เลี้ยงสัตว์ในสวนยาง สวนยางผสมผสาน 400,000 บาท / ปี (ตอนที่ 2)

โฆษณา
AP Chemical Thailand

เลี้ยงสัตว์ในสวนยาง

สวนยางผสมผสาน ทั้งพืชและสัตว์ 400,000 บาท / ปี (ตอนที่ 1)

สัตว์ที่ลุงวิเวกเลี้ยงไว้ในสวนยางพารามีอยู่ด้วยกัน 5 ชนิด ได้แก่ วัวบ้าน ไก่ดำภูพาน ไก่บ้าน เป็ดพันธุ์
บาบารี่  และปลาน้ำจืดชนิดต่างๆ
เช่น ปลานิล ปลาสวาย ปลาดุก เป็นต้น เลือก เลี้ยงสัตว์ในสวนยาง เหล่านี้เนื่องจากเป็นสัตว์
ที่เลี้ยงง่าย

สามารถเลี้ยงได้ในพื้นที่ อย่างวัวเลี้ยงไว้กินหญ้าในร่องสวนยาง เป็นเครื่องตัดหญ้ามีชีวิต ไม่ต้องใช้เครื่องตัดหญ้าตัดให้เสียเวลา เอาเวลาไปทำอย่างอื่นได้ ไก่ดำภูพานเลี้ยงไว้เพื่อขายลูกพันธุ์ ขายได้ราคาดี ส่วนไก่บ้านและเป็ด

ก็เลี้ยงไว้ผลิตเนื้อและไข่ เอาไว้กินในครัวเรื่อน และจำหน่าย ผลพลอยได้ที่ตามมาจากสัตว์เหล่านี้คือ มูลของพวกมันสามารถใช้เป็นปุ๋ยคอกชั้นดีให้พืชในสวนได้

เรียกได้ว่า มีประโยชน์เกื้อหนุนกันทั้งพืชและสัตว์ ส่วนปลาก็เลี้ยงเอาไว้กินและจำหน่าย เป็นการสร้างรายได้และประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรื่อน

วัวบ้านเลี้ยงในสวนยาง
วัวบ้านเลี้ยงใน สวนยางผสมผสาน

วัวบ้าน

ลุงวิวเวกเคยเลี้ยงวัวตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า ถือว่ามีประสบการณ์เลี้ยงมายาวนาน  วัวรุ่นนี้ลงทุนซื้อลูกวัวมาเลี้ยงก่อน 2 ตัว ราคาที่ซื้อมาประมาณ 50,000 – 60,000 บาท เลี้ยงมาได้ 7 – 8 ปี ตอนนี้มีจำนวนทั้งหมด 6 ตัวเมื่อตอนน้ำท่วมเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาตายไป 1 ตัว

โฆษณา
AP Chemical Thailand

เมื่อก่อน เลี้ยงสัตว์ในสวนยาง เลี้ยงวัว เยอะกว่านี้เพราะว่าพื้นที่แถวนี้เป็นทุ่งนาหมด พื้นที่ปลูกยางยังไม่เยอะเหมือนทุกวันนี้ เลือกเลี้ยงวัวเพราะว่าเลี้ยงง่าย สามารถเลี้ยงปล่อยในร่องสวนได้เลย ยิ่งโตราคามันยิ่งแพง เลี้ยงไว้เพื่อผลิตปุ๋ยคอกและกินหญ้าในสวนยางและนอกจากนั้นยังสามารถขายให้นายหน้ารับซื้อวัวได้

เคยขายลูกวัวให้คนอื่นไปเลี้ยงต่อ ราคาตัวละ 10,000-20,000 บาท การบำรุงรักษาวัว จะให้ก้อนเกลือแร่ 1 ก้อนต่อวัว 1 ตัว มี  6 ตัว ก็ใช้ 6 ก้อน  1  ก้อนอยู่ได้นาน 2 เดือน

ซื้อมาครั้งหนึ่ง 6 ก้อน ราคาก้อนละ 55 บาท ส่วนยาบำรุงหรือพวกวัคซีนจะไปเบิกที่ปศุสัตว์อำเภอแล้วให้สัตวบาลในหมู่บ้านมาฉีดยาให้

