พันธุ์ปาล์มน้ํามัน มีวิธีการเลือกอย่างไร
- พันธุ์ปาล์มน้ํามัน ที่ดี ต้องดูว่า แหล่งผลิตเมล็ดพันธุ์ นั้นว่ามีกระบวนการผลิตที่ได้ตามมาตราฐานของกรมวิชาการเกษตร “ระบบปิด” หรือไม่ ซึ่งหมายถึง การเลือกต้นพ่อแม่พันธุ์และผสมเกศรฉีกเกสรตัวผู้ผสมลงไปในเกศรตัวเมียโดยใช้ระบบปิด คือการปิดถุงครอบโดยไม่ให้มีปัจจัยแวดล้อมอื่นไปเกี่ยวข้อง
- ต้องดูว่า ต้นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ สวนปาล์มน้ำมัน ของผู้ผลิตเมล็ด ว่าเขามีได้มีการจัดการและดูแลบำรุงรักษา คัดสรรต้นพ่อแม่พันธุ์อย่างไรเป็นมืออาชีพตามหลักวิชาการ ที่กรมวิชาการเกษตรได้ให้ไว้
- ต้องดูว่า ผู้ผลิตเมล็ด พันธุ์ปาล์มน้ํามัน นั้น มีการรับรองความบริสุทธิ์ของสายพันธุ์หรือไม่ ดูนโยบายผลิตเมล็ดพันธุ์ด้วยว่ามีความจริงใจ มีความรับผิดชอบต่อเมล็ด พันธุ์ปาล์มน้ํามัน ที่จำหน่ายหรือไม่
- ดูสถิติ ผลผลิตว่าให้น้ำหนักต่อปีมีค่าเฉลี่ยเท่าไรให้เปอร์เซ็นต์น้ำมัน ประมาณเท่าไร ซึ่งอันนี้ต้องดูได้ว่า สถิติดังกล่าวมีความเท็จจริงแค่ไหน ดังนั้นความน่าเชื่อถือของผู้จำหน่ายมีความสำคัญมาก
- ถ้าเป็นไปได้ ควรไปขอดูแปลงเกษตรตัวอย่างของเค้าว่าผลิตอย่างไร มีประสิทธิภาพตามที่ได้กล่าวไว้หรือไม่
สนใจ ติดต่อสอบถาม ฟรี
โทร. 088-385-1851 , 088-385-1852
การปลูกปาล์มน้ำมัน ให้ดก ให้น้ำมันเยาะ จะต้องมีหลักการสำคัญอย่างไร ?
นาย ณัฐดนัย สุขรัตน์ ผลผลิตเฉลี่ยในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 5.5 ตัน / ไร่ / ปี มีรายได้ประมาณ 430,000 บาท ต่อพื้นที่สวนปาล์ม 44 ไร่ ที่มีปาล์มอยู่ 2 รุ่น เพิ่งให้ผลผลิตและปาล์มอีก 6 ปี 7 เดือนนั่นเองที่ให้ผลผลิตได้เต็มที่
การวางแผนที่ดีย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง ไม่เว้นแม้กระทั่งอาชีพเกษตรกรรมที่ต้องประยุกต์การทำเกษตรให้ทันสมัย คุ้มค่ากับการลงทุนซึ่งไม่ต่างกับ นาย ณัฐดนัย สุขรัตน์ ที่เริ่มต้นสร้างชีวิตจากการทำงานในบริษัทในเมืองใหญ่ก่อนหวนกลับยึดอาชีพเกษตรกรรมที่บ้านเกิดและสนใจที่จะปลูกปาล์มน้ำมันจึงได้วานให้พี่ชายช่วยสอบถามเรื่อง ปาล์มน้ำมัน ให้เป็นข้อมูลเบื้องต้น โดยเฉพาะเรื่องสาย พันธุ์ปาล์มน้ํามัน ที่จะปลูกจนมั่นใจในคุณสมบัติของปาล์มน้ำมันสายพันธุ์ “เดลิคอมแพค์” ของ บริษัท อาร์ดี เกษตรพัฒนา จำกัด แบ่งออกเป็น 2 แปลงรวมเนื้อที่กว่า 44 ไร่ ซึ่งในช่วงแรกของ การปลูกปาล์มน้ำมัน จะมีการปลูกกล้วยแซมบนร่องปาล์มเพื่อสร้างรายได้และใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์ สร้างมูลค่าเพิ่มให้เป็นรายได้ย้อนกลับมาดูแลสวนปาล์มและศึกษาเรื่องปาล์มน้ำมันอย่างจริงจังตลอดห้วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการปลูกพันธุ์เดลิคอมแพคด้วยคุณสมบัติ ต้นเตี้ย ทางสั้น ปลูกได้จำนวนต้นต่อไร่มากกว่า ช่วยเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้มากขึ้น เนื่องจากที่ดินมีอยู่จำกัดจึงต้องแสวงหาแนวทางเพื่อที่จะเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้มากขึ้น ซึ่งในวันนี้ปาล์มทั้ง 2 แปลงมีอายุ 3 ปี 7 เดือน และ6 ปี 7 เดือน ที่สามารถให้ผลผลิตได้ทั้งหมด จึงเริ่มมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
