ใบมันสำปะหลัง ประโยชน์ได้ที่มหาศาล ทำปุ๋ยอินทรีย์ หรือเก็บขาย โรงงานอาหารสัตว์
การปลูกมันสำปะหลัง จะต้องมีใบมันสำปะหลัง เป็นผลพลอยได้เสมอ เมื่อ ต้นมันสำปะหลัง ถึงอายุเก็บเกี่ยว ใบมันสำปะหลัง ส่วนด้านล่างของลำต้น มักจะร่วงหล่นจนหมด และเหลือแต่ใบมันสำปะหลัง ที่อยู่ตรงส่วนยอด ซึ่งก่อนการเก็บเกี่ยวหัวมันสำปะหลัง เกษตรกรมักจะต้องเด็ดเอาส่วนยอดของต้นมันสำปะหลังออกก่อน แล้วจึงทำการขุดหัวมัน ซึ่งยอดมันสำปะหลังเหล่านั้นจะถูกทิ้งในแปลงปลูกโดยไร้ค่า
ในขณะที่นักวิชาการส่วนหนึ่งบอกว่านั่น เป็นการเอาธาตุอาหารบางส่วน กลับลงไปในดิน อย่างไรก็ตาม ใบมันสำปะหลัง ก็เหมือนใบพืชทั่วไป คือ มีองค์ประกอบโภชนะต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตัวสัตว์อยู่ด้วย การใช้ใบมันสำปะหลัง เพื่อเป็นปุ๋ยอินทรีย์ แก่ต้นมันสำปะหลัง นับว่าเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะ ใบมันสำปะหลัง มีมูลค่าตามองค์ประกอบทางเคมีสูงมาก
และการนำใบมันสำปะหลัง ดังกล่าวมาแปรรูปและใช้ประโยชน์เป็น วัตถุดิบอาหารสัตว์ จะทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มกับใบมันสำปะหลังมากกว่า และเป็นวิธีการหนึ่งที่จะเพิ่มแหล่งที่มาของโภชนะต่างๆ เพื่อใช้ในการเลี้ยงสัตว์
นอกจากนี้ใบมันสำปะหลัง ยังมีลักษณะเฉพาะ ตัวหลายประการที่เป็นประโยชน์ต่อตัวสัตว์ ในขณะที่เกษตรกรเองก็จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้นจากการขายใบมันสำปะหลัง จากนั้นจึงแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งไปซื้อปุ๋ยอินทรีย์อย่างอื่นที่มีราคาถูกกว่า
และมีคุณค่าทางอาหารพืชดีกว่าใบมันสำปะหลัง เช่น ปุ๋ยของเสียจากฟาร์มปศุสัตว์ เป็นต้น มาใส่กลับคืนแปลงปลูกมันสำปะหลัง ทั้งในรูปปุ๋ย ที่ใส่ทางตอน และปุ๋ยน้ำฉีดพ่นทางใบ ซึ่งจะทำให้มันสำปะหลัง ได้รับปริมาณธาตุอาหารเพิ่มมากขึ้น และให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นในการปลูกครั้งต่อไปด้วย
ใบมันสำปะหลัง
ค่าอาหารหลัก
ยอดมันสำปะหลัง และใบมันสำปะหลัง ที่เก็บได้อาจถูกหั่นให้เป็นชิ้นเล็ก และผึ่งแดดให้แห้ง ซึ่งปกติจะใช้เวลาเพียง 1-2 วัน ในกรณีแดดดี ๆ แล้วบดละเอียด ก็จะได้ใบมันสำปะหลังป่น ( Cassava leaf meal ) ที่พร้อมใช้เป็นอาหารสัตว์ได้ ใบมันสำปะหลังป่นดังกล่าวจะมี
- โปรตีนโดยเฉลี่ย 2.3 %
- ไขมัน 6.3 %
- เยื่อใย 15.4 %
- และมี พชด.สุกร และสัตว์ปีก 2,495 และ 1,678 กค. / กก. ตามลำดับ
นอกจากนี้ใบมันสำปะหลังป่นยังมีสารแซนโทฟิลล์ ( xanthophyll ) ซึ่งเป็นสารให้สี ( pigment ) สำหรับไข่แดงของไข่ไก่ เป็ด ฯลฯ และสารสีเหลืองสำหรับผิวหนังของไก่ด้วย ในปริมาณโดยเฉลี่ย 350 มก./ กก. ( Hang 2007)
กรดไฮโดรไซยานิค และ ข้อควรระวัง
ใบมันสำปะหลังไม่มีสารพิษหรือสารขัดขวางโภชนะใดๆ ที่จะเป็นอันตรายต่อตัวสัตว์เลย ถึงแม้ว่าใบมันสดจะมีสารพิษกรดไฮโดรไซยานิค (HCN) ในปริมาณสูง และเป็นอันตรายต่อตัวสัตว์ได้ หากนำไปเลี้ยงในสภาพใบมันสำปะหลังสดนั้น
แต่ในการทำใบมันสำปะหลังป่น ใบมันจะถูกเก็บเกี่ยวมาจากต้น ถูกหั่นหรือสับเป็นชิ้นเล็กๆ และผึ่งแดดจนแห้ง ซึ่งในกระบวนดังกล่าวกรดไฮโดรไซยานิคในใบมันสำปะหลังจะเกิดการสลายตัวและระเหยออกสู่บรรยากาศ ทำให้ปริมาณสารพิษกรดไฮโดรไซยานิคในใบมันสำปะหลังแห้งเหลืออยู่ในปริมาณต่ำกว่า 10 ส่วน ต่อล้าน (ppm.)
ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อตัวสัตว์ การใช้ใบมันสำปะหลังป่นเป็นอาหารสัตว์ซึ่งไม่ต้องกังวลเรื่องสารพิษกรดไฮโดรไซยานิคแต่ประการใด แต่สารพิษกรดไฮโดรไซยานิคในระดับต่ำดังกล่าวในใบมันสำปะหลังป่น มีผลทำให้สัตว์มีการสร้างภูมิต้านทานโรคของตัวเองดีขึ้น
ประโยชน์ในมันสำปะหลัง ต่อ ไก่เนื้อ
นอกจากนี้ ใบมันสำปะหลัง ยังประกอบไปด้วยสารออกฤทธิ์ตามธรรมชาติ ( natural active ingredients ) เช่น สารแทนนิน สารฟลาโวน สารไอโซฟลาโวน สารแคโรทีนอยด์ ฯลฯ ซึ่งสารเหล่านี้ล้วนมีหน้าที่เป็นทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ ( anti-oxidants )
ที่ไปช่วยลดผลเสียต่าง ๆ จากความเครียดที่สัตว์ได้รับ และทำให้ตัวสัตว์มีการสร้างภูมิต้านทานโรคต่าง ๆ ได้ดีขึ้น สารเหล่านี้บางชนิดยังมีฤทธิ์เป็นยาธรรมชาติ ช่วยในการฆ่าเชื้อโรคในร่างกายด้วย ผลการใช้ ใบมันสำปะหลังป่น ในสูตรอาหารสัตว์
โดยรวมพบว่าใบมันสำปะหลังป่นนอกจากจะเป็นแหล่งให้โภชนะต่าง ๆ แก่ตัวสัตว์แล้ว ยังเป็นแหล่งให้สารออกฤทธิ์ธรรมชาติและตัวยาธรรมชาติที่ช่วยในการสร้างเสริมความต้านทานโรคของสัตว์ ทำให้สัตว์แข็งแรง และมีสุขภาพดี สามารถลดการใช้ยาปฎิชีวนะในการเลี้ยงสัตว์ หรือไม่จำเป็นต้องใช้เลยในหลายกรณี
แสดงให้เห็นว่าการใช้ใบมันสำปะหลังในสูตรอาหารไก่เนื้อในระดับ 5 % ในสูตรอาหาร ช่วยทำให้ไก่เนื้อมีการพัฒนาระบบความต้านทานโรคในร่างกายดีกว่าสูตรอาหารปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดยที่ไก่เนื้อมีสมรรถภาพการผลิตด้อยกว่าไก่เนื้อที่กินอาหารปกติเล็กน้อย เนื่องจากไก่เนื้อเป็นสัตว์ที่มีความไวต่อระดับเยื่อใยสูง
การใช้ใบมันสำปะหลังป่นในระดับ 5 % ในสูตรอาหาร มีผลทำให้อาหารมีระดับเยื่อใยสูงขึ้น และเริ่มทำให้สมรรถภาพการผลิตของสัตว์ด้อยลง แต่การใช้ ใบมันสำปะหลังป่น ในระดับดังกล่าวก็เพียงพอที่จะทำให้ไก่เนื้อมีความทนทานต่อโรคต่าง ๆ มากขึ้นแล้ว
จึงอาจทำให้สามารถลดการใช้ยาปฏิชีวนะหรือสารเคมีในการเลี้ยงสัตว์ลงได้ หรืออาจไม่ต้องใช้เลย ซึ่งจะเป็นหนทางหนึ่งในการผลิตสัตว์ไก่เนื้อแบบอินทรีย์ หรือแบบไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะในเชิงปฏิบัติได้
ประโยชน์ในมันสำปะหลัง ต่อ สุกร ไก่ไข่ เป็ดไข่
สุกร และไก่ไข่ รวมทั้งเป็ดไข่ เป็นสัตว์ที่มีความทนทาน ต่อระดับเยื่อใย ในอาหารสูงกว่า ไก่เนื้อมก ดังนั้นสัตว์เหล่านี้จึงสามารถใช้ใบมันสำปะหลังป่น ในสูตรอาหารได้ถึง 10 – 15 % อย่างไรก็ตามระดับที่ใช้ใบมันสำปะหลังป่นในสูตรอาหารต้อง ไม่ทำให้ระดับเยื่อใย ในสูตรอาหาร สูงเกินกว่าระดับ ที่สัตว์สามารถทนได้
การใช้ใบมันสำปะหลัง ระดับสูงเกิน ในสูตรอาหารจะ ไม่มีผลทำให้สัตว์ตาย แต่จะทำให้ อาหารมีลักษณะ ฟ่ามมาก สัตว์กินอาหาร ได้น้อย นอกจากนี้อาหารจะมีระดับเยื่อใยสูง