ไก่ดำภูพาน-สวยยางผสมผสาน
ไก่ดำภูพาน-สวยยางผสมผสาน

ไก่ดำภูพาน

เลี้ยงสัตว์ในสวนยาง สามารถเลี้ยงไก่ดำได้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซื้อพันธุ์มาจากหลายที่ ทีแรกมี 20 ตัว ตอนนี้มีมากว่า 100 ตัวแล้ว ระบบการเลี้ยงจะขังในโรงเรือน เลือกเลี้ยงไก่ดำภูพานเพราะว่ามีช่วงหนึ่งไก่บ้านเป็นโรคระบาด เลยเอาไก่ดำภูพานมาเลี้ยงแทน เนื่องจากไก่ดำเลี้ยงง่ายมีความต้านทานโรคมากกว่าไก่บ้าน

เลี้ยงไว้ขายลูกพันธุ์และเก็บไข่เอาไว้กินในครัวเรือนวันละ 7 – 8 ฟอง ไข่ไก่บางครั้งก็มีเพื่อนบ้านมาขอซื้อบ้าง ส่วนลูกไก่มีคนสั่งซื้อทางเฟสบุคส์ด้วย ถ้ามีคนสั่งซื้อทางออนไลน์ก็จะส่งทางรถตู้เอา ระยะทางไม่ไกลมาก ส่วนมากส่งในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง

ยอดสั่งซื้อทางออนไลน์ครั้งละ 20 – 30 ตัวขายตัวละ 100 บาท อายุลูกไก่ที่ขายนับจากลูกไก่ฟักออกจากไข่1เดือนก็ขายเป็นลูกพันธุ์ได้ มีผลผลิตให้ทั้งปีและจับขายเรื่อยๆ

โฆษณา
AP Chemical Thailand

อาหารที่ให้เป็นสูตรอาหารที่ผสมเอง คือ มีหัวอาหารเม็ดที่ซื้อมา  1 กก. ผสมหยวกกล้วยในสวน 10 กก. รำ1 กก.และปลายข้าว 1 กก. ผสมคลุกเค้าให้เข้ากันแล้วนำไปให้ไก่ดำกิน ผสมครั้งหนึ่งก็กินได้ทั้ง เป็ด ทั้งไก่

คนที่ซื้อไปเลี้ยง จะเลี้ยงไว้กินไว้ขายก็แล้วแต่ ไก่ดำก็ยังนิยมเลี้ยงและบริโภคกัน เนื่องจากไก่ดำนั้นมีสรรพคุณทางยาในทางแพทย์แผนจีน เป็นยาชูกำลังได้ เนื่องจากมีสาร ไมอานิน ที่ทำให้ไก่มีสีดำแตกต่างจากไก่สายพันธุ์อื่น นอกจากนี้สารชนิดนี้ยังมีสรรพคุณทางยา เนื้อไก่ดำมีไขมันตํ่ากว่าสัตว์ชนิดอื่น มีโปรตีนและธาตุเหล็กสูง

ไก่ดำภูพานจัดเป็นอาหารบำรุงสุขภาพ เหมาะสำหรับผู้ป่วย คนชรา คนท้องและมารดาหลังคลอดบุตร หรือผู้ที่ต้องการบำรุงสุขภาพ ส่วนมากนิยมนำไปตุ๋นกับเครื่องยาจีน ถ้าบริโภคอย่างสมํ่าเสมอจะช่วยสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกาย ทำให้สมองแจ่มใส กระชุ่มกระชวย เสริมสร้างสมรรถภาพการทำงานของร่างกาย การกินไก่ดำมีประโยชน์ในแง่เป็นแหล่งอาหารและป้องกันโรค