การดูแลช่อดอก ปาล์มน้ำมัน
ขณะที่การดูแลช่อดอกช่วงแรกทางสวนก็จะปล่อยให้ต้นปาล์มเติบโตตามธรรมชาติ เมื่ออายุ 10 เดือนจะเริ่มมีช่อดอกแทงอกมาจึงต้องคอยแทงช่อดอกทิ้งเพื่อบำรุงต้นให้สมบูรณ์ ก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ที่สำคัญยังช่วยป้องกันทะลายเน่าได้ดี และจะเริ่มไว้ช่อดอกได้เมื่อปาล์มมีอายุตั้งแต่อายุ 2 ปี 6 เดือน ก่อนจะบำรุงให้สมบูรณ์พร้อมแทงช่อดอก ออกดอกให้ผลผลิตได้ดีโดยไม่ต้องผสมเกสรเพราะมีด้วงช่วยผสมเกสรได้เอง
การให้น้ําปาล์มน้ํามัน
แต่การให้น้ำ จะให้วันละ 1 ครั้ง ช่วงหน้าแล้งในช่วงเย็นหรือตอนกลางคืนป้องกันการระเหยของน้ำ ขณะที่ปาล์มต้องการน้ำ 200 ลิตร / วัน การให้น้ำตอนกลางคืนจะลดการระเหยได้ดี มีความชื้นสูงกว่า ดินจะเปียกนาน 12 ชม. ด้วยระบบน้ำแบบมินิสปริงเกลอร์แบบ 2 หัว/ต้นทุกต้น แม้จะมีต้นทุนที่สูงกว่าแต่ปาล์มเจริญเติบโตค่อนข้างดี ให้ผลผลิตดี ส่วนหน้าฝนจะไม่ให้น้ำเพราะมีความชื้นเพียงพอ ฝนตกกระจายดี ซึ่งการเติบโตของปาล์มในช่วง 3 – 4 ปีแรกนั้นผลผลิตจะดีมาก
จะพบเจอแมลงด้วงแรด โรคทะลายเน่าบ้างในช่วงต้นฤดูฝน เช่น โรคทะลายเน่าบ้าง เป็นต้น แต่ทางสวนจะป้องกันด้วยการไม่ไว้ทะลายปาล์มที่อยู่ติดกับโคนดินที่มาจากความชื้นที่ดินที่สะสมเอาไว้ หากยังไว้ลูกปาล์มนานไปจะแก้ไขยาก ทางสวนจะใช้ยากันเชื้อราชีวภาพหรือเชื้อไตรโคเดอร์ม่าและจุลลินทรีย์สังเคราะห์แสงสลับกันไป ตลอดจนการใช้ไส้เดือนฝอยเจาะทะลวงทำลายตัวหนอนได้ดีและทำให้ระบบนิเวศภายในสวนดีขึ้นด้วย ส่วนดินจะดีมี PH อยู่ที่ 6 . 2 – 6 . 5 จึงทำให้ปาล์มเจริญเติบโตดี
“ ปาล์มน้ำมัน เป็นพืชที่จัดการง่าย ไม่ยาก ปลูกได้ทุกพื้นที่ ยกเว้นที่น้ำท่วม ปาล์มปลูกได้และปาล์มยังเป็นพืชพลังงาน พืชอาหารของคน สัตว์และเครื่องจักรกินได้ ซึ่งข้อดีของเดลิคอมแพ็คคือมีจุดเด่นที่ ต้นเตี้ย ทางสั้น ทะลายโต ทะลายดกให้ผลผลิตที่ดี ข้อด้อยนั้นยังมีข้อจำกัดคือ ไม่ทนแล้ง ขาดน้ำนานไม่ได้ทะลายจะฝ่อ จึงต้องมีระบบน้ำที่ดี การปลูกปาล์มน้ำมันในพื้นที่เหมาะสมและมีปัญหาด้านพันธุกรรมบ้างคือทางใบไหม้แก้ไม่หาย ไม่ทนแล้งต้องปลูกใหม่ 4 – 5% ”