ทำให้ประสิทธิภาพ การย่อยอาหารของสัตว์ด้อยลง การเติบโตของสัตว์ลดลง และประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ของอาหาร หรืออาหาร / นน.เพิ่ม ด้อยลง จึงอาจทำให้ต้นทุนค่าอาหารในการผลิตสัตว์ 1 กก. เพิ่มมากขึ้นในบางกรณี
ใบมันสำปะหลังหมัก ( ensilaged cassava leaf )
ใบมันสำปะหลังอาจนำมาใช้เป็นอาหารสุกรได้อีกวิธีหนึ่ง โดยการทำเป็น ใบมันสำปะหลังหมัก ( ensilaged cassava leaf ) โดยการใช้ยอดมันสำปะหลัง และ / หรือ ใบมันสำปะหลัง มาสับให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วบรรจุในภาชนะที่ถุงพลาสติกเหนียว ( อาจใช้ถุงขยะดำ ) หรือภาชนะอื่น ๆ ก็ได้ที่สามารถกันให้อากาศรั่วเข้าไปได้
โดยอัดใบมันสดในภาชนะให้มีความแน่นสูง มีอากาศหลงเหลืออยู่น้อย แล้วปิดถุงให้สนิท ไม่ให้อากาศเข้า เก็บทิ้งไว้ประมาณ 14 – 21 วัน จากนั้นก็นำใบมันสำปะหลังหมักในถุงหรือในภาชนะบรรจุนั้นออกมาเลี้ยงสุกรในสภาพเปียกๆ ได้เลย
ใบมันสำปะหลังหมักดัง กล่าวสามารถเก็บไว้ได้เป็นเวลานานหลายเดือน ตราบใดที่ไม่มีอากาศรั่วเข้าไปในภาชนะที่บรรจุใบมันสำปะหลังหมักนั้น จึงเป็นการเก็บ ใบมันสำปะหลังไว้ใช้ได้ อย่างต่อเนื่องวิธีหนึ่ง การหมักใบมันสำปะหลังด้วยวิธีการดังกล่าว ช่วยลดปริมาณสารพิษกรดไฮโดรไซยานิคในใบมันสำปะหลังหมักได้ต่ำลง จนไม่เป็นอันตรายต่อตัวสัตว์
นอกจากนี้จุลินทรีย์ที่ผลิตก รดแลคติคและจุลินทรีย์อื่น ๆ ที่มีใน ใบมันสำปะหลังหมัก รวมถึงกรดอินทรีย์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในขณะหมักใบมันสำปะหลัง จะเป็นตัวช่วยในการสร้างเสริมสุขภาพของสุกรให้ดีขึ้นด้วย
จากการทดลองในภา คสนามพบว่าการใช้ ใบมันสำปะหลังหมัก รวมกับอาหารปกติในการเลี้ยงสุกร ทำให้สุกรมีการเติบโต และคุณภาพซากเป็นปกติ แต่สุกรที่กินอาหารผสมใบมันสำปะหลังหมักจะมีสุขภาพดีมาก ไม่มีอาการเจ็บป่วย และแทบไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะในการเลี้ยงสุกรนั้นเลย
ซึ่งก็อาจเป็นห นทางหนึ่งในการเลี้ยงสัตว์แบบอินทรีย์ หรือแบบไม่ต้องใช้สารเคมีในการเลี้ย งสัตว์ได้เช่นกัน ทั้งนี้อาจเนื่องจากคุณสมบัติใ นการเสริ มสร้างสุขภาพสัตว์ของใบมันสำ ปะหลังนั่นเอง แต่จากการสังเกตพบว่าใบมันสำปะหลังหมักจะให้ผลดีต่อสุขภาพสัตว์มากกว่าใบมันสำปะหลังป่น
อย่างไรก็ตามใบมันสำปะหลังหมักอาจไม่สะดวกในการใช้เลี้ยงสุกรของฟาร์มขนาดใหญ่ที่เลี้ยงสุกรปริมาณมาก และต้องใช้อุปกรณ์ต่างๆ เข้ามาช่วย เพื่อการให้อาหารแบบแห้ง หรือการให้อาหารเหลว
การใช้ใบมันสำปะหลัง หมักในการเลี้ยงสุกรอาจเหมาะสมกับฟาร์มขนาดกลาง และเล็ก ที่ยังใช้แรงงานในการให้อาหาร และสามาร ถผสมใบมันสำปะหลังกับอาหารแห้งก่อนการเลี้ ยงสุกรได้ หรือสามารถให้ใบมันสำปะหลังหมักเป็นอ าหารเสริมในการเลี้ยงสุกรได้
ซึ่งก็จะเป็นทางหนึ่งในการช่วยเพิ่มปร ะสิทธิภาพการเลี้ยงสุกรของเกษตรกรกลุ่มนี้ให้สามารถแข่งขันกับเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายใหญ่ หรือผู้ประกอบการเลี้ยงสุกรแบบครบวงจรได้ตลอดไป