การ ปลูก ทุเรียน ฝ่าวิกฤติอากาศแปรปรวน

โฆษณา
AP Chemical Thailand

การ ปลูก ทุเรียน ฝ่าวิกฤติอากาศแปรปรวน ชาวสวนทุเรียนยิ้มได้หลังปลูกทุเรียนฝ่าวิกฤติอากาศแปรปรวนด้วย “อาร์จินิค”

ต้องยอมรับว่าประเทศไทยปีนี้เกิดวิกฤติหนักมากในภาคการเกษตรทั้งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วทั้งร้อนจัดและเกิดพายุฤดูร้อนที่รุนแรง นอกจากนี้ภาคการเกษตรของไทยยังเกิดวิกฤติเรื่องน้ำเพื่อการเกษตรส่งผลให้เกษตรกรทุกสาขาอาชีพเดือดร้อนไปตามๆกัน แม้ว่าวันนี้เกษตรกรไทยบางส่วนจะเป็นเกษตรกรหัวก้าวหน้าที่มีการพัฒนาเทคนิคการปลูกและการดูแลรักษาพืชเป็นอย่างดีแต่ก็ต้องยอมสยบให้กับภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถกำหนดได้เลยในแต่ละปี สิ่งที่ทำได้ก็คือเกษตรกรทุกสาขาอาชีพต้องเตรียมตัว เตรียมพร้อมและปรับตัวให้ทันต่อเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงเพื่อให้พืชที่ปลูกได้รับผลกระทบหรือเสียหายน้อยที่สุด

 ปรึกษาเฮียตี๋ ฟรี! วิธีการปลูกทุเรียน 

 📱 โทร 081-861-3627

💚💚💚💚💚💚💚💚💚

การจัด การ ปลูก ทุเรียน อย่างเป็นระบบ
การจัด การ ปลูก ทุเรียน อย่างเป็นระบบ

เช่นเดียวกับ “ชาวสวนผลไม้” ที่มีสภาพไม่ต่างไปจากพืชอื่นๆ เนื่องจากไม้ผลส่วนใหญ่จำเป็นต้องอาศัยสภาพอากาศในแต่ละช่วงสร้างความสมบูรณ์ การเจริญเติบโต  การติดดอกออกผลเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี มีรายได้ที่ดี ไม่เว้นแม่แต่ “ชาวสวนทุเรียน” ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่สำคัญของไทยที่มีตลาดรองรับทั้งภายในประเทศและส่งออก ประกอบกับการผลิตทุเรียนในวันนี้ยังมีขั้นตอนการดูแลที่ค่อนข้างยากมากเมื่อเทียบกับอดีตที่ผ่านมา โดยเฉพาะในปีนี้ที่สภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทำให้ทุเรียนสุ่มเสี่ยงเสียหาย แต่ก็ยังมีชาวสวนหลายคนได้พยายามหาวิธีการป้องกันและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับสวนทุเรียนของตนเอง

โฆษณา
AP Chemical Thailand
ลุงอุ๋ย(ตรงกลาง)และเจ้าหน้าที่จากกลุ่มบริษัท PTG เข้าเยี่ยมชมสวนทุเรียนลุงอุ๋ย
ลุงอุ๋ย(ตรงกลาง)และเจ้าหน้าที่จากกลุ่มบริษัท PTG เข้าเยี่ยมชมสวนทุเรียนลุงอุ๋ย

 ลุงอุ๋ย หรือ นายณรงค์ ชูราษี  เกษตรกรชาวสวนทุเรียนในที่บ้านชำฆ้อ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง ที่ยึดอาชีพทำสวนทุเรียน บนเนื้อที่กว่า 40 ไร่ ซึ่งการทำทุเรียนแต่ละปีจะเห็นว่าเริ่มมีขั้นตอนการดูแลที่ค่อนข้างมากขึ้นทุกปีนั้นก็เพื่อป้องกันโรคและแมลงในแต่ละช่วงของการเจริญเติบโตที่มีมากขึ้น ซึ่งปีนี้จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าอากาศเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวทำให้พืชยากแก่การปรับตัวให้เข้ากับสภาวะอากาศที่ไม่ปกติทำให้ลุงอุ๋ยได้นำผลิตภัณฑ์คุณภาพจากบริษัท ก็อต อินเตอร์เคม จำกัด อย่าง “อาร์จินิค” เข้ามาช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับต้นทุเรียน ช่วยปรับสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก “อาร์จินิค”  มีส่วนประกอบสำคัญของกรดอะมิโนอาร์จินีน หรือเรียกอีกอย่างก็คือ แอลฟ่า-อะมิโน เป็นส่วนประกอบสำคัญที่จะเริ่มใช้ตั้งแต่ช่วงก่อนออกดอกไปถึงระยะเวลาก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิตเพื่อคุณภาพของผลผลิตที่ดี เพราะแอลฟ่า-อะมิโนมีบทบาทต่อพืชทุกชนิดเพราะมี “กำมะถัน” ที่อยู่ในรูปแบบของ “กรดอะมิโน” ที่พืชสามารถดูดซึมได้เร็ว นำไปใช้ได้ทันทีในช่วงที่ทุเรียนต้องการแม้ในสภาพอากาศที่หนาว ช่วงฝนชุกและร้อนจัด ด้วยการนำธาตุอาหารไปใช้ได้ทันทีแบบเร่งด่วนทำให้ผลผลิตดีขึ้น เนื้อทุเรียนมีสีสันที่สวยขึ้น โดยมีอัตราการใช้สารอะมิโน ( Arginic )  เพิ่มคุณภาพในการผลิตในช่วงส่งเสริมการเกิดดอก  10  ซีซี /น้ำ 20 ลิตร  การฉีดพ่นในช่วงกำจัดสภาวะเครียด  10  ซีซี / น้ำ 20 ลิตร  และช่วงการฟื้นฟูจากการรับสารเคมี  20 ซีซี /น้ำ  20 ลิตร

