือเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจของประเทศไทยมาอย่างยาวนาน เกษตรกรที่ เลี้ยงกุ้งขาว ได้กำไรจากการเลี้ยงมากเป็นอันดับต้นๆ ยิ่งในช่วงที่เนื้อหมูมีราคาที่สูงขึ้น การบริโภคสัตว์น้ำอาจมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของกุ้งขาวอาจเพิ่มมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
การเพาะเลี้ยงกุ้งขาว
ทีมงานนิตยสารสัตว์น้ำ ได้เดินทางมาที่จังหวัดระยอง เป็นจังหวัดที่ติดกับทะเล ทำให้มีการเลี้ยงสัตว์ทะเลมากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ เราได้มาพบกับ คุณโอ๋ หรือ คุณณัฏฐี กนกทิพย์พรชัย เกษตรกรที่เลี้ยงกุ้งด้วยบ่อดินมานานกว่า 15 ปี ด้วยความคิดที่ว่า “ต้นทุนน้อย กำไรต้องสูง” ไทยเอ็กตร้า พลัส จึงมีบทบาทต่อการเลี้ยงของฟาร์มคุณโอ๋อย่างมาก เพราะเป็น แร่ธาตุที่ดี ราคาถูก ทำให้กำไรที่ได้สูงไปอีกด้วย
ย้อนกลับไปสมัยรุ่น คุณพ่อ และ คุณแม่ ฟาร์มตอนนั้นมีทั้งหมด 10 บ่อ ในตอนนั้นคุณโอ๋เป็นเซลล์ขายเกี่ยวกับวงการกุ้ง เช่น อาหารสด ปลาสด และ หอยสด แต่ด้วยความที่ตนสนใจอยากเลี้ยง จึงขอแบ่งจากคุณพ่อและคุณแม่มา 1 บ่อ และทำการเลี้ยงเอง
โดยในตอนแรกได้เริ่มจากการเลี้ยงกุ้งดำ และเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมเท่านั้น แต่หลังจากที่เลี้ยงได้สักระยะ เริ่มมีกำไรเข้ามาเรื่อยๆ จึงนำกำไรที่ได้มาขยายบ่ออยู่ตลอดเวลา จนปัจจุบันมีบ่อรวมทั้งหมด 30 บ่อ มีหลายขนาด ตั้งแต่บ่อละ 1 ไร่ ไปถึง 4 ไร่ แต่จากการสัมภาษณ์ล่าสุด คุณโอ๋จะหยุดเรื่องการซื้อบ่อเพิ่ม แล้วหันไปลงทุนด้านอื่นดูบ้าง เช่น การทำเกษตรกรรม เป็นต้น เพราะจำนวนบ่อที่มีอยู่เพียงพอต่อการเลี้ยงเพื่อจำหน่ายแล้ว และอยากจะลองทำอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง
หลังเปลี่ยนจากการเลี้ยงกุ้งดำแล้วหันมาเลี้ยงกุ้งขาวได้ระยะเวลาประมาณ 10 ปี แรกเริ่มได้เลี้ยงกุ้งขาวระยะยาว โดยมีเวลาเลี้ยงประมาณ 90 วัน ถึงจะสามารถเก็บขายได้ กำไรที่ได้ก็ได้ตลอดทุกปี ไม่เคยขาดทุนเลยตั้งแต่เลี้ยงมา เพียงแต่กำไรนั้นจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนกิโลกรัมที่เก็บได้
ปัญหาและอุปสรรคในบ่อกุ้ง
แต่เมื่อการมาของโรคขี้ขาวเข้ามาในช่วง 4-5 ปีนี้ ทางบ่อของคุณโอ๋ได้ปรับเปลี่ยนระยะเวลาการเลี้ยง จาก 90 วัน เหลือเพียง 60-70 วัน เพื่อป้องกัน FCR จะหลุด หลังจากนั้นกำไรที่ได้ก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไซส์ที่ขายจะมีไซส์ 60-80 ตัว/กิโลกรัม ราคาขายปัจจุบันอยู่ที่ 180 บาท/กิโลกรัม คุณโอ๋ยังบอกอีกว่า “การเลี้ยงระยะสั้น ทำให้เราสามารถควบคุมต้นทุนได้ดีกว่าการเลี้ยงระยะยาว รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ นี้ ทำให้กำไรขายในฟาร์มเรามีทุกเดือน ไม่เคยขาดทุนสักเดือน”
ลูกพันธุ์กุ้งเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่ทำให้การเลี้ยงง่าย และสร้างเม็ดเงินจำนวนมหาศาลให้แก่ฟาร์มต่างๆ มากมาย คุณโอ๋เป็นหนึ่งในเกษตรกรที่เอาใส่ใจต่อ การคัดเลือกพันธุ์ลูกกุ้ง จึงเลือกใช้พันธุ์จาก Super P จากการลองใช้ลูกกุ้ง และเก็บข้อมูลมาหมดแล้ว ลูกกุ้งจากฟาร์ม Super P ดีที่สุด จุดเด่น คือ มีการตรวจโรคให้ตลอด อัตรารอดที่สูงกว่าฟาร์มทั่วไป พบปัญหาในการเลี้ยงต่างๆ น้อย รวมไปถึงเมื่อเทียบราคากับคุณภาพ มันจึงตอบโจทย์แนวทางในการเลี้ยง
การบริหารจัดการบ่อกุ้ง