ไก่บ้าน-ใน-สวนยางผสมผสาน
ไก่บ้าน-ใน-สวนยางผสมผสาน

ไก่บ้าน

เลี้ยงมาหลายปีแล้ว ตอนนี้เหลือ 30 ตัว โดยเลี้ยงปล่อยในสวน ที่เลือกเลี้ยงไก่บ้านเพราะว่าเลี้ยงง่าย ต้องการเลี้ยงเอาไว้กินใช้ประกอบอาหารในครัวเรื่อนได้ เป็นการลดรายจ่ายในครอบครัว นอจจากนี้ยังสามารถขายเนื้อได้และมูลของไก่ยังเป็นปุ๋ยคอกเอาไว้ใส่พืชในสวนได้ เรื่องขายมีขายบ้างแต่ไม่ค่อยเยอะ จับขายได้เรื่อยๆตลอดทั้งปี ยอดขายทั้งปี อาหารที่ให้เป็นอาหารที่ผสมเองสูตรเดียวกันกับที่ให้ไก่ดำภูพาน ตอนน้ำท่วมที่ผ่านมา ทำให้ไก่ไม่สบายป่วยเป็นโรคอหิวาต์ ตายไปเกือบหมดขาดทุนไป 2-3 หมื่นบาท

Muscovy_duck_pezsmarece
Muscovy_duck_pezsmarece

เป็ดพันธุ์บาบารี่

ไม่มีประสบการณ์เลี้ยงมาก่อนลงทุนซื้อลูกพันธุ์มาเลี้ยงเมื่อ 2 ปี ที่แล้ว จำนวน 300  ตัว ราคา 10,500 บาท เลี้ยงเอาไว้กินและขาย ผลพลอยได้คือมูลเป็นปุ๋ยคอกเอาไว้ใช้ในสวนยางได้ ผลผลิตตอนนี้คือเก็บไข่เอาไว้กินอย่างเดียว แต่เก็บได้ไม่เยอะ

เนื่องจากเป็ดตอนนี้เหลือ 10 ตัว สาเหตุจากน้ำท่วมเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาทำให้เป็ดอ่อนแอ ป่วยเป็นโรคอหิวาต์ตายไป เลือกเลี้ยงเป็ดชนิดนี้เพราะว่ามีอัตราการแลกเนื้อดี โตเร็ว น้ำหนักดี แต่ช่วงนี้ยังไม่ได้ขาย เก็บไข่อย่างเดียว ราคาเป็ดหน้าฟาร์มกิโลกรัมละ 70 บาท

โฆษณา
AP Chemical Thailand

อาหารที่ให้เป็นอาหารที่ผสมเองซึ่งเป็นสูตรเดียวกันกับอาหารที่ให้ไก่ดำภูพาน และไก่บ้าน การเลี้ยงตอนกลางวันก็จะปล่อยให้เป็ดลงเล่นน้ำในบ่อปลา หากินหอยเชอร์รี่ไป

ปลาน้ำจืด

เลี้ยงไว้ในบ่อดินธรรมชาติมี 2 บ่อ พันธุ์ปลาที่เลี้ยงได้แก่ ปลานิล ปลาสวาย และปลาดุก โดยเลี้ยงรวมในบ่อเดียวกัน อันดับแรกก่อนลงเลี้ยงปลาในบ่อต้องเอาขี้วัวแห้งลงในบ่อเพื่อเพิ่มจำนวนประชากรไรแดงให้มากขึ้น จากนั้นจึงปล่อยปลาลงเลี้ยง

ครั้งแรกลงปลากินพืชก่อน ได้แก่ปลานิล ปลาสวาย พอปลาอายุได้ 4 เดือน ค่อยซื้อลูกปลาดุกมาปล่อย เนื่องจากปลาดุกเป็นปลากินเนื้อจึงปล่อยลงทีหลังปลากินพืช เพื่อไมให้ปลาดุกกินปลากินพืชได้  เลี้ยงไว้กินเองในครัวเรือนและขายให้คนในหมู่บ้าน ปีหนึ่งยอดขายประมาณ 10,000 บาท

ตอนน้ำท่วมเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมาถือว่าน้ำท่วมปีนี้หนักกว่าทุกๆปี และน้ำมาเป็นระรอก ทำให้ตั้งรับไม่ทัน ประกอบกับคันดินบ่อต่ำกว่าระดับน้ำ ทำให้ปลาในหนีบ่อไปตามน้ำเกือบหมดโดยเฉพาะปลาดุก การให้อาหาร เดือนแรกจะให้อาหารเม็ดสำหรับลูกปลา ซื้อมาราคากระสอบละ 550 บาท