การใช้อาร์จินิคบำรุงต้นทุเรียนป้องกันความเสียหายจากสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างรวดเร็ว
การใช้อาร์จินิคบำรุงต้นทุเรียนป้องกันความเสียหายจากสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างรวดเร็ว

ลุงอุ๋ยย้ำถึงความมั่นใจว่าเกิดจากการตัดสินใจทดลองใช้ใน การ ปลูก ทุเรียน ช่วงแรก

หลังจากฉีดพ่นไป 2-3 ครั้งจะเห็นว่าระบบใบทุเรียนเริ่มดีขึ้น ใบจะหนา ใบเขียว ใบดำและใบสมบูรณ์ขึ้น ต้นทุเรียนมีสภาพดีขึ้น ดูมีชีวิตชีวาไม่โศกเศร้า แลดูร่าเริงจากเดิมที่ต้นทุเรียนจะมีปัญหาเรื่องใบแห้งและกรอบ รวมทั้งมีสภาพต้นไม่ค่อยดีนัก จึงเกิดความมั่นใจและหันมาใช้อาร์จินิคและผลิตภัณฑ์ของบริษัท ก็อต อินเตอร์เคลม จำกัด กับ บริษัท พี.วาย.เอ็ม.อินเตอร์โปรดักส์ จำกัด มานานกว่า 2 ปี เริ่มต้นจากหลังเก็บเกี่ยวและตัดแต่งกิ่งจะใช้ มารค์เกอร์ ที่เป็นสาหร่าย + กรดอะมิโน + ฮิวมิคแอซิด บำรุงต้น มีระบบการให้น้ำกับต้นทุเรียนด้วยระบบน้ำเหวี่ยง ใส่ปุ๋ยทางดินเพื่อสะสมอาหารให้ต้นทุเรียนสมบูรณ์ตามระยะ

ต่อมาต้นทุเรียนเข้าสู่ช่วงดอกจะบำรุงด้วย พีแคนสเปย์ ที่เป็นแคลเซียม+โบล่อน เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับดอก ช่วยให้ขั้วดอกเหนียว ลดการหลุดร่วงของดอก ทำให้ติดดอกมากขึ้น

ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้แม้ในสภาพอากาศที่แล้งจัด หนาวจัด
ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้แม้ในสภาพอากาศที่แล้งจัด หนาวจัด

หลังจากนั้นจะฉีดพ่น “พีไรด้า” หรือ “สารอีไทออน 50% w/vec เพื่อป้องกันเพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน ไรแดง ที่ต้องใช้ในอัตรา 20-40 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร  ก่อนจะทำการค้ำกิ่งทุเรียนด้วยไม้ไผ่เพื่อป้องกันกิ่งหักเมื่อมีลมและฝน หลังจากนั้นจะเน้นการดูแลอย่างใกล้ชิดทุเรียนมีอายุ 120 วันก็จะสามารถเก็บผลผลิตได้ โดยการตลาดของทางสวนจะเน้นขายให้กับล้งรับซื้อในราคา 70-80 บาท/กก. ซึ่งปีนี้ทางสวนสามารถเก็บผลผลิตทุเรียนบนเนื้อที่ 40 ไร่ สร้างรายได้หลายแสนบาทเลยทีเดียว

ลุงอุ๋ยเสริมถึงการทำสวนทุเรียนคือ การ ปลูก ทุเรียน เป็นผลไม้ที่มีการดูแลค่อนข้างละเอียด มีปัจจัยเสี่ยงจากการเสียหายทั้งจากสภาพอากาศ โรคและแมลงที่รบกวน แต่ชาวสวนก็ต้องดูแลอย่างดีเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีตรงตามความต้องการของตลาด และให้ผลตอบกับชาวสวนได้อย่างหายเหนื่อย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม นายณรงค์ ชูราษี  (ลุงอุ๋ย)

โฆษณา
AP Chemical Thailand

บ้านเลขที่ 18 ม.2 ต.ชำฆ้อ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง โทร. 092-337-4479