ส่วนตลาดหรือราคาผลผลิต ปาล์มน้ำมัน ซึ่งเป็นพืชอุตสาหกรรมที่มีโรงงานรองรับอยู่แล้ว โดยในพื้นที่ภาคใต้ซึ่งเป็นบ้านเกิดจะมีโรงงานรองรับในพื้นที่มากกว่า 3 โรงงาน ดังนั้นด้านตลาดจึงไม่ค่อยมีปัญหายกเว้นราคาผลผลิตในแต่ละปี แต่ละช่วงที่แปรเปลี่ยนไป เน้นตัดปาล์มสุก ต้องควบคุมคุณภาพของผลผลิต จึงต้องกำชับคนงานให้ตัดปาล์มสุกตลอด เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี ได้ราคาดีตลอดเพราะตัดปาล์มสุกราคาดีกว่า โดยไม่มีปัญหาเรื่องแรงงานเพราะจ้างเป็นบางอย่าง แต่รายละเอียดในสวนส่วนใหญ่ก็จะทำเองตั้งแต่ใส่ปุ๋ย 19 รอบ/ปี สามารถใส่ปุ๋ยได้ตลาด เพราะมีระบบน้ำดี ใส่ปุ๋ยสูตร 49-0-0, 18-46-0, 0-0-60 นอกจากนี้ยังใส่แมกนีเซียมและโดโลไมท์ ที่มั่นใจคุณภาพของสินค้า แต่ตัดปาล์มจ้างแรงงานตัด 600 บาท / ตัน ราคาปาล์มอยู่ที่ 4.40 บาท (ราคาเมื่อวันที่ 4.02.59) ขณะที่
ผลผลิตเฉลี่ยในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 5.5 ตัน / ไร่ / ปี มีรายได้ประมาณ 430,000 บาท ต่อพื้นที่สวนปาล์ม 44 ไร่ ที่มีปาล์มอยู่ 2 รุ่น เพิ่งให้ผลผลิตและปาล์มอีก 6 ปี 7 เดือนนั่นเองที่ให้ผลผลิตได้เต็มที่
“ ผมกล้าวัดเกษตรกรไทยสู้กับเพื่อนบ้านได้ อยู่ที่รัฐจะส่งเสริมหรือมีนโยบายจริงจังแค่นี้ การเกษตรไต้หวัน ญี่ปุ่น อิสราเอลเกษตรกรดี เพราะเขาบอกว่าการเกษตรกร คือ ของกินและเป็นตัวขับเคลื่อนชาติอย่างหนึ่ง แต่อุตสาหกรรมกินไม่ได้ แต่ปาล์มทานได้ ข้าวทานได้ ต้องกินให้อิ่มท้อง ตอนนี้งานปาล์มก็จัดบ่อย ชาวสวนปาล์มก็ตื่นตัวมากขึ้น ”
เกษตรกร คนเก่งยืนยันไปพร้อมกับการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้ได้ จึงอยากให้ชาวสวนปาล์มทุกคนดูแล เอาใจใส่ต้นปาล์มให้ดี ให้สมบูรณ์ ต้องศึกษาข้อมูลก่อนปลูกปาล์มเพราะเรื่องการเกษตรไม่มีสูตรสำเร็จ ไม่มีกฎตายตัว ต้องเรียนรู้และเข้าใจปาล์มเพราะเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เกษตรกรสามารถปลูกปาล์มให้เจริญเติบโตได้ดีและประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน สำคัญที่สุดปาล์มน้ำมันต้องมีนโยบาย มีรูปแบบการจัดการที่ชัดเจน ตั้งใจจริงในการพัฒนาปาล์มน้ำมันทั้งระบบ เพื่อให้ปาล์มน้ำมันไทยขับเคลื่อนไปได้ อย่างมั่นคง มีเสถียรภาพ ที่สำคัญเกษตรกรต้องหาวิธีลดต้นทุนให้มาก ทำผลผลิตให้มีคุณภาพ ทั้งนี้ต้องอยู่ที่รัฐบาลเป็นตัวแปรสำคัญ ถ้าเศรษฐกิจดี ทุกอย่างดีหมด ดีทุกภาคส่วน รัฐอยู่ได้ เกษตรกรอยู่ได้ แต่ถ้าไม่มีการควบคุมที่ดีพอเกษตรกรก็จะถูกเอาเปรียบเกินไป จึงมองว่าอนาคตปาล์มและตลาดปาล์มน้ำมันในภาพรวมของโลกแล้วยังไปรอด เดินหน้าไปได้ ปาล์มน้ำมันยังมีอนาคตสดใส
สนใจ ติดต่อสอบถามฟรี ได้ที่ คุณ ณัฐดนัย สุขรัตน์
โทร. 088-385-1851 , 088-385-1852
089-109-3993
เลขที่ 103 ม.7 ต.สวนแตง อ.ละแม จ.ชุมพร 86170
พันธุ์ปาล์มน้ํามัน
บริษัท อาร์ดี เกษตรพัฒนาจำกัด จำหน่าย ได้แก่
สายพันธุ์เดลิกาน่า
สายพันธุ์เดลิไนจีเรียแบล็ค
สายพันธุ์เดลิลาเม่
สายพันธุ์คาลิก 600
สายพันธุ์ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันสุราษ
ยูนิวานิช
สายพันธุ์ทรัพย์ ม.อ. สงขลานครินทร์
สายพันธุ์โกเด้นเทเนอร่า
สายพันธุ์ซีพีโอ ไฮบริด
สายพันธุ์ASD คอสตาริกา