พอเข้าเดือนที่ 2 ให้เป็นอาหารเม็ดสำหรับปลาโต ซื้อมาราคากระสอบละ 420 บาท ใช้ได้ทั้งปลากินพืชและปลากินเนื้อ  อาหารเม็ด 1 เดือน ใช้ 3 กระสอบ นอกจากนั้นก็ให้ก้อนฟางข้าวตั้งไว้ตรงมุมบ่อ พอฟางเปื่อยปลากินพืชก็จะมากิน และเสริมด้วยรำข้าว ขี้วัวแห้ง

ซึ่งขี้วัวแห้งนานๆจะให้ครั้งหนึ่งในกรณีที่พบว่าจำนวนประชากรไรแดงมีน้อย การใส่ขี้วัวแห้งจะช่วยเพิ่มจำนวนประชากรไรแดงในบ่อปลาได้ ข้อควรระวังคือไม่ควรใส่มากจนเกินไปเพราะจะทำให้น้ำเสียได้

โฆษณา
AP Chemical Thailand
คุณลุง-วิเวก-บุญช่วย-เกษตรกรชาว-สวนยางผสมผสาน-จังหวัดนครศรีธรรมราช-
คุณลุง-วิเวก-บุญช่วย-เกษตรกรชาว-สวนยางผสมผสาน-จังหวัดนครศรีธรรมราช-

สรุปแล้วการ เลี้ยงสัตว์ในสวนยาง ผสมผสานในสวนยางนั้นไม่ได้ทำให้ชีวิตยุ่งยากอะไร การที่พืชและสัตว์สามารถอยู่ร่วมกันได้ถือเป็นเรื่องที่ดีสัตว์ให้ปุ๋ยคอกแก่พืช พืชอย่างเช่นหญ้าหวายข้อ ก็เป็นอาหารให้วัวได้ เรียกได้ว่าเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน ถ้าพูดความยากไม่มีเลย อย่างเช่นไก่บ้านก็เลี้ยงปล่อยตามธรรมชาติ

ให้มันขุ้ยเขี่ยหาอาหารเองตามธรรมชาติ อาหารเราก็มีเสริมให้บ้างเป็นพวก ปลายเข้า เป็นต้น แต่ไก่ดำนั้นไม่ได้เลี้ยงปล่อย เราเลี้ยงขังไว้ในคอก เพราะเราเลี้ยงลูกไก่ เพื่อจำหน่าย มันตัวเล็ก ต้องได้รับการดูแลที่ดี จึงต้องเลี้ยงไว้ในคอก เพื่อลดอัตราการตาย และไก่จะได้แข็งแรง

ขายได้หลายตัวและได้ราคาดี มูลสัตว์บกทั้งหลาย ทั้งขี้วัว ขี้เป็ด ขี้ไก่ ที่ได้ก็จะใส่กระสอบรวบรวมเอาไว้แล้วนำไปใส่ให้พืชที่ปลูกทุกชนิดในสวน โดยใส่เดือนละ 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 300 กระสอบ ถ้าไม่พอก็ไปซื้อมาเสริมบ้าง แต่ก็ซื้อไม่เยอะ เพราะเรามีของเราอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าซื้อมาสมทบกัน ให้เพียงพอต่อปริมาณที่เราใช้เท่านั้น

การปลูกยางพาราผสมผสาน มีข้อดีกว่าการปลูกยางอย่างเดียวตรงที่ ถ้ากรีดยางอย่างเดียวนี่ มันจะได้ขาย
แค่ยาง พอช่วงปิดหน้ายางก็ไม่มีอะไรขายรายได้จากยางมีแค่ช่วงเดียว แต่พอมาปลูกหลายอย่างผสมกัน มันทำให้เรามีของขายมากขึ้น มีเงินเข้าทุกวัน ทำให้มีเงินใช้หมุนเวียนตลอดทั้งปี  ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าเดิม มีเงินส่งลูกหลานเรียนหนังสือและมีเงินเก็บเป็นทุนทรัพย์ต่อยอดทำการเกษตรในสวนได้

 

ปลูกยางพาราผสมผสาน เพิ่มภาระหรือกำไร???