หลังจากได้ลูกกุ้งขาวในระยะ P10-P12 มาแล้ว จะปล่อยลูกกุ้ง 100,000-150,000 ตัว/บ่อ โดยไม่มีการชำ แต่จะต้องปรับบ่อดินก่อนการลง ถ้าบ่อไหนที่มีสภาพบ่อเป็นกรด จะใส่ปูนขาวครึ่งตัน/บ่อ พักไว้ 10 วัน แล้วสูบน้ำจากบ่อพักน้ำลงด้วยความเค็ม 35 ppt ถือเป็นความเค็มที่สูงมาก และอันตรายต่อการเกิดโรค แต่เนื่องจากบ่อไม่มีบ่อพักน้ำที่ใหญ่พอ บวกกับประสบการณ์ที่มากพอ ทำให้การเลี้ยงตลอด 10 กว่าปี ไม่เคยพบปัญหาเรื่องโรคกุ้ง
อาหาร ที่ใช้จะใช้แบรนด์ที่ดัง ราคาถูก และน่าเชื่อถือได้ รวมถึงได้เคยลองใช้มาหลายแบรนด์ และเก็บข้อมูลมาหมดแล้ว แบรนด์ที่ใช้อยู่มันตอบโจทย์การเลี้ยงมากที่สุด แต่ในที่นี้คุณโอ๋ไม่สามารถบอกกับเราได้ว่าใช้ของอะไรอยู่บ้าง
วิตามินและแร่ธาตุ คุณโอ๋ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าเป็นฟาร์มเป็นบ่อดิน โรคต่างๆสามารถเป็นได้ง่าย จะให้ปัจจัยต่างๆ จาก Unity Integrate และ CisChem และ แร่ธาตุรวม ไทยเอ็กตร้า พลัส ตลอดในการเลี้ยง ตั้งแต่กุ้งลงบ่อจนถึงช่วงการจับกุ้งเลย
หลังจากได้รู้จักและใช้ ไทยเอ็กตร้า พลัส มา 2 ปีกว่า ได้ทำการเก็บข้อมูลการใช้มาตลอด สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือ กุ้งกินอาหารดีขึ้น ลอกคราบดี ตัวใส โตไว เนื้อเด้ง เปลือกแข็ง และ น้ำเขียวใส ตลอดการเลี้ยง เริ่มใช้ตั้งแต่ลูกกุ้งเล็กๆ จะใส่ 5 วัน/ครั้ง เมื่อกุ้งเริ่มโตขึ้นจะลดเป็น 3 วัน/ครั้ง จนเหลือ 1 วัน/ครั้ง เพราะความต้องการแร่ธาตุของกุ้งมีมากเมื่อกุ้งโตขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของกุ้งในแต่ละบ่อด้วย คุณโอ๋เลยอยากเชิญชวนให้พี่น้องเกษตรกรมาลองใช้แร่ธาตุรวม ไทยเอ็กตร้า พลัส เพื่อเพิ่มคุณภาพผลผลิตให้แก่ยอดขายของฟาร์ม
การบริหารจัดการฟาร์ม
หลักการทำฟาร์มของคุณโอ๋ที่ให้ประสบความสำเร็จมาถึงปัจจุบัน คือ การบริหารต้นทุนที่ดี มีหลักว่าค่าไฟจะต้องไม่เกิน 40,000 บาทต่อบ่อ องค์ประกอบภายนอกไม่สำคัญเท่าในบ่อ และดูว่าความสำคัญในส่วนนั้นว่ามากหรือน้อยขนาดไหน เช่น การเลี้ยงกุ้งของทางฟาร์มจะมีแค่เครื่องตีน้ำอยู่ที่บ่อละ 4-6 แขน การเปิด 1 แขน จะขึ้นอยู่กับสภาพการกินอาหารของกุ้ง ถ้ากุ้งกินอาหาร 1 ตัน จะเปิด 1 แขน และจะเพิ่มขึ้นทุก 1 ตัน/แขน รวมไปถึงการทำสายไฟภายในบ่อ การทำที่อยู่อาศัยในบ่อ การขุดบ่อ ทั้งหมดนี้ทางฟาร์มจัดการเองทั้งหมด ไม่จ้างให้คนภายนอกมาทำ เพราะมีราคาที่แพงมาก
คุณโอ๋ได้บอกว่า “ทางฟาร์มเน้นการเลี้ยงแบบดั้งเดิม อะไรที่ไม่จำเป็นเราจะไม่ซื้อมาใช้ เราจะเน้นของที่ถูก และมีคุณภาพที่สุด ถ้าหากควบคุมต้นทุนในส่วนนี้ได้ กำไรจะเพิ่มมากขึ้นเอง และที่สำคัญทางฟาร์มใช้เงินสดทั้งหมด เพราะการใช้เงินสดจะมีส่วนลด และซื้อของที่ถูกกว่าปกติ เช่น ลูกกุ้ง รวมไปถึง วิตามิน หรือ แร่ธาตุ ก็ตาม”
ฝากถึงเกษตรกรที่เลี้ยงกุ้ง
สุดท้ายนี้คุณโอ๋ได้ฝากถึงเกษตรกรที่เลี้ยงกุ้งในช่วงโควิดนี้ว่า “อยากให้ทุกคนเลี้ยงได้ ต้องใส่ใจและดูแลมากขึ้น ถ้าพบโรคขี้ขาวควรแก้ไขให้ถูกจุดและทันที ในช่วงนี้ที่ราคาหมูแพงขึ้น และราคากุ้งเริ่มถูกลง คนอาจจะหันมาบริโภคอาหารทะเลมากยิ่งขึ้นอีกด้วย”
สนใจสั่งซื้อ หรือสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ไทยเอ็กตร้า พลัส ติดต่อ 094-794-4789 คุณนัฐชุนันท์ กิจเหมทานนท์ (ยา) 18/2 หมู่ 8 ต.ไสหร้า อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช 80150