หลายคนเชื่อว่าเป็นยาบำรุงร่างกาย และรักษาโรคได้ ทำให้ความต้องการของตลาด รังนกนางแอ่น หรือที่ใครหลายคนเรียกว่า “นกอีแอ่น” สูงขึ้น จนไม่เพียงพอกับอุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์รังนก ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ที่สนใจหันมาทำฟาร์มเลี้ยงนกนางแอ่นกันมากขึ้น
การเลี้ยงนกนางแอ่น
คุณชะลิต ระวังภัย ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดระนอง และสมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ เจ้าของ “เบิร์ดเบิร์ด ระนอง รังนก” เลขที่ 29 ม.7 ต.ลำเลียง อ.กระบุรี จ.ระนอง เป็นอีกท่านหนึ่งที่ทำฟาร์มเลี้ยงนกนางแอ่น สร้างรายได้แบบเบิร์ดเบิร์ดตลอดทั้งปี ซึ่งปัจจุบันทำมาได้ 5 ปีแล้วโดยสาเหตุที่เลือกทำอาชีพนี้ เพราะรู้สึกเบื่อหน่ายกับภาคการเกษตร เรื่องผลผลิตราคาตกต่ำ
จึงปรับเปลี่ยนแนวความคิด ดังสโลแกนที่ว่า “เมื่อเปลี่ยนแนวความคิด ชีวิตชะลิตก็เปลี่ยน การเลี้ยงนกนางแอ่นไม่ต้องใส่ปุ๋ย ไม่ต้องรดน้ำ ไม่ต้องให้อาหาร ไม่มีค่าแรง คนอยู่ได้ นกนางแอ่นก็อยู่ได้ นั่งดู นอนดู ก็มีเงินใช้ สู่รุ่นลูก รุ่นหลาน”
สภาพพื้นที่เลี้ยงนกนางแอ่น
สำหรับการเลี้ยงนกนางแอ่นนั้น การลงทุนครั้งแรกค่อนข้างสูง หรือใช้เงินประมาณ 2-5 ล้านบาท แล้วแต่จะสร้างหลังเล็ก หรือหลังใหญ่ ส่วนตึก (ที่อยู่อาศัยของนก) ของคุณชะลิต มีขนาดความกว้าง 4 เมตร ยาว 20 เมตร สูง 12 เมตร หรือ 3 ชั้น สร้างเป็นที่อยู่อาศัยคล้ายคลึงธรรมชาติมากที่สุด เพราะโดยธรรมชาติของนกนางแอ่นแล้วไม่สามารถเพาะเลี้ยงหรือจับมาขังกรงให้อยู่ในที่ที่สร้างขึ้น
เพราะฉะนั้นจะต้องเข้าใจหลักธรรมชาติของมัน เช่น ลักษณะการบินของนกนางแอ่นที่บินวนซ้ายหรือขวา และใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นกนางแอ่นเข้ามาอาศัยและสร้างรัง เฉกเช่นเดียวกับที่เกาะ ซึ่งอาจมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น เสียง แสง ความชื้น และอุณหภูมิ โดยอุณหภูมิความชื้นภายในควรเฉลี่ยอยู่ที่ 27-30 องศาเซลเซียส หากมากกว่านั้นจะทำให้นกไม่สามารถอยู่ได้ หรืออาจทำให้รังนกแห้ง และมีความเปราะบาง แต่หากนกนางแอ่นเข้ามาอยู่อาศัยแล้วจำนวนก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“แต่การเลี้ยงนกนางแอ่นอาจไม่เหมือนกับอาชีพอื่นทั่วไป ที่ลงทุนแล้วจะได้ผลผลิตเลย จะต้องอาศัยระยะเวลาอย่างน้อย 3 ปี จึงจะเก็บผลผลิตได้ และจะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ในปีถัดไป”
ส่วนการเลือกทำเลในการสร้างฟาร์มเลี้ยงนกนางแอ่น ควรอยู่ใกล้กับชายทะเล และมีอุณหภูมิที่เอื้ออำนวยต่อการเลี้ยง ซึ่งในเขตพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมด เช่น จังหวัดชุมพร ระนอง นครศรีธรรมราช สุราษฏร์ธานี พังงา กระบี่ ภูเก็ต จนสุดเขตภาคใต้ เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุด อีกทั้งแหล่งรังนกตามธรรมชาติอย่างหมู่เกาะต่างๆ ส่วนใหญ่ก็อยู่ในเขตพื้นที่ภาคใต้เช่นกัน ปัจจุบันคุณชะลิตมีตึกที่เลี้ยงนกนางแอ่นจำนวน 2 หลัง สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตทวีคูณขึ้นไปทุกปีโดยไม่มีข้อจำกัด
การบำรุงดูแลนกนางแอ่น
นกนางแอ่นนอกจากจะทำรังในถ้ำ อาคาร บ้านเรือน และที่ที่สร้างขึ้นแล้ว ธรรมชาติของเขาจะมีลักษณะพิเศษกว่านกชนิดอื่น คือ สามารถส่งคลื่นเสียงเพื่อค้นหาทิศทางในที่มืดคล้ายกับพวกค้างคาวได้ และสามารถบินได้สูง 12-25 กิโลเมตร ด้วยความเร็วเฉลี่ย 90-120 กม./ชม. ส่วนการทำรังจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน
“นกนางแอ่นจะขยายพันธุ์ 3 ครั้ง/ปี โดยจะวางไข่ครั้งละ 2 ฟอง มีวงจรชีวิตดังนี้ เมื่อนกได้วางไข่ จะใช้เวลาในการฟักไข่ 15 วัน จนกระทั่งเปลือกไข่แตกออกก็จะเริ่มเห็นเป็นตัว และใช้เวลาเกือบ 2 เดือน จนกว่าตัวจะโตเต็มที่ จนสามารถบินออกไปหาอาหารด้านนอกรัง (ตึกที่อยู่อาศัย) กินเองได้ ซึ่งจะใช้เวลาร่วม 4 เดือน”
ลักษณะการทำรัง นกนางแอ่นจะใช้น้ำลายในการสร้างรังให้เป็นลักษณะคล้ายถ้วยสีขาวขุ่นไปทีละนิดจนมีขนาดใหญ่ขึ้น จนสามารถวางไข่ได้ และสามารถสร้างรังขึ้นมาใหม่ทดแทนรังเก่าที่ถูกเก็บออกไปได้ โดยทั้งนกตัวผู้และตัวเมียจะช่วยกันสร้างรังในเวลาช่วงค่ำหรือกลางคืน ขณะที่เก็บรังนกนางแอ่นมาแล้วนั้นสามารถเก็บรักษาได้นานถึง 2-3 ปี
การเก็บรังนกนางแอ่น
คุณชะลิตเผยว่า รังนกนางแอ่นจะมี 2 ชนิด คือ รังนอก และรังใน โดยรังนอก คือ รังนกนางแอ่นที่มีคุณภาพเกรด A จะมีลักษณะเป็นเส้นยาวๆ และเหนียวหนึบ ส่วนรังในหรือที่เรียกว่า “รังนอน” เป็นรังนกเกรด B มีลักษณะเนื้อยุ่ยไม่เป็นเส้น
ส่วนการทำความสะอาดจะมีทั้งแบบเปียกและแบบแห้ง ซึ่งแบบเปียกนั้น คือ การแช่น้ำเพื่อทำความสะอาด ส่วนแบบแห้งจะคัดเลือกรังนกที่มีความสะอาดอยู่แล้วนำมาเก็บไว้เพื่อจำหน่ายต่อไป โดย รังนกนางแอ่น จำนวน 80-120 รัง จะมีน้ำหนัก 1 กิโลกรัม
ด้านตลาดและช่องทางจำหน่าย รังนกนางแอ่น
ส่วนช่องทางการจำหน่ายจะเป็นสินค้าแปรรูป ภายใต้แบรนด์ “เบิร์ด เบิร์ด ระนองรังนก” ที่ได้รับการคัดสรรเป็นสินค้า 5 ดาว จำหน่ายในตลาดของฝาก ซึ่งมีร้านทั่วไปในเขตชุมชนและเขตจังหวัด เป็นต้น และยังมีการจำหน่ายรังคละ และรังคัด ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 15,000-20,000 บาท/กิโลกรัม
คุณชะลิตให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเพราะเป็นสิ่งที่ทุกคนทั้งในและต่างประเทศชื่นชอบ โดยเฉพาะชาวจีนจะมีความเชื่อเกิน 100% ว่า ถ้าได้บริโภค รังนกนางแอ่น เป็นประจำจะทำให้ร่างกายแข็งแรง สามารถต้านทานต่อไข้หวัดต่างๆ ได้ ที่สำคัญผิวพรรณ และหน้าตาสวยสดใส
เนื่องจากมีความเชื่อว่า รังนกนางแอ่น มีคุณสมบัติพิเศษเหนือกว่าสิ่งอื่นใด เพราะในแต่ละวันนกนางแอ่นจะบินออกหากินตั้งแต่ 6 โมงเช้า และจะกลับรัง 6 โมงเย็น โดยไม่จับไม่เกาะตามกิ่งไม้ใดๆ พอตกค่ำก็จะช่วยกันสร้างรังด้วยน้ำลายที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร เพื่อใช้ในการสืบพันธุ์ ปีละ 3 รัง/คู่ โดยมีอายุนานถึง 10 ปี
นกนางแอ่นจะมีความพิเศษ คือ เมื่อมีอายุประมาณ 8 เดือน จะจับคู่และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปจนตาย เป็นสัตว์ที่จงรักภักดี รักเดียว ใจเดียว ถึงแม้ว่าตัวใดตัวหนึ่งจะถูกทำร้ายหรือตายจากกันไป อีกตัวหนึ่งก็จะอยู่โดดเดียวไปจนตาย
ฝากถึงผู้ที่สนใจเลี้ยงนกนางแอ่น
“สำหรับคนที่สนใจจะเลี้ยงนกนางแอ่นควรศึกษาให้ดี ไม่ใช่เลี้ยงตามความรู้สึกที่ว่าเห็นคนอื่นเลี้ยงแล้วรวย เพราะความจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้น ซึ่งคนที่ทำแล้วขาดทุนก็มี ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลและสอบถามจากผู้รู้ หรือผู้ที่มีประสบการณ์ ก่อนลงมือทำ” คุณชะลิต ฝากแง่คิดทิ้งท้าย
ขอขอบคุณ คุณชะลิต ระวังภัย ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดระนอง และสมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ โทร.089-649-9710
อ้างอิง : นิตยสารสัตว์บก ฉบับที่ 279