เป็นภาระมั๊ย ไม่ถึงกับเป็นภาระ  แต่เรียกว่าพิถีพิถันมากขึ้น อย่างเช่นเรื่องการให้ปุ๋ยเคมี เนื่องจากยางพารากับพืชชนิดอื่นใช้ปุ๋ยเคมีต่างสูตรกัน แต่ส่วนใหญ่จะให้เป็นปุ๋ยคอกมากกว่า พวกขี้วัว ขี้ไก่ ขี้เป็ดซึ่งเป็นผลพลอยได้จากสัตว์ที่เราเลี้ยงอยู่ พี่ชาญชัยบอกว่า

“ถามว่าช่วงมังคุดออกผลเยอะเก็บกันยังไงให้ทันกับกรีดยาง? ช่วงนั้นเราก็หยุดกรีดยางไปเลย มาเก็บมังคุดอย่างเดียว 1 วัน เก็บได้ประมาณ 1 ตันหรือประมาณ  40 เข่ง  เก็บ 2 เดือน กว่าจะหมด เพราะมันทยอยสุกเรื่อยๆ”

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ที่สวนมีการทำบัญชีงบดุลฟาร์มทำในรูปแบบของบัญชีรายรับรายจ่ายในครัวเรื่อนที่ ธกส.สนับสนุนให้ทำตั้งแต่ปี 2554 สรุปต้นทุนทั้งหมดในปี 2559 ที่ผ่านมาคือ 30,000 บาท แต่มีรายรับทั้งปีถึง 300,000-400,000 บาทถือว่าคุ้มมาก ปลูกยางพาราผสมผสานมีเงินหมุนเวียนทั้งปีเป็นแสนตอนนี้ผลผลิตที่ขายได้มีผักเหลียง ยางพารา ไก่ และก็ปลา รายได้ส่วนมมากมาจากยางพาราเนื่องจากให้ผลผลิตยาวนานกว่าพืชชนิดอื่นและได้น้ำหนักมากกว่าพืชชนิดอื่น เดือนหนึ่งขายได้เป็นเงิน 250,000-380,000 บาท/เดือน

สวนยางผสมผสาน-ของลุง-วิเวก
สวนยางผสมผสาน-ของลุง-วิเวก

น้ำท่วมปัญหาใหญ่ของสวนยางผสมผสานกับ

เลี้ยงสัตว์ในสวนยาง

ปัญหาปกติจะไม่ค่อยมี หลักๆจะมีปัญหาตอนน้ำท่วม เนื่องจากพื้นที่สวนเป็นพื้นที่ราบ แต่ไม่ได้เรียบสม่ำเสมอกัน มีพื้นที่สูง พื้นที่ต่ำ พอท่วมแล้วจะเป็นปัญหากับสัตว์มากกว่าในพืช เนื่องจากพืชที่ปลูกทนน้ำท่วมอยู่แล้ว อย่างต้นยางพารากับต้นมังคุดก็ทนน้ำท่วมได้ 2 เดือน

แต่หลังจากน้ำลดอย่าไปเหยียบย้ำที่โคนต้นเพราะจะทำดินบริเวณโคนต้นแน่นและทำให้รากเน่าได้ ตัวอย่างปัญหาที่พบในพืชได้แก่ หนอนกินยอดมังคุด มีไม่เยอะจนทำให้ผลผลิตเสียหายจึงไม่ได้ใช้สารเคมีกำจัด พอฝนตกมาหนอนมันก็หายไปและ ปัญหาเรื่องต้นยางพาราบังแสงต้นมังคุด

ในช่วงที่มังคุดออกดอกติดผล ถ้าต้นยางพาราบังแสงจะทำให้มังคุดไม่ติดผล เราก็แก้ปัญหาโดยการตัดแต่งกิ่งต้นยางพาราให้โปร่ง เพื่อให้แสงแดดส่องลงมาโดนต้นมังคุด

ส่วนปัญหาที่พบในสัตวนั้นได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากน้ำท่วมปีนี้หนักกว่าปีที่ผ่านๆมา น้ำมาเป็นระรอก จึงตั้งหลักไม่ทัน อพยพสัตวขึ้นที่สูงกันไม่ทัน ตัวอย่างปัญหาที่พบได้แก่

  1. ไก่ เป็ดและวัวตาย ในช่วงเดือน ม.ค.- ก.พ. ที่ผ่านมา ป่วยเป็นโรคอหิวาต์ตายไปเกือบหมด ขาดทุนไป2-3 หมื่นบาท ถามว่าท้อไหม มีท้อบ้าง แต่ก็ต้องทำเพราะมันเป็นของของเรา มันเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงชีวิตคนในครอบครัว แนวทางการแก้ปัญหาปีหน้าได้แก่ วัวต้องเอาขึ้นสูง  เสริมความสูงของคอกสัตว์ปีกให้สูงขึ้น          
  2. ปลาไปกับน้ำ ปลาที่เลี้ยงไว้ในล่อ ได้แก่ ปลานิล ปลาสวาย ปลาดุก ตอนน้ำท่วมนั้น ขอบบ่อต่ำกว่าระดับน้ำ ปลาจึงไปกับบ้ำหมด โดยเฉพาะปลาดุก เหลือแต่ปลาสวายกับปลานิล
สวนยางผสมผสาน
สวนยางผสมผสาน

ตอนนี้ก็ลงปลาดุกใหม่แล้ว ลงลูกพันธุ์ปลาดุกไป 1,000 ตัว ซื้อมาราคาตัวละ 60 สตางค์ รวมเป็นเงิน 600 บาท แนวทางแก้ไปปัญหาเพื่อรับมือกับน้ำท่วมปีหน้าคือ ต้องยกขอบบ่อให้สูงกว่าเดิมอีก และเสริมตาข่ายล้อมขอบบ่อกันปลาหนีไปกับน้ำอีก

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ปัญหาน้ำท่วมในช่วงเดือน ม.ค.- ก.พ.ที่ผ่านมา ท่วม 1 เดือนและใช้เวลากว่าน้ำจะแห้งอีก 1 เดือน รวมเป็น 2 เดือนเต็ม ซึ่งพี่ชาญชัยบอกว่า ปีนี้น้ำท่วมหนักกว่าปีที่ผ่านๆมา น้ำมาเป็นระรอก

ทำให้ตั้งตัวไม่ทันและเคลื่อนย้ายสัตว์ไม่ทันเสียหายโดยรวมแล้ว 4-5 หมื่นบาท แต่โชคดีที่หน่วยงานของรัฐบาลลงมาดูแล สำรวจความเสียหาย และให้เงินชดเชยจากอุทกภัยครั้งนี้รายละ 3,000 บาท

สวนของลุงวิเวกเข้าร่วมโครงการประกวดสวนสวยทุกๆปี เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีสมาคมผู้ปลูกและผู้ซื้อมังคุด มาเยี่ยมชมสวน เพื่อมาประเมิณการแข่งขันประกวดสวน และที่สวนเคยได้รางวัลสวนมังคุดสวยลูกโตด้วย

ซึ่งลุงวิเวกภูมิใจมาก และลุงวิเวกยังชักชวนให้เกษตรกรสวนยางพาราท่านอื่น หันมาลองปลูกยางพาราผสมผสานแบบลุง เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะราคายางผันผวน

นอกเหนือจากหน้ากรีดยางก็มีพืชอย่างอื่นไว้ขายได้สร้างรายได้ตลอดทั้งปี ลูกหลานจะได้มีงานทำตลอดทั้งปี ไม่ว่างงาน มีงานก็มีเงิน หากเกษตรกรท่านใดสนใจการปลูกยางพาราผสมผสานกับการเลี้ยงพืชและสัตว์  สามารถลงพื้นที่ไปดู ขอคำปรึกษาจากลุงวิเวกได้ ติดต่อลุงวิเวกโทร 099-671-3204

สวนยาง แบบผสมผสาน ต้องแบบนี้ซิ..ถึงจะใช่